xs
xsm
sm
md
lg

คุณหญิงตบหน้าทีมพท. เหตุรำคาญเสียงดัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ทีมหาเสียง"พงษ์พิสุทธิ์ จินตโสภณ"พรรคเพื่อไทย ขึ้น โรงพักวัดพระยาไกร แจ้งจับ คุณหญิงวัย 62 กล่าวหาทำร้ายตบหน้า ขณะลงพื้นที่หาเสียง ถูกด่า"กูไม่เลือกพวกมึง ไอ้พรรคขี้โกง"ตร.นัดคู่กรณีทั้งสองมาสอบปากคำอีกครั้งในวันนี้ ด้าน กกต.เตือนพรรคหนุนพวกป่วนขณะหาเสียง ระวังผิดกฎหมายเลือกตั้ง

วานนี้(25 พ.ค.)เวลา 08.30 น.ที่ สน.วัดพระยาไกร นางอุดมลักษณ์ จันทร์มา อายุ 49 ปี ทีมงานหาเสียงของ นายพงษ์พิสุทธิ์ จินตโสภณ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบแบ่งเขต พรรคเพื่อไทย เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม พา น.ส.ญาณี โมฮำมัสอีสสมาอีล อายุ 24 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.กฤษณะ จันทร์ประเสริฐ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.วัดพระยาไกร ว่าถูกทำร้ายร่างกายขณะกำลังเดินแจกใบปลิวหาเสียงให้กับนายพงษ์พิสุทธิ์ ที่บริเวณตลาดสดกิ่งจันทร์ ถนนจันทร์ แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม

นางอุดมลักษณ์ ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.ที่ผ่านมา ตนกับ น.ส.ญาณี ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายภาพและเก็บข้อมูล พร้อมทีมงานหาเสียงของนายพงษ์พิสุทธิ์ ได้นำรถติดเครื่องขยายเสียงมาลงพื้นที่หาเสียงบริเวณกลางตลาดสดกิ่งจันทร์ ก็ได้มีหญิงคนหนึ่งทราบภายหลังชื่อ คุณหญิงพวงทอง เกตุอังกูร อายุ 62 ปี ซึ่งมีบ้านพักอยู่บริเวณดังกล่าว เดินตามหลังรถติดเครื่องขยายเสียงของพวกมา พร้อมทั้งด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย พอจับใจความได้ว่า “กูไม่เลือกพวกมึง ไอ้พรรคขี้โกง”

นางอุดมลักษณ์ ให้การต่อว่า ช่วงนั้นเอง น.ส.ญาณี ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายภาพและเก็บข้อมูลของทีมหาเสียง กำลังยืนถ่ายรูปนายพงษ์พิสุทธิ์ เดินแจกใบปลิว เห็นคุณหญิงพวงทอง กำลังด่ากราดอยู่จึงยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเก็บไว้ พอคุณหญิงพวงทอง เห็นเข้าก็เดินปรี่เข้ามาคว้ากล้องที่มือ และบอกให้ลบรูปของตัวเองออก แต่ น.ส.ญาณี ไม่ยอมลบ คุณหญิงพวงทอง จึงใช้ฝ่ามือตบเข้าที่แก้มข้างซ้ายอย่างจัง ทำให้ตนกับทีมงานหาเสียงจึงรีบเข้าไปห้ามปราม พร้อมทั้งแยกทั้งคู่ออกก่อนจะพา น.ส.ญาณี มาแจ้งความดังกล่าว

ด้านนายพงษ์พิสุทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า หลังจากมีการยุบสภา และเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งแล้วก็เกิดเรื่องในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการด่าทอ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนอาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และทุกครั้งที่เกิดเรื่องตนก็จะไม่ตอบโต้ แต่จะกล่าวเชิญชวนให้ประชาชนในพื้นที่ไปเลือกตั้งแทน

หลังรับแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มาทำการสอบปากคำที่โรงพัก พร้อมทั้งไกล่เกลี่ยเพื่อให้เรื่องยุติลงด้วยความดี โดยทางคุณหญิงพวงทอง ผู้ถูกกล่าวหา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นพวกใครหรือชื่นชอบพรรคใดเป็นพิเศษ แต่ที่ลงมือทำไปแบบนั้นเพราะรำคาญเสียงของเครื่องขยายเสียงจนทนไม่ไหวเท่านั้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งให้ น.ส.ญาณี ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ก่อนนัดคู่กรณีทั้ง 2 คน มาสอบปากคำอีกครั้งในวันนี้ (26 พ.ค.) เวลา 16.00 น.

