xs
xsm
sm
md
lg

มาร์คสะดุ้ง!โพล คนกรุงเลือกพท.-เจ๊ปู "เทพ"เมินถูกยื่นยุบปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-กรุงเทพโพลชี้คนกรุงจะเลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขต หวังได้"ยิ่งลักษณ์"เป็นนายกฯ หญิงคนแรก ส่วนปชป.และ"มาร์ค" คะแนนตามหลัง ระบุรอบนี้"ชูวิทย์"มีสิทธิ์ได้เป็นส.ส. ด้าน "เทพเทือก"ไม่สนเผาไทยร้องกกต.ยุบปชป. ยัน"ไอ้ตู่-ไอ้เต้น-เหวง"เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายจริง เผาบ้านเผาเมืองชัด หลักฐานครบ อ้างพูดตอนที่ยังไม่ได้สมัครส.ส. ไม่ผิด "มาร์ค" อัดซ้ำ เพื่อไทยเล่นตุกติก ไม่เชื่อพวกที่ตามราวีเป็นพวกแดงเทียม จี้พูดให้ชัดเรื่องนิรโทษ ด้าน"ไอ้เต้น" ยันร้องกกต.แน่ บอก"แก๊งแดง"ชูป้ายไล่"มาร์ค"แค่การแสดงออก ไม่ผิดกติกา

กรุงเทพโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,178 คน โดยเก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 20-22 พ.ค.2554 ที่ผ่านมา พบว่า เกณฑ์ที่คนกรุงเทพฯ ใช้ในการตัดสินใจเลือกผู้สมัครส.ส.ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ อันดับแรก ดูจากผลงานที่ผ่านมาในอดีต ร้อยละ 31.7 รองลงมาดูนโยบายที่หาเสียง ร้อยละ 31.2 และดูพรรคที่สังกัด ร้อยละ 16.6

สำหรับคะแนนนิยมที่มีต่อพรรคการเมืองในการเลือกตั้งส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อ พบว่า พรรคที่ได้คะแนนนิยมมากที่สุดได้แก่ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 25.8 รองลงมา คือ พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 14.7 และพรรครักประเทศไทย ร้อยละ 2.0 อย่างไรก็ตาม มีถึงร้อยละ 52.0 ที่ระบุว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกคนของพรรคใด

ส่วนคะแนนนิยมที่มีต่อพรรคการเมืองในการเลือกตั้งส.ส.ระบบแบ่งเขต พบว่า คนกรุงเทพฯ ตั้งใจจะเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย มากที่สุด ร้อยละ 26.3 รองลงมา คือ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 15.2 และผู้สมัครจากพรรครักประเทศไทย ร้อยละ 1.7 ขณะที่มีถึงร้อยละ 51.9 ระบุว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร

เมื่อสอบถามว่าอยากได้ใครมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากที่สุด พบว่า อันดับแรก ได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 26.9 รองลงมา คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 17.4 และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ร้อยละ 3.6 ขณะที่อีกร้อยละ 49.2 ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใครดี

ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นต่อกกต. ในการควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพ และบริสุทธิ์ยุติธรรม พบว่าร้อยละ 66.1 ไม่ค่อยเชื่อมั่นถึงไม่เชื่อมั่นเลย ขณะที่ร้อยละ 33.9 เชื่อมั่นค่อนข้างมาก ถึงเชื่อมั่นมาก

****กกต.ยังไม่รู้พท.ร้องเรื่องอะไร

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อกกต. ให้ดำเนินการตรวจสอบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พาดพิงผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่าเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการก่อการร้าย ซึ่งเป็นการชี้นำ และมีผลต่อคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย ว่า ต้องมีการตรวจสอบก่อนว่าเรื่องดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่ในขณะนี้ ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนที่เป็นหนังสือเข้ามา จึงไม่ทราบว่าจะร้องในเรื่องใด

ส่วนที่ว่าจะเป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบก่อนว่า ผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ เพราะการกระทำบางอย่างผิดกฎหมายอาญา แต่อาจจะไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้งก็ได้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรณีดังกล่าว หากมีความผิดตามเรื่องที่จะร้อง ก็จะมีความผิดตาม ม. 53 (5) ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. โดยมีโทษจำคุก ปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

** "เทือก"ยันมีคนเอี่ยวเผาบ้านเผาเมืองจริง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่ได้กล่าวถึงผู้สมัครพรรคเพื่อไทยทุกคนเป็นผู้ก่อการร้าย ตนเพียงแต่เรียนให้พี่น้องประชาชนได้ตั้งข้อสังเกตุ และได้พิจารณาว่า ในบรรดาผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อ ประมาณ 22 คน บางคนมีพฤติกรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องการก่อการร้าย การเผาบ้านเผาเมืองชัดเจน เช่น นายจตุพร นายณัฐวุฒิ นพ.เหวง เป็นต้น

"ที่ผมพูดไม่ได้ใส่ร้ายใคร คนไทยทั้งประเทศก็คงจำภาพเหล่านี้ได้ เพราะการกระทำของนายจตุพร นายณัฐวุฒิ และคนเหล่านี้อีกจำนวนมาก กระทำการอย่างไม่กลัวเกรงกฎหมายบ้านเมือง เขาประกาศชักชวนให้คนไปเผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลาง ชักชวนคนไปปล้นทรัพย์ ซึ่งมีการบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน สื่อมวลชนก็นำข่าวออกไปเผยแพร่ ผมได้เก็บรวบรวมหลักฐานเหล่านี้ไว้ทั้งหมด" นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวว่า ขอยืนยันกับประชาชนที่อาจจะตกใจกับข่าวที่ว่าอาจถึงขั้นยุบพรรคประชาธิปัตย์ว่าตนไม่ได้พูดอะไรที่เกินเลยจากความเป็นจริง คนเหล่านี้ได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง ก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมืองจริง แล้วถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองรวบรวมพยานหลักฐานทำสำนวนส่งฟ้องศาล และศาลก็รับฟ้องแล้ว ขณะนี้ได้ประกันตัวออกมา

"อยากชี้ให้พี่น้อปงระชาชนเห็นว่า คนเหล่านี้นอกจากมีพฤติกรรมที่ทำลายบ้านทำลายเมือง เผาบ้านเผาเมือง สร้างความโกลาหลวุ่นวาย ก่อจลาจล แล้ววันนี้พยายามที่จะผันตัวเองเข้ามาเป็นส.ส. เพื่อที่จะได้อาศัยเอกสิทธิ์ ในฐานะที่เป็นส.ส. เพื่อที่จะไม่ต้องขึ้นศาล เพื่อจะได้ประวิงเวลาในการต่อสู้ และผมไม่สงสัยเลย ทำไมพรรคเพื่อไทย ถึงพยายามชูนโยบายว่า จะล้มเลิก ล้างความผิดทั้งหลายให้กับคนที่ได้ทำความผิดเกี่ยวกับทางการเมือง ผมก็เลยเข้าใจได้ว่า มันไม่ใช่เฉพาะคุณทักษิณ เพียงคนเดียวแล้วที่พรรคเพื่อไทยจะล้างความผิดให้ แต่รวมทั้งคนที่ได้มีพฤติกรรมเป็นผู้ก่อการ้ายเผาบ้านเผาเมือง เหล่านี้ไปด้วย น่ากังวลใจมาก เพราะฉะนั้นในการพูดจาของผม ผมได้ทำหน้าที่เพื่อที่จะเอาความจริงมาเรียนย้ำให้พี่น้องประชาชนได้ตระหนัก ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกผู้แทนคราวนี้"นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวว่า สิ่งที่ตนพูด เพราะตนเคยทำหน้าที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ทราบข้อมูลเหล่านี้ชัดเจน และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนนำไปอภิปรายในสภาฯ และได้พิมพ์เป็นหนังสือ "ประเทศไทยของเรา อย่าให้ใครมาเผาอีก" และตนก็กังวลใจ จำเป็นต้องเรียนต่อประชาชนว่า ต้องช่วยพินิจพิเคราะห์ ตนเป็นผู้นำเสนอข้อมูลส่วนพี่น้องประชาชนเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ

"บางทีพี่น้องประชานอาจจะกังวลใจเหมือนกันว่า ถ้าขืนเลือกบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย เข้าไปมากๆ นายจตุพร นายณัฐวุฒิ ก็ได้เข้าเป็นส.ส. บรรดาผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ เข้าไปเป็นส.ส.เผลอๆ บางคนได้เป็นรัฐมนตรี บ้านเมืองจะเป็นไง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะไม่กระทบต่อบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของพรรค โดยจะพูดความจริง ไม่ใส่ร้ายป้ายสีใคร และเรื่องที่ผมพูด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง"นายสุเทพกล่าว

**อ้างพูดตอนที่ยังไม่ได้สมัครส.ส.

เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง จะอ้างว่าการพูดดังกล่าวส่งผลต่อคะแนนนิยม ของผู้สมัครเพื่อไทย มีข้อกังวลในการต่อสู้ทางกฎหมายหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ห่วงเรื่องคดี เพราะตอนที่พูด ยังไม่ได้เป็นผู้สมัคร ส.ส. และมั่นใจว่าต่อสู้ในศาลได้ เพราะพูดจาด้วยความระมัดระวัง ที่จริงยังมีอีกมากกว่านี้ ที่สมควรที่ประชาชนคนไทยควรได้รู้ว่า คนเหล่านี้ทำอะไรที่ไม่ดีไว้กับบ้านเมืองเราบ้าง แต่ตนพูดเฉพาะที่เห็นสมควรที่จะพูด

ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะฟ้องนายสุเทพ ที่กล่าวหาว่า เป็นพวกนักฉกฉวยโอกาสทางการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดอย่างนั้น ใครจะไปอ้างอย่างไร ก็ว่าไป ตนจะเอาเทปของสื่อมวลชนเป็นพยาน ตนเพียงบอกว่า คนพวกนี้เขาทำมาหากินอะไร แล้วเขาก็เป็นอย่างไร และตนยังไม่ได้เป็นผู้สมัครส.ส.ด้วย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. เป็นต้นไป ตนจะต้องระมัดระวัง ลีลาการพูดจามากขึ้น

** "มาร์ค"ซัดพท.ตุกติก มีวาระซ่อนเร้น

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ประกาศจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอาจจะมีการออกเป็นพ.ร.ก.นิรโทษกรรม ว่า ตนถึงบอกว่า มันเป็นทางเลือกที่ชัดเจน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าบ้านเมืองควรจะเดินก้าวพ้นประเด็นเหล่านี้ได้แล้ว และไปมุ่งแก้ปัญหาประชาชน แต่พรรคเพื่อไทย จะทำให้การเมืองไทยติดหล่มอยู่กับการนิรโทษกรรม ล้างความผิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยอ้างว่า เรื่องนี้กำหนดในนโยบาย ถ้าได้รับเลือกตั้งเสียงข้างมากมา เท่ากับประชาชนให้ฉันทามติ ให้มาทำแบบนั้นได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนว่าต้องระมัดระวัง เพราะเวลาไปหาเสียงกับกลุ่มต่างๆ บางทีเขาไม่พูดเรื่องนี้ บางทีไปพูดเรื่องอื่น ซึ่งทำให้ประชาชนสนับสนุนเขา ตนว่าทั้งหมดทำการเมืองให้โปร่งใส อย่ามีวาระซ่อนเร้น เดินหน้าเอาปัญหาประชาชนมาพูดกัน นโยบายต่างๆ ว่าจะแก้ปัญหาปากท้อง และยาเสพติดอย่างไร และในเรื่องความถูกผิด เราต้องการให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม แต่ในแง่ความปรองดอง สมานฉันท์ บางทีก็มีมาตรการข้อเสนอแนะที่อาจจะช่วยให้ กระบวนการยุติธรรม สามารถที่จะผ่อนปรนบางเรื่องได้ แต่อยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งเราทำโดยตลอด ที่เราตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริง เพื่อความ ปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และดูประเด็น เช่น การประกันตัว การเยียวยาต่าง ๆ

