วานนี้(31พ.ค.) เวลา 07.30 น. น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ อันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย แกนนำพรรคเดินทางมาบวงสรวงอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยมีชาวบ้านนำสายสะพายสีขาวปักข้อความสีแดงว่า “ว่าที่นายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทย” พร้อมทั้งอักษรย่อ “พท.” (พรรคเพื่อไทย) อยู่ด้านล่างมาสวมให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ จากนั้น ได้จุดธูป 9 ดอก เพื่อบวงสรวง โดยมีเครื่องบวงสรวงเพื่อดลบันดาลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯหญิงคนแรก
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวกับชาวบ้านว่า “ถือโอกาสนี้มาขอบารมีและพรจากย่าโม เพราะท่านเป็นผู้หญิงเก่งและกล้าหาญ วันนี้จึงถือโอกาสฝากตัวเป็นลูกหลานย่าโมด้วย และถ้ามีโอกาสจะขออนุญาตกลับมาที่โคราชอีกครั้ง”
ทั้งนี้ยังได้โชว์ผัดหมี่โคราช ที่เตรียมการโดยร้านผัดหมี่ “ป้าจงรัก” ซึ่งเคยนำขายที่สะพานผ่านฟ้าฯและแยกราชประสงค์ช่วงชุมนุมของคนเสื้อแดง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการตั้งเป้า ส.ส.ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่า ตั้งเป้าไว้อยากได้พื้นที่ที่เคยเป็นของเพื่อไทยคืนทั้งหมด
ส่วนกังวลพื้นที่ไหนเป็นพิเศษ เห็นว่าอาจยังเร็วไปที่จะบอกว่ากังวลจุดใดเพราะโดยรวมแล้วการแข่งขันในจ.นครราชสีมา สูงก็จริง แต่ก็ประชาชนก็ตอบรับนโยบาย คาดว่าอีกสัก 2-3 อาทิตย์ก็สามารถจะประเมินได้
ทั้งนี้เห็นว่า จ.นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศ ดังนั้นจะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ กทม.-นครราชสีมา นอกจากนี้ พรรคจะทำเส้นทางกทม.-เชียงใหม่ และ กทม.-หัวหิน ด้วย โดยเราจะทำเป็นเมกะโปรเจ็คต์ ซึ่งมีแผนโครงงานไว้หมดแล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการหมุนเวียน กระจายความเจริญ ไปยังหัวเมืองสำคัญและใกล้เคียง โดยยืนยันว่าจะไม่ทำให้เสียระบบนโยบายการเงิน การคลัง เราจะไม่กู้อย่างเดียวแต่จะหาเงินเองด้วย
นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่า รฟม. กล่าวว่า เราจะทำรถไฟความเร็วสูง 250 กม.ต่อชั่วโมง จากกทม.มายังนครราชสีมา และมีโครงการเชื่อมต่อไปยังประเทศลาวและจีน แม้จะต้องใช้งบประมาณหลายแสนล้านบาท แต่รับรองว่าทำได้แน่นอนไม่ใช่การขายฝัน ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลโครงการเมกะโปรเจ็คต์ที่คิดไว้จะเริ่มทำทั้งหมดภายใน 4ปี และจะทำให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยกลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ดีวันนี้ยังไม่อยากพูดในรายละเอียดมากนัก เพราะจะถูกลอกและเกทับนโยบายอีก ทั้งนี้ถ้าจะมีการกู้เงินมาทำโครงการลักษณะนี้เชื่อว่าประชาชนจะสนับสนุน เพราะไม่ได้กู้มาแจกเฉยๆแล้วจบไป สิ่งที่น่าปวดหัวมากกว่าเมื่อได้มาเป็นรัฐบาลคือการใช้หนี้ที่ยังค้างคาอยู่
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา มีการจัดเสวนาโต๊ะกลมเรื่องปรองดอง ครั้งที่ 2 มีนักศึกษาจากหลายสถาบันเข้าฝึกอบรมผู้ช่วยในการหาเสียงเลือกตั้ง ต่อมาพล.ต.สนั่นและแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาได้ร่วมกันเปิดเว็บไซต์ www.prongdong.net เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้คนรุ่นใหม่และเยาวชนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยโพสต์ผ่านข้อความ และผ่านทางยูทูป
ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานพรรครักษ์สันติ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1 นำผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียงบริเวณตลาดบางกะปิ ทั้งนี้ในวันที่ 1 - 5 มิ.ย.นี้ ร.ต.อ.ปุระชัยจะลงพื้นที่หาเสียงในภาคอีสานได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด
ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวถึงนโยบายเฉพาะกทม.ว่า พรรคประกาศนโยบายการทำงานที่สุจริต เพราะการทุจริตมีผลเชื่อมโยงทำให้ต้นทุนในทุกๆ ด้านแพงขึ้น ทำให้ประชาชนอดอยาก โดยเฉพาะเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าและผู้สมัคร ส.ส.พรรครักประเทศไทย นำลูกทีมหาเสียงที่ตลาดหลังตึกไอทีเอฟ ย่านสีลม
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเตรียมร้องต่อ กกต. ให้ยุบ 3 พรรคการเมือง ประกอบด้วยพรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ภายหลังที่แกนนำของพรรคซึ่งถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง ออกมาเสนอหน้าทางการเมืองถึงการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งที่ขณะนี้ยังไม่รู้ผลคะแนน
“ทำไมคนไม่มีสิทธิ์กระสันกระเหี้ยนกระหือรือนัก ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์แม้กาคะแนนเลือกตั้ง ผมจะร้องกกต.ให้ยุบพรรคโดยเฉพาะกรณีของนายบรรหาร ศิลปอาชา เพราะทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง มาทำตัวเป็นหัวหน้าพรรคทั้งที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ผมมองว่าพรรคไหนได้เสียงข้างมากต้องจัดตั้งรัฐบาลและหัวหน้าพรรคต้องเป็นนายกฯ และในวันที่ 3 ก.ค.หากผมได้เข้าสภาผมจะต่อสู้เรื่องนี้” นายชูวิทย์ กล่าว
ที่จ.อุดรธานี นายองอาจ วิเศษ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคภูมิใจไทย พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค 4-5 คน ได้ช่วยกันเข็นเกวียนบรรทุกกระสอบข้าว พร้อมกับคาราวานรถสามล้อปั่น ซึ่งเป็นกลุ่มคนรากหญ้า ที่ทางพรรคให้ความสำคัญ ในการช่วยเหลือ
ที่มัสยิดยะกัง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ หรือหมอแว ประธานพรรคแทนคุณแผ่นดิน และเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 ของพรรคฯ พร้อมกลุ่มพลังมวลชนร่วมประกอบพิธีละหมาดฮายัต เพื่อขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าให้พรรคแทนคุณแผ่นดินมีความเจริญก้าวหน้า ก่อนที่ปล่อยคาราวานรถแห่จำนวนกว่า 10 คันออกจากจุดสตาร์ทคือหน้ามัสยิดยะกัง โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.เชียงใหม่ รวมระยะทางกว่า 2,500 กิโลเมตร ใช้เวลารวม 21 วัน ซึ่งจะมีการแวะตามจังหวัดต่างๆที่เป็นเส้นทางผ่าน เพื่อทำการขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนถึงนโยบายและจุดยืนของพรรคแทนคุณแผ่นดิน ทั้งนี้ในระบบปารตี้ลิสต์ไม่ได้คาดหวังว่าจะครองที่นั่งมากมาย เพียงแค่ 10 ที่นั่งในสภาฯก็พอใจแล้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวกับชาวบ้านว่า “ถือโอกาสนี้มาขอบารมีและพรจากย่าโม เพราะท่านเป็นผู้หญิงเก่งและกล้าหาญ วันนี้จึงถือโอกาสฝากตัวเป็นลูกหลานย่าโมด้วย และถ้ามีโอกาสจะขออนุญาตกลับมาที่โคราชอีกครั้ง”
ทั้งนี้ยังได้โชว์ผัดหมี่โคราช ที่เตรียมการโดยร้านผัดหมี่ “ป้าจงรัก” ซึ่งเคยนำขายที่สะพานผ่านฟ้าฯและแยกราชประสงค์ช่วงชุมนุมของคนเสื้อแดง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการตั้งเป้า ส.ส.ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่า ตั้งเป้าไว้อยากได้พื้นที่ที่เคยเป็นของเพื่อไทยคืนทั้งหมด
ส่วนกังวลพื้นที่ไหนเป็นพิเศษ เห็นว่าอาจยังเร็วไปที่จะบอกว่ากังวลจุดใดเพราะโดยรวมแล้วการแข่งขันในจ.นครราชสีมา สูงก็จริง แต่ก็ประชาชนก็ตอบรับนโยบาย คาดว่าอีกสัก 2-3 อาทิตย์ก็สามารถจะประเมินได้
ทั้งนี้เห็นว่า จ.นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศ ดังนั้นจะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ กทม.-นครราชสีมา นอกจากนี้ พรรคจะทำเส้นทางกทม.-เชียงใหม่ และ กทม.-หัวหิน ด้วย โดยเราจะทำเป็นเมกะโปรเจ็คต์ ซึ่งมีแผนโครงงานไว้หมดแล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการหมุนเวียน กระจายความเจริญ ไปยังหัวเมืองสำคัญและใกล้เคียง โดยยืนยันว่าจะไม่ทำให้เสียระบบนโยบายการเงิน การคลัง เราจะไม่กู้อย่างเดียวแต่จะหาเงินเองด้วย
นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่า รฟม. กล่าวว่า เราจะทำรถไฟความเร็วสูง 250 กม.ต่อชั่วโมง จากกทม.มายังนครราชสีมา และมีโครงการเชื่อมต่อไปยังประเทศลาวและจีน แม้จะต้องใช้งบประมาณหลายแสนล้านบาท แต่รับรองว่าทำได้แน่นอนไม่ใช่การขายฝัน ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลโครงการเมกะโปรเจ็คต์ที่คิดไว้จะเริ่มทำทั้งหมดภายใน 4ปี และจะทำให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยกลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ดีวันนี้ยังไม่อยากพูดในรายละเอียดมากนัก เพราะจะถูกลอกและเกทับนโยบายอีก ทั้งนี้ถ้าจะมีการกู้เงินมาทำโครงการลักษณะนี้เชื่อว่าประชาชนจะสนับสนุน เพราะไม่ได้กู้มาแจกเฉยๆแล้วจบไป สิ่งที่น่าปวดหัวมากกว่าเมื่อได้มาเป็นรัฐบาลคือการใช้หนี้ที่ยังค้างคาอยู่
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา มีการจัดเสวนาโต๊ะกลมเรื่องปรองดอง ครั้งที่ 2 มีนักศึกษาจากหลายสถาบันเข้าฝึกอบรมผู้ช่วยในการหาเสียงเลือกตั้ง ต่อมาพล.ต.สนั่นและแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาได้ร่วมกันเปิดเว็บไซต์ www.prongdong.net เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้คนรุ่นใหม่และเยาวชนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยโพสต์ผ่านข้อความ และผ่านทางยูทูป
ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานพรรครักษ์สันติ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1 นำผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียงบริเวณตลาดบางกะปิ ทั้งนี้ในวันที่ 1 - 5 มิ.ย.นี้ ร.ต.อ.ปุระชัยจะลงพื้นที่หาเสียงในภาคอีสานได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด
ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวถึงนโยบายเฉพาะกทม.ว่า พรรคประกาศนโยบายการทำงานที่สุจริต เพราะการทุจริตมีผลเชื่อมโยงทำให้ต้นทุนในทุกๆ ด้านแพงขึ้น ทำให้ประชาชนอดอยาก โดยเฉพาะเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าและผู้สมัคร ส.ส.พรรครักประเทศไทย นำลูกทีมหาเสียงที่ตลาดหลังตึกไอทีเอฟ ย่านสีลม
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเตรียมร้องต่อ กกต. ให้ยุบ 3 พรรคการเมือง ประกอบด้วยพรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ภายหลังที่แกนนำของพรรคซึ่งถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง ออกมาเสนอหน้าทางการเมืองถึงการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งที่ขณะนี้ยังไม่รู้ผลคะแนน
“ทำไมคนไม่มีสิทธิ์กระสันกระเหี้ยนกระหือรือนัก ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์แม้กาคะแนนเลือกตั้ง ผมจะร้องกกต.ให้ยุบพรรคโดยเฉพาะกรณีของนายบรรหาร ศิลปอาชา เพราะทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง มาทำตัวเป็นหัวหน้าพรรคทั้งที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ผมมองว่าพรรคไหนได้เสียงข้างมากต้องจัดตั้งรัฐบาลและหัวหน้าพรรคต้องเป็นนายกฯ และในวันที่ 3 ก.ค.หากผมได้เข้าสภาผมจะต่อสู้เรื่องนี้” นายชูวิทย์ กล่าว
ที่จ.อุดรธานี นายองอาจ วิเศษ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคภูมิใจไทย พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค 4-5 คน ได้ช่วยกันเข็นเกวียนบรรทุกกระสอบข้าว พร้อมกับคาราวานรถสามล้อปั่น ซึ่งเป็นกลุ่มคนรากหญ้า ที่ทางพรรคให้ความสำคัญ ในการช่วยเหลือ
ที่มัสยิดยะกัง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ หรือหมอแว ประธานพรรคแทนคุณแผ่นดิน และเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 ของพรรคฯ พร้อมกลุ่มพลังมวลชนร่วมประกอบพิธีละหมาดฮายัต เพื่อขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าให้พรรคแทนคุณแผ่นดินมีความเจริญก้าวหน้า ก่อนที่ปล่อยคาราวานรถแห่จำนวนกว่า 10 คันออกจากจุดสตาร์ทคือหน้ามัสยิดยะกัง โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.เชียงใหม่ รวมระยะทางกว่า 2,500 กิโลเมตร ใช้เวลารวม 21 วัน ซึ่งจะมีการแวะตามจังหวัดต่างๆที่เป็นเส้นทางผ่าน เพื่อทำการขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนถึงนโยบายและจุดยืนของพรรคแทนคุณแผ่นดิน ทั้งนี้ในระบบปารตี้ลิสต์ไม่ได้คาดหวังว่าจะครองที่นั่งมากมาย เพียงแค่ 10 ที่นั่งในสภาฯก็พอใจแล้ว