"ชลิต พุกผาสุข” องคมนตรี บทพิสูจน์คนดีพิทักษ์สถาบัน ทายาท “วัชโรทัย” ซบ “เพื่อแม้ว” ก็แค่เครื่องมืออำพราง “แก๊งล้มเจ้า” !?

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ในขณะที่ 'พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข' ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี คนล่าสุด จากความดีความชอบในการรับราชการทหารที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยคุณูปการที่มีต่อชาติบ้านเมืองนั้นมีมากมายหลายประการ จนเอามาสาธยายในที่นี้คงไม่หมด สืบเนื่องมาจากการเป็นสุภาพบุรุษนายทหารที่ไม่มีประวัติด่างพร้อย โดยไต่เต้าสู่ตำแหน่งด้วยลำแข้งและความสามารถของตัวเอง จนได้เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศในที่สุด

นอกจากนี้ วิถีชีวิตของท่านก็ยังเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้ใต้บังคับบัญชา และทหารรุ่นหลัง โดยท่านเป็นนายทหารที่เรียบง่าย ไม่มีความใฝ่สูง แต่ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยอุดมการณ์ของทหารอากาศ และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่ทุกลมหายใจ มาจนถึงวันนี้ที่ 'พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข' ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี คนล่าสุด ซึ่งนับว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

แต่ขณะเดียวกัน พอหันไปทางฝั่งการเมืองก็ได้พบกับเรื่องที่ชวนให้ “ปวดใจ” นั่นคือ การปรากฏรายชื่อของทายาทตระกูล “วัชโรทัย” ตระกูลที่ทำงานรับใช้ใกล้ชิดสถาบันพระมหากษัตริย์มาเนิ่นนาน ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทยของ นช.ทักษิณ ชินวัตร

โดยท่ามกลางความอกหักและผิดหวังของใครหลายคนที่ชื่อของตัวเอง “หลุดโผ” ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ จู่ๆ ก็ปรากฏรายชื่อที่ทำให้คนในพรรคเพื่อไทย “งงเป็นไก่ตาแตก” กันทั้งพรรค ถามไถ่กันให้วุ่นวายไปทั้งอาคารกีฬาเวสน์ 2 ในวันยื่นบัญชีให้ กกต. นั่นคือชื่อในลำดับที่ 31 “พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย”

ขนาดระดับรองหัวหน้าพรรคหลายคนที่ไปช่วยลุ้นจับเบอร์ พอเห็นรายชื่อในกระดาษที่พรรคถ่ายสำเนาแจกสื่อมวลชนแล้วมีชื่อของ พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย บิ๊กเพื่อไทยหลายสิบคนก็สอบถามกันเองไปทั่วสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นว่า “เขาคือใคร” มีความเกี่ยวดองอย่างไรกับคนในตระกูลดัง “วัชโรทัย” โดยเฉพาะกับ “นายแก้วขวัญ วัชโรทัย” เลขาธิการสำนักพระราชวัง

ทั้งนี้ ข้อสงสัยถึงที่มาที่ไปของชื่อนี้ กว่าที่จะได้รับคำตอบจากแกนนำพรรคหลังไปตรวจสอบหาที่มาอยู่หลายชั่วโมง จึงได้รู้ในเวลาต่อมาว่า พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย คนนี้ มีผู้ใหญ่ในพรรคบางคนไปติดต่อมา และไม่ใช่คนแปลกหน้าของพรรคเพื่อไทย ส่วนความสัมพันธ์กับนายแก้วขวัญ วัชโรทัย ก็คือ ปู่ของนายแก้วขวัญกับปู่ของพ.ต.อณันย์ วัชโรทัย เป็นพี่น้องกัน ดังนั้นโดยลำดับเครือญาติทั้งสองคนก็คือลูกพี่ลูกน้องกันนั่นเอง

และสิ่งที่ตามมาหลังจากที่ปรากฏชื่อของ พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย ซึ่งเป็นหลานของ นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 31 ของพรรคเพื่อไทย ก็คือคำถามและความสงสัยจากหลายฝ่ายที่ว่า ทำไม พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย จึงเข้ามาอยู่ในสังกัดพรรคเพื่อไทยของ “นายใหญ่” ที่คนเขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองว่า มีพฤติกรรมและคำพูดที่เป็นการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดมาหลายกรรมหลายวาระ

คำถามก็คือ พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย ซึ่งเป็นหลานของ นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง มาอยู่กับพรรคเพื่อไทยด้วยจุดประสงค์อะไร

ถึงแม้ พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย จะออกมาบอกว่า สาเหตุที่เข้าร่วมพรรคเพื่อไทยเพราะชอบในนโยบายพรรค ซึ่งเดิมตนก็เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และก่อนหน้านี้เคยอยู่กับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ช่วงที่เป็นรองนายกฯ สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร อีกทั้งการลงสมัคร ส.ส. ครั้งนี้ ก็รู้สึกแปลกใจที่ได้อันดับต้นๆ ในบัญชีรายชื่อของพรรค ซึ่งตนไม่ทราบมาก่อนว่าผู้ใหญ่ในพรรคจะให้ความสำคัญเช่นนี้

ถึงแม้ พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย จะบอกว่า ที่มาเข้าเพื่อไทยไม่ได้คุยหรือหารือกับคนในตระกูลวัชโรทัยมาก่อน เพราะคิดอะไรเองได้ และไม่คิดว่าเสียหาย ซึ่งก็ไม่มีใครทัดทานหรือแสดงความคิดเห็นอะไร และการที่ตนมาเพื่อไทยก็ไม่ได้เป็นสัญญาณพิเศษเรื่องการปรองดองหรือสมานฉันท์ระหว่าง “ท่านทักษิณ” กับใครทั้งสิ้น

“ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะผมเล่นการเมืองมาแล้วหลายพรรค เคยอยู่พรรคประชากรไทย ความหวังใหม่ ไทยรักไทย ไม่ได้เพิ่งเข้ามาอยู่กับเพื่อไทยสมัยนี้...