**ยันปชป.พูดความจริงไม่ใส่ร้ายใคร

เมื่อถามว่า ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทวิตเตอร์ ระบุว่าทหารช่วยประชาธิปัตย์อยู่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า ขอทหารอย่าช่วย ผมก็ยืนยันว่า ปีนี้ไม่เหมือนปี 2548หรอก

เมื่อถามว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ คอยแหย่อย่างนี้ จะทำให้เป็นจุดเปลี่ยนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ก็แหย่มาเรื่อยๆ จากเหตุการณ์ชุมนุมคนเสื้อแดงทุกครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณก็แหย่มาทั้งนั้น

เมื่อถามอีกว่า กังวลหรือไม่ที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะไปร้องกกต.เพื่อให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบหมายถึงการพูดอะไร ที่ไหน แต่ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีเจตนาจะไปใส่ร้ายใคร เราเสนอข้อเท็จจริง มุมมอง และทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นประเด็นสาธารณะทั้งนั้น เมื่อถามว่า ความจริงที่นายณัฐวุฒิ เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง เราสามารถพูดได้หรือไม่ และจะ ถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสี นายณัฐวุฒิ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แล้วนายณัฐวุฒิ จะปฏิเสธไหมว่า ตัวเองไม่ใช่เสื้อแดง

** "มาร์ค"ไม่เชื่อพวกตามราวีเป็น"แดงเทียม"

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. ระบุว่า คนเสื้อแดงที่ไปชูป้ายคัดค้าน การหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ ตามที่ต่างๆ ว่าเป็นคนเสื้อแดงเทียมนั้น เราได้ยินเรื่องมาบ่อยมาก พอพิสูจน์แล้ว จับแล้ว ดำเนินคดีแล้ว ไม่เห็นบอกว่าเป็นแดงเทียม

ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.ควรพิจารณาหรือไม่ว่า เป็นการขัดขวางการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กกต.ควรพิจารณาว่า โดยธรรมชาติของระบอประชาธิปไตย ต้องไปเสนอตัวแข่งขันกัน ไม่ใช่ไปสร้างปัญหา ขัดขวางคนอื่น ไม่ใช่เรื่องยากหรอก ที่พรรคการเมืองต่างจะเอาผู้สนับสนุนตัวเอง จะใส่เสื้อสีอะไรก็ตาม ไปชูป้าย ไปกล่าวหาพรรคการเมืองอื่น แต่มันไม่ใช่บรรยากาศการเมือง ที่สร้างสรรค์และไม่ใช่จิตวิญญาณของคนที่เป็นประชาธิปไตย เวลานี้คือเวลาที่ประชาชนต้องการดูข้อเสนอที่จะแก้ปัญหาอย่างไร คิดว่าถ้า กกต.จะช่วยสนับสนุนการเลือกตั้ง ซึ่งกกต.เองมีโครงการเลือกตั้ง สมานฉันท์ แต่ถ้าบอกว่าการปล่อยให้คนไปโจมตีคนอื่น ชูป้ายขัดขวางการหาเสียง ของคนอื่นได้ มันอยู่ในกรอบของการเลือกตั้งสมานฉันท์หรือไม่ กกต.น่าจะต้องทบทวน

เมื่อถามว่า ถ้า กกต.บอกว่าต้องทำร้ายเท่านั้น จึงจะเข้าข่ายที่จะพิจารณา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องทำร้ายไม่ทำร้าย ต้องบอกว่าวันก่อนที่วัดอรุณฯ มีการชูป้ายก็จริง แต่ก็กรูเข้ามาที่รถยนต์ของตน บังเอิญตำรวจสกัดกั้นไว้ ถ้าบอกว่าต้องทำร้ายหัวร้างค้างแตกก่อน ถึงจะมีความผิด ก็เป็นเรื่องแปลกอยู่

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะมีการล้มเวทีปราศรัยของปชป. อีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคของเราดูแลได้ และเราพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้น เราไม่ต้องการเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง ไม่ต้องการเป็นปัญหาสังคม เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยควรจะทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งครั้งนี้เรียบร้อย อย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนว่าเขาทำได้หรือไม่อยู่ที่ว่าเขาจะทำหรือไม่

**"ไอ้เต้น"ยันฟ้องยุบพรรคปชป.แน่

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า ตนได้ หารือกับฝ่ายกฎหมายแล้ว เห็นว่า สมควรที่จะยื่นฟ้องนายสุเทพ เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในการหาเสียงเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อให้อยู่ในวิถีทางประชาธิปไตย เพราะนายสุเทพ มีสถานะเป็นเลขาธิการพรรค การกล่าวหาใส่ร้าย เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ทั้งนี้ หลังจากยื่นหนังสือแล้ว ก็จะติดตามความคืบหน้าว่า กกต.จะดำเนินการอย่างไร เพราะการที่นายสุเทพ กล่าวว่าพวกตนเป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งที่ความเป็นจริง การต่อสู้ในคดียังไม่ถึงที่สุด ซึ่งการกล่าวหา ใส่ร้ายผู้สมัครและพรรคการเมืองในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้งนั้น มีความผิดถึงขั้นยุบพรรค เพราะถือว่า คำพูดของนายสุเทพ ได้นำพิษภัยมาสู่พรรคตัวเอง

** อ้างเสื้อแดงชูป้ายโจมตีปชป.ไม่ผิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่คนเสื้อแดงมาชูป้ายโจมตีการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นการสร้าง ความปั่นป่วนในการเลือกตั้งหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นการปั่นป่วน แต่เป็นการแสดงออกทางสิทธิของประชาชน และนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. ก็ได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่า คนเสื้อแดงมีสิทธิแสดงความคิดเห็น แต่ทั้งนี้ ตนขอฝากถึงแกนนำคนเสื้อแดงด้วยความห่วงใยว่า การเผชิญหน้ากับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องถึงมือคนเสื้อแดง เพราะมีกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ทำอยู่แล้ว แต่ก็เกรงว่า การกระทำแบบนี้ อาจมีการสวมรอยจากกลุ่มอื่น และการที่คนเสื้อแดงมารวมกลุ่มกัน อาจเป็นเหตุให้ฝ่ายตรงข้าม นำมาสร้างสถานการณ์ได้ ยืนยันว่า คนเสื้อแดงตัวจริง ไม่ป่วนเพื่อล้มการเลือกตั้งแน่

**"ธิดาแดง"ยันมีสิทธิ์ชูป้ายไล่"มาร์ค"

นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานนปช. กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ต้องการให้ช่วยสื่อสารถึงคนเสื้อแดงไม่ให้ไปรบกวน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เวลาลงพื้นที่หาเสียงว่า ได้พูดคุยกับนายณัฐวุฒิแล้ว และได้สื่อสารถึงคนเสื้อแดงผ่านทางสื่อแล้ว เนื่องจากมวลชนคนเสื้อแดงมีเป็นจำนวนมากนับล้านคน จึงต้องใช้วิธีนี้

