นายวิจัย จันทรานุตร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ NEP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่เขตนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดนครราชสีมา ว่า ขณะนี้การก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ได้ดำเนินไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยได้ลงเสาเข็มและก่อสร้างทำถนนภายในซึ่งแม้ในช่วงนี้จะมีฝนตกและเป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้าง แต่บริษัทฯ คาดว่าโรงงานเฟสแรกจะก่อสร้างแล้วเสร็จได้ภายในเดือนกันยายน 54 ตามแผนที่วางไว้แน่นอน
ทั้งนี้ บริษัทฯ กำลังศึกษาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ และวางแนวทางการตลาดเพิ่มเติม เพื่อช่วยดันยอดการจำหน่ายให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันกำลังศึกษาบรรจุภัณฑ์ชนิด Label และ Shink film และกระสอบกราเวียร์ และอนาคตคาดว่าลูกค้าจะหันมาใช้กระสอบกราเวียร์มากขึ้น เนื่องจากมีความสวยงาม และสามารถป้องกันความชื้นได้ดี โดยต้นทุนของทางบริษัทฯ อาจจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้มีอัตรามูลค่าเพิ่มสูงกว่ากระสอบรูปแบบเดิม
ปัจจุบัน ตลาดการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์นั้นมีการแข่งขันกันสูง โดยได้มีผู้ผลิตรายใหม่เข้ามาเพิ่มเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ถือว่ามีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ เพราะอยู่ในธุรกิจนี้มานาน มีความเชี่ยวชาญ และผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน ซึ่งหากโรงงานแห่งใหม่แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้จะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และสามารถช่วยให้เพิ่มผลผลิตให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 250 ตันต่อเดือนแน่นอน
" อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกนั้นจะมีลักษณะสองแบบ คือผู้ประกอบการที่มีสินค้าที่จะต้องใช้กระสอบพลาสติกจะลงทุนตั้งโรงงานผลิตกระสอบของตนเอง หากมีกำลังผลิตเหลือจะรับผลิตกระสอบให้แก่ผู้ที่ต้องการ อีกแบบหนึ่งจะประกอบการผลิตกระสอบขายให้แก่ลูกค้าที่ต้องใช้บรรจุสินค้าที่ไม่มีโรงงานผลิตกระสอบของตัวเอง ซึ่งบริษัทฯ จะต้องแข่งขันกับผู้ประกอบการในลักษณะเช่นนี้ จากการผลิตแต่กระสอบแบบ Flexo และกระสอบปอ ในอดีต จึงจำเป็นต้องหันมาแข่งขันกับผู้ประกอบรายอื่นๆโดยการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มปัจจุบันบริษัท ฯ มีลูกค้าอยู่ประมาณ 100 กว่าราย โดยในจำนวนนี้มีลูกค้าใหม่ที่ใช้กระสอบกราเวียร์รวมอยู่ด้วย "
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 54 บริษัทฯ ยังมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่จะมีรายได้เติบโตประมาณ 40 % จากปี 53 เพราะปีนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และจัดซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามา จึงเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและส่งผลให้มียอดขายเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทฯ กำลังศึกษาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ และวางแนวทางการตลาดเพิ่มเติม เพื่อช่วยดันยอดการจำหน่ายให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันกำลังศึกษาบรรจุภัณฑ์ชนิด Label และ Shink film และกระสอบกราเวียร์ และอนาคตคาดว่าลูกค้าจะหันมาใช้กระสอบกราเวียร์มากขึ้น เนื่องจากมีความสวยงาม และสามารถป้องกันความชื้นได้ดี โดยต้นทุนของทางบริษัทฯ อาจจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้มีอัตรามูลค่าเพิ่มสูงกว่ากระสอบรูปแบบเดิม
ปัจจุบัน ตลาดการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์นั้นมีการแข่งขันกันสูง โดยได้มีผู้ผลิตรายใหม่เข้ามาเพิ่มเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ถือว่ามีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ เพราะอยู่ในธุรกิจนี้มานาน มีความเชี่ยวชาญ และผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน ซึ่งหากโรงงานแห่งใหม่แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้จะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และสามารถช่วยให้เพิ่มผลผลิตให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 250 ตันต่อเดือนแน่นอน
" อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกนั้นจะมีลักษณะสองแบบ คือผู้ประกอบการที่มีสินค้าที่จะต้องใช้กระสอบพลาสติกจะลงทุนตั้งโรงงานผลิตกระสอบของตนเอง หากมีกำลังผลิตเหลือจะรับผลิตกระสอบให้แก่ผู้ที่ต้องการ อีกแบบหนึ่งจะประกอบการผลิตกระสอบขายให้แก่ลูกค้าที่ต้องใช้บรรจุสินค้าที่ไม่มีโรงงานผลิตกระสอบของตัวเอง ซึ่งบริษัทฯ จะต้องแข่งขันกับผู้ประกอบการในลักษณะเช่นนี้ จากการผลิตแต่กระสอบแบบ Flexo และกระสอบปอ ในอดีต จึงจำเป็นต้องหันมาแข่งขันกับผู้ประกอบรายอื่นๆโดยการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มปัจจุบันบริษัท ฯ มีลูกค้าอยู่ประมาณ 100 กว่าราย โดยในจำนวนนี้มีลูกค้าใหม่ที่ใช้กระสอบกราเวียร์รวมอยู่ด้วย "
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 54 บริษัทฯ ยังมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่จะมีรายได้เติบโตประมาณ 40 % จากปี 53 เพราะปีนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และจัดซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามา จึงเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและส่งผลให้มียอดขายเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง