00 เริ่มเอ่ยชื่อ “หมายหัว” เปิดเผยรายชื่อออกมาเป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามีใครกันบ้างที่จะต้องถูกเด้งแล้วดันคนของตัวเองเข้ามาแทน และรับรองว่าเป็นเรื่องจริงเสียด้วย เพราะคนพูดก็คือ เหลิม อยู่บำรุง “หัวหน้าทีม” นิรโทษฯล้างความผิดให้โจรแม้วนั่นเอง วันก่อนขึ้นไปกร่างถึงเชียงใหม่บอกว่าจะย้าย มล.ปนัดดา ดิศกุล พ้นผู้ว่าฯเชียงใหม่ ทันทีหากพรรคเพื่อไทยได้อำนาจรัฐ ก็ว่ากันไป ทำได้อยู่แล้ว เพราะบ้านเมืองนี้มันทำท่าวิปริต อาจถึงคราวต้องเปลี่ยนแบบกลับหัวกลับหาง “ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินตลาด” อะไรประมาณนั้นก็ต้องก้มหน้ากันต่อไป
00 นอกจากนี้ให้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะมีชะตากรรมเจ็บปวดอีกคนก็คือ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ แต่เชื่อว่าคงรู้อยู่เต็มอกแล้วว่า “โดนแน่” แต่นาทีนี้ระหว่างอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ก็ขอทำงานให้ดีที่สุด รักษาความถูกต้องให้ถึงที่สุด อย่างน้อยการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างน้อยก็มีการออกหมายเรียกบรรดา “หัวโจกแดง” 19 คนที่ก่อคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และอย่าได้แปลกใจที่ต้องมีชื่อ จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง มากันครบ
00 เมื่อเอ่ยชื่อถึง จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แล้ว บำเหน็จที่ได้รับหลังการเลือกตั้งหาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เป็นนายกฯหญิงคนแรก “สมใจแม้ว” แล้ว รับรองว่าจะต้อง “ถึงขนาด” แน่ และต้องมากกว่าเดิมที่เคยได้แค่ ส.ส.ธรรมดา หรือหรือแค่ โฆษกรัฐบาล ดูแล้วอย่างน้อย ต้องขึ้นชั้นเป็นรมต. ต่อไปเห็นทีจะต้องเปลี่ยนคำนำหน้าว่า “พะณะหัวเจ้าท่าน” แล้วละ ต่อไปก็ต้องทักทายว่า สวัสดีครับ ฯพณฯทั่น ทุด !!
00 ไม่ใช่พูดเล่น เพราะมันต้องเกิดขึ้นแน่ ทุกอย่างแล้วแต่ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร บัญชาเท่านั้น ถ้าทำได้ถูกใจ เข้าเป้า เผา-ป่วนได้ใจ ก็เอาไปเลย จำได้หรือเปล่า ขนาด พิชิต ชื่นบาน ที่ถูกจำคุกคดี “หิ้วถุงขนม 2 ล้าน” ขึ้นศาลฎีกาฯจนติดคุก 6 เดือน ยังได้รางวัลผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับ 53 ประกันความชัวร์คุ้มค่ากับผลงาน
00 อีกด้านก็สมเพช “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ต้องออกมาวิงวอนให้ คนเสื้อแดงเลิกป่วน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่านี่คือกลยุทธ์เรียกร้องคะแนนสงสาร แต่เชื่อว่าไม่ได้ผล เพราะแดงก็คือเพื่อไทยเขาต้อง “จัดหนัก” อยู่แล้ว และอีกด้านหนึ่งก็สมน้ำหน้าตอนแรกอยาก “ปรองดอง” ดีนัก เห็นคำตอบกลับมาหรือยังว่าเป็นไง ส่วนเรื่องที่ย้ำว่าไม่เคยเป็นพวกเดียวกับ “คนเสื้อเหลือง” ก็ดี เพราะคนอื่นเขาก็ไม่มีทางญาติดี อุปมัยขาวกับดำมันคนละอย่างอยู่แล้ว