"ขอยืนยันว่าที่ผ่านมา คนเสื้อแดงเขาอยู่ภายในขอบเขตของกฎหมาย ไม่ได้ไปชูป้ายขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวลาลงพื้นที่หาเสียง ไม่มีการโห่ร้องขับไล่ ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหาย ฉันตรวจสอบแล้ว ก็เพียงแต่เขาใส่เสื้อแดง ถือธงแดง เท่านั้น จะให้เขาต้องถอดเสื้อแดงด้วยหรืออย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ อย่าเอาเหตุการณ์ไปขยายจนเกินความจริง อย่าเว่อร์ จะให้คนเสื้อแดงเขาอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย เรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ คงไม่ได้ เพราะจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา คนเสื้อแดง เขาได้รับความเจ็บปวดมาก มีคนตายถึง 91 ศพ แต่ไม่มีการรับผิดชอบอะไรเลย แถมยังมาด่าคนเสื้อแดงอีก คนเสื้อแดงเขาก็มีสิทธิเสรีภาพของเขา สำหรับฉันก็ทำได้เพียงการสื่อสารถึงคนเสื้อแดงเท่านั้นเชิงขอร้องว่าอย่าไปทำอะไรที่เป็นการผิดกฎหมาย จะไปเข้าทางพรรคประชาธิปัตย์ แต่จะไม่ใช้วิธีไปสั่งเขา มันทำไม่ได้ เราไม่ใช่กองทัพ และฉันก็เชื่อว่าวิธีการเช่นนี้จะได้ผล เพราะคนเสื้อแดงเขามีวุฒิภาวะ จะไม่ก่อเรื่องจนเหตุการณ์บานปลาย อีกทั้งที่ผ่านมาคนเสื้อแดงถูกกระทำขนาดไหน เขาก็ยังทนได้ ไม่เช่นนั้นประเทศพังพินาศไปแล้ว"นางธิดา กล่าว

**เอาแดงเข้าปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อให้เล่นในสภา

นายเสนาะ เทียนทอง ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทย นำคนเสื้อแดงมาอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์เยอะ ก็เพื่อให้เขาเข้ามาเล่นการเมืองในสภา ไม่ให้ออกไปเล่นข้างนอก เสื้อแดงก็มีหลายเสื้อแดง ก็เป็นแนวคิดเพื่อให้บ้านเมืองสงบ บ้านเมืองจะตกต่ำไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว บ้านเมืองต้องเดินไปได้ การเลือกตั้งเป็นเรื่องที่สำคัญ ยังไงๆ ก็ต้องมีนักการเมืองต้องมีคนบริหารบ้านเมือง

สำหรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นก็เป็นครั้งแรกของไทยที่มีสุภาพสตรีมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ขีดความสามารถการันตีได้ ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่มากด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์

**"ก่อแก้ว"ซัด"เทือก" ใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์

นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า การที่นายสุเทพ ระบุว่า ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย มีทั้งนายจตุพร นายณัฐวุฒิ นพ.เหวง เป็นผู้มีส่วนร่วมกับการก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมืองมาแล้ว ทางพรรคเพื่อไทย จึงจะดำเนินการยื่นเรื่องนี้ต่อ กกต.เรื่องนี้มีผลต่อ มาตรา 237 ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 94 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีโทษยุบพรรคด้วย

นายก่อแก้ว กล่าวว่า พวกตนยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ได้เป็นผู้เผาบ้านเมือง อย่างที่นายสุเทพ กล่าวหา แต่อย่างใด แต่การที่นายสุเทพออกมาพูดเช่นนี้นั้นเป็นคำพูดที่ใส่ร้ายต่อพวกตน และยังหวังที่จะลดคะแนนของพรรคเพื่อไทยด้วย

"ความจริงเรื่องเกี่ยวกับนายสุเทพ ผมก็มีอีกเยอะ แต่ยังไม่อยากจะพูด เพราะกกต.มีข้อห้าม ไม่อยากฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง แต่ถ้านายสุเทพ ยังจะพูดอีก ผมก็จะพูดเรื่องของนายสุเทพ ที่มีอีกมากเช่นกัน โดยเฉพาะประวัติของนายสุเทพ ที่คิดว่าสังคมอยากรู้"

