ต้นทุนรังนกแท้พุ่ง เหตุความต้องการในตลาดมีสูงหลังจีนเปิดตลาด เปิดทางเครื่องดื่มรังนกปลอมทะลัก "เซเรบอส" แก้เกมสู้ ชูมาตรฐานการตรวจสอบเดียวกับเพชร พร้อมตึงราคาสินค้า มั่นใจสิ้นปีเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดรังนกได้เล็กน้อย หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%
ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ บริษัท เซเรบอส แปซิฟิค จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่า ตลาดรังนก มีปัญหาเรื่องการปลอมปนค่อนข้างสูง มีการนำวัตถุดิบอื่นมาใช้แทนเช่น ไข่ไก่และสาหร่ายบางชนิดที่มีลักษณะเหมือนรังนก เป็นต้น โดยมีการปลอมปนเพียงเล็กน้อยจนไปถึงระดับ100% ซึ่งผู้บริโภคไม่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นของแท้หรือไม่ ทั้งนี้พบว่ามีวางจำหน่ายทั่วไปและกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้มองว่าปัญหารังนกปลอมที่กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นนั้น มาจากความต้องการในตลาดรังนกแท้มีมากขึ้น หลังจากที่จีนเปิดประเทศ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นิยมบริโภครังนกอยู่แล้ว ส่งผลให้ตลาดมีจำนวนรังนกแท้ไม่เพียงพอ ทำให้ราคารังนกแท้ขยับขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 200,000 บาท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และยิ่งวัตถุดิบขยับราคาสูงขึ้น จึงทำให้มีการปลอมปนสินค้าตามมา
"ตลาดรังนกปลอมนั้น ในไทยถึงแม้ว่ามูลค่าจะไม่สูงเท่าตลาดรังนกแท้ที่มีมูลค่าถึง 2,000ล้านบาท แต่พบว่ามีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะวางจำหน่ายในราคาไม่สูงมาก ในราคาระดับสิบบาท"
ส่งผลให้ ล่าสุดทางบริษัทต้องการที่จะตอกย้ำในความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรังนกแท้ ด้วยแคมเปญ "แบรนด์รังนกแท้ มาตรฐานการตรวจสอบเดียวกับเพชร" ชูจุดแข็งทางด้านคุณภาพและมาตรฐานการผลิตระดับโลก ในการคัดสรรรังนกแท้ 100% ด้วยเครื่องตรวจเอกลักษณ์เฉพาะ หรือ Fourier Transform Infrared Spectroscopy (FTIR) ที่เป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่วงการอัญมณีใช้ตรวจสอบแยกเพชรแท้ออกจากเพชรเทียม ซึ่งการลงทุนด้านเครื่องตรวจนี้รวมอยู่ในงบการลงทุนขยายโรงงานก่อนหน้านี้แล้ว
ดร.ลักขณา กล่าวต่อว่า และจากปัญหาต้นทุนรังนกแท้พุ่งขึ้นนั้น ทางบริษัทต้องมองความเป็นไปของตลาดก่อน จึงจะมีการพิจารณาปรับราคาสินค้าขึ้น โดยขณะนี้ยังไม่มีแผนปรับราคาแต่อย่างไร แต่มุ่งเน้นเรื่องการบริหารจัดการภายในเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามพบว่า ช่วง 5เดือนที่ผ่านมา กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเติบโตขึ้นสูงมาก โดยในกลุ่มแบรนด์รังนก เติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% ส่วนแบรนด์ซุปไก่สกัดมีการเติบโตที่ดีกว่า ทั้งนี้มาจากการที่บริษัทมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และจากแคมเปญล่าสุดนี้เอง เชื่อว่าจะผลักดันยอดขายของแบรนด์รังนกในสิ้นปีนี้ มีการเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมขยับส่วนแบ่งทางการตลาดได้อีกเล็กน้อย จากปัจจุบัน แบรนด์รังนก เป็นผู้นำในตลาดรังนกแท้มูลค่า 2,000ล้านบาท ด้วยส่วนแบ่งกว่า 60%
ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ บริษัท เซเรบอส แปซิฟิค จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่า ตลาดรังนก มีปัญหาเรื่องการปลอมปนค่อนข้างสูง มีการนำวัตถุดิบอื่นมาใช้แทนเช่น ไข่ไก่และสาหร่ายบางชนิดที่มีลักษณะเหมือนรังนก เป็นต้น โดยมีการปลอมปนเพียงเล็กน้อยจนไปถึงระดับ100% ซึ่งผู้บริโภคไม่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นของแท้หรือไม่ ทั้งนี้พบว่ามีวางจำหน่ายทั่วไปและกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้มองว่าปัญหารังนกปลอมที่กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นนั้น มาจากความต้องการในตลาดรังนกแท้มีมากขึ้น หลังจากที่จีนเปิดประเทศ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นิยมบริโภครังนกอยู่แล้ว ส่งผลให้ตลาดมีจำนวนรังนกแท้ไม่เพียงพอ ทำให้ราคารังนกแท้ขยับขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 200,000 บาท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และยิ่งวัตถุดิบขยับราคาสูงขึ้น จึงทำให้มีการปลอมปนสินค้าตามมา
"ตลาดรังนกปลอมนั้น ในไทยถึงแม้ว่ามูลค่าจะไม่สูงเท่าตลาดรังนกแท้ที่มีมูลค่าถึง 2,000ล้านบาท แต่พบว่ามีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะวางจำหน่ายในราคาไม่สูงมาก ในราคาระดับสิบบาท"
ส่งผลให้ ล่าสุดทางบริษัทต้องการที่จะตอกย้ำในความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรังนกแท้ ด้วยแคมเปญ "แบรนด์รังนกแท้ มาตรฐานการตรวจสอบเดียวกับเพชร" ชูจุดแข็งทางด้านคุณภาพและมาตรฐานการผลิตระดับโลก ในการคัดสรรรังนกแท้ 100% ด้วยเครื่องตรวจเอกลักษณ์เฉพาะ หรือ Fourier Transform Infrared Spectroscopy (FTIR) ที่เป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่วงการอัญมณีใช้ตรวจสอบแยกเพชรแท้ออกจากเพชรเทียม ซึ่งการลงทุนด้านเครื่องตรวจนี้รวมอยู่ในงบการลงทุนขยายโรงงานก่อนหน้านี้แล้ว
ดร.ลักขณา กล่าวต่อว่า และจากปัญหาต้นทุนรังนกแท้พุ่งขึ้นนั้น ทางบริษัทต้องมองความเป็นไปของตลาดก่อน จึงจะมีการพิจารณาปรับราคาสินค้าขึ้น โดยขณะนี้ยังไม่มีแผนปรับราคาแต่อย่างไร แต่มุ่งเน้นเรื่องการบริหารจัดการภายในเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามพบว่า ช่วง 5เดือนที่ผ่านมา กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเติบโตขึ้นสูงมาก โดยในกลุ่มแบรนด์รังนก เติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% ส่วนแบรนด์ซุปไก่สกัดมีการเติบโตที่ดีกว่า ทั้งนี้มาจากการที่บริษัทมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และจากแคมเปญล่าสุดนี้เอง เชื่อว่าจะผลักดันยอดขายของแบรนด์รังนกในสิ้นปีนี้ มีการเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมขยับส่วนแบ่งทางการตลาดได้อีกเล็กน้อย จากปัจจุบัน แบรนด์รังนก เป็นผู้นำในตลาดรังนกแท้มูลค่า 2,000ล้านบาท ด้วยส่วนแบ่งกว่า 60%