00 ดูจากผลโพลที่แสดงล่าสุด ทำให้น่าจับตามองว่า กระแส “ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” หัวหน้าพรรครักประเทศไทย “เบอร์ 5” นี่ไม่ธรรมดา หากไม่พูดถึงสองพรรคใหญ่แล้ว ถือว่ามี “จุดเด่น” และเริ่มมีชื่ออยู่ในตารางคะแนนโหวตขึ้นมาแล้ว เมื่อเทียบกับการลงทุนของพรรคขนาดกลางอย่าง ภูมิใจไทย และชาติไทยฯ
00 นอกจากนี้ให้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะมีชะตากรรมเจ็บปวดอีกคนก็คือ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ แต่เชื่อว่าคงรู้อยู่เต็มอกแล้วว่า “โดนแน่” แต่นาทีนี้ระหว่างอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ก็ขอทำงานให้ดีที่สุด รักษาความถูกต้องให้ถึงที่สุด อย่างน้อยการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างน้อยก็มีการออกหมายเรียกบรรดา “หัวโจกแดง” 19 คนที่ก่อคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และอย่าได้แปลกใจที่ต้องมีชื่อ จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง มากันครบ
00 เมื่อเอ่ยชื่อถึง จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แล้ว บำเหน็จที่ได้รับหลังการเลือกตั้งหาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เป็นนายกฯหญิงคนแรก “สมใจแม้ว” แล้ว รับรองว่าจะต้อง “ถึงขนาด” แน่ และต้องมากกว่าเดิมที่เคยได้แค่ ส.ส.ธรรมดา หรือหรือแค่ โฆษกรัฐบาล ดูแล้วอย่างน้อย ต้องขึ้นชั้นเป็นรมต. ต่อไปเห็นทีจะต้องเปลี่ยนคำนำหน้าว่า “พะณะหัวเจ้าท่าน” แล้วละ ต่อไปก็ต้องทักทายว่า สวัสดีครับ ฯพณฯทั่น ทุด !!
00 ไม่ใช่พูดเล่น เพราะมันต้องเกิดขึ้นแน่ ทุกอย่างแล้วแต่ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร บัญชาเท่านั้น ถ้าทำได้ถูกใจ เข้าเป้า เผา-ป่วนได้ใจ ก็เอาไปเลย จำได้หรือเปล่า ขนาด พิชิต ชื่นบาน ที่ถูกจำคุกคดี “หิ้วถุงขนม 2 ล้าน” ขึ้นศาลฎีกาฯจนติดคุก 6 เดือน ยังได้รางวัลผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับ 53 ประกันความชัวร์คุ้มค่ากับผลงาน
00 อีกด้านก็สมเพช “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ต้องออกมาวิงวอนให้ คนเสื้อแดงเลิกป่วน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่านี่คือกลยุทธ์เรียกร้องคะแนนสงสาร แต่เชื่อว่าไม่ได้ผล เพราะแดงก็คือเพื่อไทยเขาต้อง “จัดหนัก” อยู่แล้ว และอีกด้านหนึ่งก็สมน้ำหน้าตอนแรกอยาก “ปรองดอง” ดีนัก เห็นคำตอบกลับมาหรือยังว่าเป็นไง ส่วนเรื่องที่ย้ำว่าไม่เคยเป็นพวกเดียวกับ “คนเสื้อเหลือง” ก็ดี เพราะคนอื่นเขาก็ไม่มีทางญาติดี อุปมัยขาวกับดำมันคนละอย่างอยู่แล้ว
00 ดูจากผลโพลที่แสดงล่าสุด ทำให้น่าจับตามองว่า กระแส “ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” หัวหน้าพรรครักประเทศไทย “เบอร์ 5” นี่ไม่ธรรมดา หากไม่พูดถึงสองพรรคใหญ่แล้ว ถือว่ามี “จุดเด่น” และเริ่มมีชื่ออยู่ในตารางคะแนนโหวตขึ้นมาแล้ว เมื่อเทียบกับการลงทุนของพรรคขนาดกลางอย่าง ภูมิใจไทย และชาติไทยฯ
