เมื่อเวลา08.00 น. วานนี้ (24 พ.ค.) ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามไทย-ญี่ปุ่นดินแดน นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงสถานการณ์การหาเสียงโดยว่า ตอนนี้กกต.ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดเลือกตั้ง หรือการทุจริตใดๆ มีเพียงเรื่องการทำลายป้ายหาเสียงของพรรคการเมือง รวมถึงการใส่ร้ายผู้สมัครต่างๆ หลังจากนี้กกต.ก็จะได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อขอกำลังดูแลผู้สมัครส.ส. รวมถึงหัวคะแนนให้เข้มงวดมากขึ้น ส่วนกรณีการทำร้ายก็ถือว่ามีความผิดทางอาญาอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังขอเตือนไปยังส.ส.ไม่ให้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากตอนนี้ทุกพรรคที่ได้มาสมัครก็ได้มีหมายเลขแล้ว ส่วนกรณีที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยจะยื่นร้องกกต.ในกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ใส่ร้ายว่าเป็นผู้ก่อการร้ายนั้น กกต.จะดำเนินการมาตรฐานเดียวกันทุกพรรคและยื่นยันว่าจะไม่มีการเลือกปฏิบัติ
นายประพันธ์ กล่าวภายหลังที่ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานที่รับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตแล้ว ว่า ในเรื่องของความรุนแรงยิงทำร้ายหัวคะแนนจนเสียชีวิต โดยเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา กกต.ได้มีการประชุมกับคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้ง ซึ่งก็ได้มีพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้รายงานบรรยากาศการหาเสียงในช่วงที่ผ่านมาว่าไม่ได้รุนแรงมากนัก ซึ่งตนก็อยากฝากบอกบรรดาผู้สมัครส.ส.เขตว่าควรระวังในเรื่องการใส่ร้ายป้าย สี เพราะจะเข้ามาตรา 53 (5)ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และการได้มาซึ่งส.ว. และกฎหมายยังห้ามกรณีใช้มวลชนเข้าไปกดดัน เพื่อขัดขวางไม่ให้มีการหาเสียงก็จะเข้ามาตรา 53 (5) ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดหลอกลวงบังคับขู่เข็น ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายให้ความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือ พรรคการเมืองใด ซึ่งจะมีโทษจำคุกตั้งแต่1-10 ปี และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ10 ปี ถ้า กรรมการบริหารพรรครู้เห็นเป็นใจไม่ห้ามปราม ก็จะมีโทษถึงยุบพรรคได้ ทั้งนี้ กกต.ยืนยันว่าจะจัดการเลือกตั้งด้วยความเป็นกลางจะไม่ช่วยเหลือใครและไม่ กลั่นแกล้งใคร และหากมวลชนทราบว่าอะไรที่กระทำแล้วสุ่มเสี่ยงก็ขอให้ละเว้น
นายประพันธ์ กล่าวถึงกรณีสื่อวิทยุชุมชนไม่ว่าจะเป็นเคเบิลทีวี ในกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 60 ที่ห้ามโฆษณาหาเสียงทางวิทยุและโทรทัศน์ ว่า ให้ระวังในเรื่องของการเชิญผู้สมัครไปออกรายการต่างๆ นั้น เพราะมีกฎหมายได้ห้ามไว้จึงได้มีการคอบคุมถึงสื่อวิทยุชุมชนเคเบิลท้องถิ่น ด้วย จึงขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายด้วย
**ปธ.กกต.กทม. วอน เป็นมิตรที่ดีต่อกัน
ขณะที่พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กทม. กล่าวว่า ในวันนี้ (24 พ.ค.) กกต.กทม. เปิดรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขต เป็นวันแรก ซึ่งเปิดรับทั้งหมด 33 เขต โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีผู้สมัครทยอยเดินทางมาสมัครกันอย่าง คึกคัก ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้สมัครทุกคนที่อาสาเข้ามาทำหน้าที่ดูแลประเทศให้พัฒนาและ เจริญรุ่งเรือง ส่วนกองเชียร์ที่เดินทางมาสนับสนุนพรรคที่ตนเองชื่นชอบก็เป็นไปอย่างเรียบ ร้อย ไม่มีเหตุความรุนแรง ทั้งนี้ ขอให้การแข่งขันการเลือกตั้งของผู้สมัครในกรุงเทพฯ ทุกคน แข่งขันกันอย่างบริสุทธิ์ โปร่งใส เป็นมิตร เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ผู้สมัครรายใดจะสมหวังหรือผิดหวังจากการเลือกตั้งก็ขอให้เคารพการตัดสินใจ ของประชาชน รวมถึงช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง ก่อนถึงวันเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มิ.ย. และวันเลือกตั้งจริงในวันที่ 3 ก.ค. ขอให้ผู้สมัครทุกคนหาเสียงตามกฎกติกาของกฎหมายการเลือกตั้ง ไม่ใส่ร้ายป้ายสี หรือเอาเปรียบผู้แข่งขันจากพรรคอื่น รวมทั้งใช้วิชามารมาต่อสู้
“เนื่อง จากประเทศไทยเรานั้นซอยเท้าอยู่กับที่มาหลายปีแล้ว การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบาก ฉะนั้น ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือร่วมใจทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถ้าทุกคนยังทะเลาะกัน บ้านเมืองก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงฝากความหวังให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” นายสุเทพ กล่าว
ประธาน กกต.กทม. กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่าเจ้าหน้าที่ที่เป็นข้าราชการในการ รับสมัครรับเลือกตั้งจะวางตัวไม่เป็นกลาง ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และจะไม่เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใดทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
**กทม.ทุ่มชวนไปเลือกตั้ง ตั้งเป้าใช้สิทธิ 70 %
นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงแผนประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ส. กทม.ว่า กทม.จะทำการรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งผ่านสื่อของ กทม. โดยจัดทำสื่อป้ายประชาสัมพันธ์ ได้แก่ ป้ายแบนเนอร์ ขนาด 1x4 เมตร จำนวน 3,500 ผืน ติดตั้งยังหน่วยงานของ กทม. และป้ายแบนเนอร์ ขนาด 1x12 จำนวน 1,000 ผืน ติดตั้งบนสะพานลอย นอกจากนี้จะประชาสัมพันธ์ในสื่อที่ของ กทม. ที่ไม่ต้องใช้งบประมาณ อาทิ เสียงรอสายโทรศัพท์มือถือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานประกอบการเลือกตั้ง วิทยุชุมชนและป้ายประชาสัมพันธ์ของ กทม. จำนวน 350 ป้าย ขณะเดียวกัน กทม.จะทำหนังสือไปยังหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ขอความร่วมมือเชิญชวนให้บุคคลากรออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีกทางหนึ่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า
นอกจากนั้นยังจัดทำสติ๊กเกอร์โปร่งใส ติดบนรถตู้ จำนวน 60 คัน และสื่อประกอบการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ได้แก่ ป้ายด้ามถือ ขนาด 30x42 เซนติเมตร จำนวน 1,530 ป้าย ธงเดินรณรงค์ ขนาด A4 จัดทำเป็นผ้าหรือพลาสติค พร้อมก้านแจกจ่ายให้สำนักงานเขตและส่วนกลาง 11,000 อัน เสื้อยืดรณรงค์ 15,500 ตัว รวมทั้งซีดีประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ และเสียงตามสายชุมชน 500 แห่ง แผ่นพับประชาสัมพันธ์ ขนาด A4 จำนวน 510,000 ใบ โดยเนื้อหาในแผ่นพับจะประกอบไปด้วยหลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติในการเลือกตั้งโดยละเอียด ขณะเดียวกัน กทม.เตรียมตั้งทีมทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เคาะประตูบ้านเชิญชวนให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
กทม.ยังจัดพื้นที่ทำกิจกรรมรณรงค์ครั้งใหญ่ 4 ครั้ง ได้แก่ กิจกรรมเลือกตั้งลั้ลลา กิจกรรมคนต่างวัยหัวใจเดียวกัน กิจกรรมนอนหลับไม่ได้ เพราะหัวใจอยากเลือก และกิจกรรมมั่นใจเลือกตั้งไปแน่ ที่ลานคนเมือง ทั้งนี้ ในปี 2554 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน กทม.ทั้งสิ้น 4,346,464 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 5,701,394 คน ซึ่งในปี 2550 มีผู้ใช้สิทธิ 4,139,894 คน หรือเพิ่มขึ้น 206,570 คน อย่างไรก็ตาม กทม.ตั้งเป้ารณรงค์ให้คนกรุงเทพฯมาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 70 ของจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด ทั้งนี้ ในปี 2550 มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิ จำนวน 2,807,287 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 69.37