**กกต.เตือนกลุ่มป่วนหาเสียง

นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่มีมวลชนไปโห่ ชูป้าย โจมตีในระหว่างการหาเสียงของฝ่ายตรงข้ามว่า เรื่องนี้ต้องขอร้องผู้สมัคร และพรรคการเมือง เพราะขณะนี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และส.ส.เขต ก็มีเบอร์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการทำอะไรที่จะฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง หรือระเบียบของ กกต. ก็ขอให้พึงระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยง การกระทำอะไรที่มีลักษณะเป็นการบังคับขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ในการฝ่ายฝืนกฎหมายเลือกตั้ง การหาเสียงในการนำมวลชนไปปิดล้อม เป็นการใช้อิทธิพลไปขู่บังคับนั้นทำไม่ได้

ดังนั้นผู้สมัคร และพรรคการเมืองต้องดูระเบียบ กกต. ถ้าหากว่ารู้ว่าเป็นมวลชนของตัวเองไปกระทำแล้วไม่ห้ามปราม ก็อาจจะมีปัญหากับตัวผู้สมัครเองได้

เมื่อถามว่าทางพรรคการเมืองอยากให้ กกต.ประชุมเรื่องนี้อย่างจริงจังและกำหนดมาตรการออกมา นายประพันธ์ กล่าวว่า ในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย กกต.ก็ประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หากผิดกฎหมายอาญา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถดำเนินคดีทางอาญาได้เลย และหากรายงานมาที่ กกต. ก็จะพิจารณาเรื่องใบเหลือง ใบแดง และเรื่องยุบพรรค ส่วนทางพนักงานสอบสวนฯ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ทำในเรื่องของอาญา

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการให้ กกต.ให้คำนิยามคำว่า การขัดขวางการหาเสียงที่ชัดเจนกว่านี้ เพราะหากเป็นเรื่องทางอาญา ก็จะเป็นเรื่องการทำร้ายร่างกายเพียงอย่างเดียว นายประพันธ์ กล่าวว่า การทำร้ายร่างกายเป็นความชัดเจนในเรื่องกฎหมายอาญา ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา 53 อนุ 5 ได้เขียนไว้ชัดเจนแล้ว ซึ่งต้องดูตามข้อเท็จจริง

" ผมก็อยากจะขอร้องว่า การกระทำในบางเรื่องอาจจะไม่ผิดกฎหมายโดยตรง แต่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ กกต.ก็ขอให้ระมัดระวัง เพราะในช่วงนี้อยู่ในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จึงอยากขอความร่วมมือพรรคการเมือง และผู้สมัคร เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และผลการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ" นายประพันธ์ กล่าว และว่า เรื่องในลักษณะนี้เคยมีการร้องเรียนและ กกต.เคยพิจารณาแล้วในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ซึ่งหากผู้สมัครมีส่วนรู้เห็น หรือผู้ที่ทำเป็นหัวคะแนน หรือคนใกล้ชิด ก็อาจจะเอาผิดไปถึงผู้สมัครได้

**"องอาจ"เกรงพัฒนาไปสู่ความรุนแรง

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กลุ่มคนที่ก่อกวนการหาเสียงในการเลือกตั้ง อาจจะมีโอกาสพัฒนาไปสู่ความรุนแรงได้ โดยความรุนแรงใน 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มมาจากการก่อกวนไปมาสู่ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยในวันเลือกตั้งนายกฯในสภาผู้แทนราษฎร รถยนต์ของตนก็ถูกทุบ ขณะวิ่งออกจากสภาฯ ก็ถูกสาดน้ำมัน แต่คนขับรถเร่งเครื่องออกมาก่อน ทำให้ไม่เกิดโศกนาฎกรรมหน้าสภา เพราะมี ส.ส.นั่งอยู่ในรถกว่าสิบคน เนื่องจากมีการติดไฟแล้ว จึงรอดจากการถูกเผาทั้งรถทั้งคน

นายองอาจ กล่าวว่า ตนอยากให้กกต. เคร่งครัดในมาตรา 53 (5) กรณีผู้ใดหรือผู้สมัครหลอกลวง ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายให้คะแนนนิยมของบุคคล หรือพรรคเสียหาย จึงอยากให้เข้มงวด การใช้อิทธิพลคุกคามผู้สมัครไม่ควรเกิดขึ้น จึงอยากเรียกร้องคนเสื้อแดง หรือกลุ่มใดๆให้ระงับการก่อกวนผู้สมัคร เพราะอาจจะเป็นการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้

ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยจะฟ้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์โดยกล่าวหาว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค พูดจาใส่ร้ายนั้น ยืนยันว่าไม่ได้กล่าวหาเลื่อนลอย และพร้อมจะชี้แจง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งว่า ให้ทางเจ้าหน้าที่เป็นผู้ชี้แจง ซึ่งเราก็ได้กำชับไปตลอด ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กกต. ก็คงต้องช่วยดูแล เพราะเราต้องการให้การเลือกตั้งเรียบร้อย ต้องยอมรับว่ามักจะมีการเคลื่อนไหวแบบนี้ และบางทีเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเมืองบ้าง และไม่เกี่ยวบ้าง ก็นำเอามาโยงกัน ซึ่งตนได้สั่งให้ลูกพรรค ระมัดระวังแล้ว

เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรี ได้มีการปรับทีมรักษาความปลอดภัยใหม่ทั้งชุด มีความมั่นใจแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางตำรวจได้แสดงความพร้อมมาตลอดในเรื่องการดูแลผู้สมัครทุกพรรคการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น