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ให้กกต.นำค่าใช้จ่ายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง มาคิดรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยด้วยนั้น นายก่อแก้ว กล่าวว่า เสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทย แยกออกจากันชัดเจน แม้กลุ่มเสื้อแดงจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แต่ก็เป็นเรื่องส่วนตัว หากนำมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายก็จะเป็นเรื่องยุ่งยาก ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็ควรจะย้อนกลับไปกรณีที่กลุ่มเสื้อเหลือง ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน

ส่วนคนเสื้อแดงที่ไปก่อกวนการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์นั้น หากเป็นเสื้อแดงจริงก็จะพูดง่าย ซึ่งขณะนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อได้พูดกับนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. ให้คนเสื้อแดงหยุดการกระทำดังกล่าวไปแล้ว แต่หากยังมีการกระทำอยู่ ก็อาจจะไม่ใช่คนเสื้อแดงจริง อย่างที่ตนได้ทราบว่า มีแล้วในเขตสาธร

**ท้า"เพื่อแม้ว"พูดให้ชัดแก้ปมนิรโทษ

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่พรรคพรรคเพื่อไทย ประกาศแนวทางการนิรโทษกรรมหลังการเลือกตั้ง เพื่อล้างความผิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยจะแก้กฎหมายในรูปพระราชกำหนด หรือ พระราชบัญญัติ ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน ว่า พรรคเพื่อไทย ต้องแสดงความชัดเจนในเรื่องนี้ให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยก เหมือนสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และการที่ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็จะดำเนินการล้างความผิดได้เลย โดยไม่ต้องสอบถามประชาชนอีก เพราะผลการเลือกตั้งเปรียบได้กับการทำประชาพิจารณ์แล้วนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ต้องอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง ว่าหมายถึงอะไร เพราะขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้ออกนโยบายประชานิยมในหลายเรื่อง อาทิ การแจกคอมพิวเตอร์ไอแพด ให้กับเด็กนักเรียน ดังนั้นหากประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย ก็อาจหมายถึงชื่นชอบที่นโยบายประชานิยม ไม่ใช่สนับสนุนการนิรโทษกรรม

** ยันไม่เห็นด้วยกับแผนนิรโทษกรรม

นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า สถานการณ์เลือกตั้งยังคงเต็มไปด้วยความรุนแรง และไม่ได้เป็นอนาคตของชาติ โดยขณะนี้เริ่มมีการเสนอการออกกฎหมายนิรโทษกรรม โดยพยายามดึงพันธมิตรฯ และคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย เข้าไปเกี่ยวข้อง จึงต้องขอยืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมผู้ที่ก่อความไม่สงบ ก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง และทุจริตคอรร์รัปชั่น โดยเฉพาะคดีที่ศาลพิพากษาสิ้นสุดแล้ว หรือที่ยังอยู่ในการพิจารณาของศาล

"บางกลุ่มพยายามอ้างว่า การนิรโทษกรรม เป็นหนทางในการสร้างความปรองดองของทุกฝ่าย ซึ่งเราขอยืนยันว่า ไม่เห็นด้วย เพราะมีความพร้อมในการต่อสู้ในทุกคดีตามกระบวนการยุติธรรม อย่านำพวกเราไปเหมารวมกับกลุ่มอื่นที่กระทำผิด โดยไม่เคารพหลักนิติรัฐ นิติธรรม และขอสนับสนุนให้ประชาชนร่วมกันคัดค้านการนิรโทษกรรม ให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่าง หากพรรคการเมืองใดพยายามแก้กฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้บุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใด เราจะออกมาคัดค้านและต่อสู้ถึงที่สุด"นายประพันธ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น