**พท.แจ้งความนายกฯ ออกรายการ"คลายปม"
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จะแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการปราบปราม ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00 น. เพื่อให้ดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ NBT และพิธีกรรายการ "คลายปม" ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NBT เนื่องจากเนื้อหาน่าจะเข้าข่ายทำให้การเลือกตั้ง ไม่ชอบด้วยกฎหมายเลือกตั้งที่ห้ามไม่ให้ใช้ทรัพยากรของรัฐ มีส่วนได้ส่วนเสียกับการเลือกตั้ง แต่ทางช่อง NBT ยังดำเนินการซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) จะยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ใส่ร้ายป้ายสี ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นผู้ก่อการร้ายและเป็นการพูดซ้ำหลายครั้ง
นายประพันธ์ กล่าวภายหลังที่ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานที่รับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตแล้ว ว่า ในเรื่องของความรุนแรงยิงทำร้ายหัวคะแนนจนเสียชีวิต โดยเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา กกต.ได้มีการประชุมกับคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้ง ซึ่งก็ได้มีพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้รายงานบรรยากาศการหาเสียงในช่วงที่ผ่านมาว่าไม่ได้รุนแรงมากนัก ซึ่งตนก็อยากฝากบอกบรรดาผู้สมัครส.ส.เขตว่าควรระวังในเรื่องการใส่ร้ายป้าย สี เพราะจะเข้ามาตรา 53 (5)ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และการได้มาซึ่งส.ว. และกฎหมายยังห้ามกรณีใช้มวลชนเข้าไปกดดัน เพื่อขัดขวางไม่ให้มีการหาเสียงก็จะเข้ามาตรา 53 (5) ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดหลอกลวงบังคับขู่เข็น ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายให้ความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือ พรรคการเมืองใด ซึ่งจะมีโทษจำคุกตั้งแต่1-10 ปี และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ10 ปี ถ้า กรรมการบริหารพรรครู้เห็นเป็นใจไม่ห้ามปราม ก็จะมีโทษถึงยุบพรรคได้ ทั้งนี้ กกต.ยืนยันว่าจะจัดการเลือกตั้งด้วยความเป็นกลางจะไม่ช่วยเหลือใครและไม่ กลั่นแกล้งใคร และหากมวลชนทราบว่าอะไรที่กระทำแล้วสุ่มเสี่ยงก็ขอให้ละเว้น
นายประพันธ์ กล่าวถึงกรณีสื่อวิทยุชุมชนไม่ว่าจะเป็นเคเบิลทีวี ในกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 60 ที่ห้ามโฆษณาหาเสียงทางวิทยุและโทรทัศน์ ว่า ให้ระวังในเรื่องของการเชิญผู้สมัครไปออกรายการต่างๆ นั้น เพราะมีกฎหมายได้ห้ามไว้จึงได้มีการคอบคุมถึงสื่อวิทยุชุมชนเคเบิลท้องถิ่น ด้วย จึงขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายด้วย
**ปธ.กกต.กทม. วอน เป็นมิตรที่ดีต่อกัน
ขณะที่พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กทม. กล่าวว่า ในวันนี้ (24 พ.ค.) กกต.กทม. เปิดรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขต เป็นวันแรก ซึ่งเปิดรับทั้งหมด 33 เขต โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีผู้สมัครทยอยเดินทางมาสมัครกันอย่าง คึกคัก ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้สมัครทุกคนที่อาสาเข้ามาทำหน้าที่ดูแลประเทศให้พัฒนาและ เจริญรุ่งเรือง ส่วนกองเชียร์ที่เดินทางมาสนับสนุนพรรคที่ตนเองชื่นชอบก็เป็นไปอย่างเรียบ ร้อย ไม่มีเหตุความรุนแรง ทั้งนี้ ขอให้การแข่งขันการเลือกตั้งของผู้สมัครในกรุงเทพฯ ทุกคน แข่งขันกันอย่างบริสุทธิ์ โปร่งใส เป็นมิตร เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ผู้สมัครรายใดจะสมหวังหรือผิดหวังจากการเลือกตั้งก็ขอให้เคารพการตัดสินใจ ของประชาชน รวมถึงช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง ก่อนถึงวันเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มิ.ย. และวันเลือกตั้งจริงในวันที่ 3 ก.ค. ขอให้ผู้สมัครทุกคนหาเสียงตามกฎกติกาของกฎหมายการเลือกตั้ง ไม่ใส่ร้ายป้ายสี หรือเอาเปรียบผู้แข่งขันจากพรรคอื่น รวมทั้งใช้วิชามารมาต่อสู้
“เนื่อง จากประเทศไทยเรานั้นซอยเท้าอยู่กับที่มาหลายปีแล้ว การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบาก ฉะนั้น ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือร่วมใจทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถ้าทุกคนยังทะเลาะกัน บ้านเมืองก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงฝากความหวังให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” นายสุเทพ กล่าว