“ส่วนท่านแก้วขวัญท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในตระกูลเรา ผมเป็นแค่เด็กๆ คนหนึ่ง เป็นอดีตทหาร เคยทำธุรกิจ เคยลงสมัคร ส.ส. แต่สอบไม่ได้ ผมคงไม่กล้าไปขอคำแนะนำอะไรท่าน เพราะท่านไม่เกี่ยวกับการเมือง ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในตระกูล, ตระกูลของผมได้ทำงานใกล้ชิดสถาบันตั้งแต่บรรพบุรุษ ผมไม่รู้ว่าใครคิดอะไร ใครมีปัญหาอะไร แต่ยืนยันได้ว่า ผมจะไม่ทำให้ตระกูลเสื่อมเสีย”

และที่สำคัญ ถึงแม้ “พ.ต.อณันย์” ที่เป็นคนในตระกูล “วัชโรทัย” ที่ทำงานใกล้ชิดสถาบัน แต่กลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย รับใช้นายใหญ่ซึ่งเป็นบุคคลที่มีปัญหาเรื่องความจงรักภักดี และมีพฤติกรรมจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันตลอดมา จะการันตีว่าพรรคเพื่อไทยจงรักภักดี โดยบอกว่า...

“มั่นใจในพรรคเพื่อไทยว่าไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ไม่เชื่อว่าจะมีใครไม่จงรักภักดี ที่อาสาตัวขอเข้าเพื่อไทยก็เพราะมั่นใจว่าไม่มีอะไร ไม่เชื่อเรื่องที่คนไปพูดกัน เรื่องที่คนภายนอกไปพูดกันเมื่อเข้าใจผิดวันนี้ก็ต้องเข้าใจถูกได้ในอนาคต ถ้าแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันแบบนี้มันก็ไม่จบ”

แต่คำอธิบายของ พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย ซึ่งเป็นหลานของ นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง ก็ไม่สามารถคลี่คลายข้อกังขาของสังคมได้ เพราะต้องไม่ลืมว่า ในพรรคเพื่อไทยนั้นมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันอยู่ไม่น้อย และคนเหล่านี้ก็ได้ดิบได้ดีติดลำดับในบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยหลายต่อหลายคน

เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ประชาชนทั่วไปเขาจะตั้งข้อสงสัยและเคลือบแคลงในตัวของ พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย ซึ่งเป็นหลานของ นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง

เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า การหยิบชื่อพ.ต.อณันย์ มานั่งปาร์ตี้ลิสต์ในลำดับที่น่าจะได้รับเลือกตั้ง ก็เพราะด้วยนามสกุล “วัชโรทัย” อยู่ในส่วนหนึ่งของแผนที่จะช่วยให้ข้อครหาในเรื่องความไม่จงรักภักดีของแกนนำพรรคหลายคนคลายลงไปบ้าง และใช้นามสกุล “วัชโรทัย” เป็นเครื่องมืออำพรางกลิ่นสาบสางของขบวนการ “แก๊งล้มเจ้า”

ส่วนที่ พ.ต.อณันย์ บอกว่า “รู้สึกแปลกใจที่ได้อันดับต้นๆ ในบัญชีรายชื่อของพรรค ซึ่งผมไม่ทราบมาก่อนว่าผู้ใหญ่ในพรรคจะให้ความสำคัญเช่นนี้” พ.ต.อณันย์ ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่า “ความจริง” มันเป็นเช่นใด

แต่สิ่งที่อยากถามก็คือ ก่อนที่จะตัดสินใจร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยของ นช.ทักษิณ พ.ต.อณันย์ ไม่ได้ปรึกษาคนในตระกูล “วัชโรทัย” จริงๆ น่ะหรือ !?

**************************************
 

พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย ลำดับที่ 31

พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย เกิดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2501 เป็นบุตรของ นายบุญดำรงศักดิ์-นางพอชม วัชโรทัย มีศักดิ์เป็นหลาน นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง เนื่องจากปู่ของพ.ต.อณันย์เป็นลุงของนายแก้วขวัญ

พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย จบโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ในปี 2524 รับราชการทหารจนได้ติดยศ พ.ต. ก็ลาออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัว ก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 16 กทม. พรรคประชากรไทย เมื่อปี 2544 ตามคำเชื้อเชิญของ นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งมีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัว แต่ปรากฏว่าการเลือกตั้งครั้งนั้นพ.ต.อณันย์ “สอบตก” ไม่ได้รับเลือกตั้ง

หลังจากนั้นต่อมาในต้นปี 2547 รัฐบาลทักษิณแต่งตั้งพ.ต.อณันย์เป็นที่ปรึกษาพล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองนายกรัฐมนตรี แต่ปลายปีเดียวกันก็พ้นตำแหน่งไปหลังจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ ขอลาออก จากนั้น พ.ต.อณันย์ ก็ห่างเหินการเมืองหันไปทำธุรกิจส่วนตัว จนกระทั่ง นช.ทักษิณ ส่งคนไปติดต่อให้มาลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย ในลำดับที่ 31 ซึ่งเป็นลำดับที่น่าจะได้รับเลือกตั้ง และ นช.ทักษิณ คงหวังใช้นามสกุล “วัชโรทัย” ช่วยคลายความสงสัยในเรื่องความไม่จงรักภักดีของแกนนำพรรคหลายคน และใช้นามสกุล “วัชโรทัย” เป็นเครื่องมืออำพราง “แก๊งล้มเจ้า” ที่มีตัวเองเป็นหัวหน้า