ประธาน กกต.กทม. กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่าเจ้าหน้าที่ที่เป็นข้าราชการในการ รับสมัครรับเลือกตั้งจะวางตัวไม่เป็นกลาง ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และจะไม่เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใดทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
**กทม.ทุ่มชวนไปเลือกตั้ง ตั้งเป้าใช้สิทธิ 70 %
นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงแผนประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ส. กทม.ว่า กทม.จะทำการรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งผ่านสื่อของ กทม. โดยจัดทำสื่อป้ายประชาสัมพันธ์ ได้แก่ ป้ายแบนเนอร์ ขนาด 1x4 เมตร จำนวน 3,500 ผืน ติดตั้งยังหน่วยงานของ กทม. และป้ายแบนเนอร์ ขนาด 1x12 จำนวน 1,000 ผืน ติดตั้งบนสะพานลอย นอกจากนี้จะประชาสัมพันธ์ในสื่อที่ของ กทม. ที่ไม่ต้องใช้งบประมาณ อาทิ เสียงรอสายโทรศัพท์มือถือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานประกอบการเลือกตั้ง วิทยุชุมชนและป้ายประชาสัมพันธ์ของ กทม. จำนวน 350 ป้าย ขณะเดียวกัน กทม.จะทำหนังสือไปยังหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ขอความร่วมมือเชิญชวนให้บุคคลากรออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีกทางหนึ่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า
นอกจากนั้นยังจัดทำสติ๊กเกอร์โปร่งใส ติดบนรถตู้ จำนวน 60 คัน และสื่อประกอบการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ได้แก่ ป้ายด้ามถือ ขนาด 30x42 เซนติเมตร จำนวน 1,530 ป้าย ธงเดินรณรงค์ ขนาด A4 จัดทำเป็นผ้าหรือพลาสติค พร้อมก้านแจกจ่ายให้สำนักงานเขตและส่วนกลาง 11,000 อัน เสื้อยืดรณรงค์ 15,500 ตัว รวมทั้งซีดีประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ และเสียงตามสายชุมชน 500 แห่ง แผ่นพับประชาสัมพันธ์ ขนาด A4 จำนวน 510,000 ใบ โดยเนื้อหาในแผ่นพับจะประกอบไปด้วยหลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติในการเลือกตั้งโดยละเอียด ขณะเดียวกัน กทม.เตรียมตั้งทีมทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เคาะประตูบ้านเชิญชวนให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
กทม.ยังจัดพื้นที่ทำกิจกรรมรณรงค์ครั้งใหญ่ 4 ครั้ง ได้แก่ กิจกรรมเลือกตั้งลั้ลลา กิจกรรมคนต่างวัยหัวใจเดียวกัน กิจกรรมนอนหลับไม่ได้ เพราะหัวใจอยากเลือก และกิจกรรมมั่นใจเลือกตั้งไปแน่ ที่ลานคนเมือง ทั้งนี้ ในปี 2554 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน กทม.ทั้งสิ้น 4,346,464 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 5,701,394 คน ซึ่งในปี 2550 มีผู้ใช้สิทธิ 4,139,894 คน หรือเพิ่มขึ้น 206,570 คน อย่างไรก็ตาม กทม.ตั้งเป้ารณรงค์ให้คนกรุงเทพฯมาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 70 ของจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด ทั้งนี้ ในปี 2550 มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิ จำนวน 2,807,287 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 69.37
**พท.แจ้งความนายกฯ ออกรายการ"คลายปม"
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จะแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการปราบปราม ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00 น. เพื่อให้ดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ NBT และพิธีกรรายการ "คลายปม" ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NBT เนื่องจากเนื้อหาน่าจะเข้าข่ายทำให้การเลือกตั้ง ไม่ชอบด้วยกฎหมายเลือกตั้งที่ห้ามไม่ให้ใช้ทรัพยากรของรัฐ มีส่วนได้ส่วนเสียกับการเลือกตั้ง แต่ทางช่อง NBT ยังดำเนินการซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) จะยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ใส่ร้ายป้ายสี ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นผู้ก่อการร้ายและเป็นการพูดซ้ำหลายครั้ง