ASTVผู้จัดการรายวัน - เอกชนตั้งโจทย์ถึงรัฐบาลใหม่ ขอคนทำงาน นั่งคุม 3 กระทรวง ที่จะมีผลต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการท่องเที่ยว หวังเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน หลังเปิดเสรีอาเซียน ระบุต้องการคนทำงานจริงจังอย่าง “ศศิธารา” อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว
น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณโกเศส นายกสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ สทน. กล่าวว่า หลังการเลือกตั้ง ต้องการให้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการหมุนเวียนรายได้เข้าสู่ประชาชนได้ทุกระดับ นอกจากนั้นยังเพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นภายหลังการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC
นอกจากนั้นในการเลือกรัฐมนตรีหรือบุคคลากรในระดับผู้บริหาร ควรให้ความสำคัญ ใน 3 กระทรวงตามลำดับ ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะทั้ง 3 กระทรวงล้วนมีภาระกิจหน้าที่ที่มีส่วนผลักดันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยเกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยกระทรวงศึกษาธิการ ถือว่ามีความสำคัญอันดับ 1 เนื่องจากเป็นหน่วยงานด้านการผลิตบุคคลากรที่มีคุณภาพ ส่วนกระทรวงวัฒนธรรม จะต้องมากำกับดูแลความเหมาะสมพร้อมกับการผลักดันเทศกาลงานประเพณีของไทยให้คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ เพราะถือเป็นเสน่ห์ที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาติ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีภาระกิจหน้าที่ด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและdารจัดทำกลยุทธ์ทางการตลาดโดยตรง
“การเลือกคนที่จะเข้ามาบริหารใน 3 กระทรวงดังกล่าว ต้องการให้เลือกคนที่ทำงานจริง ทำงานเป็น รู้จักนำสิ่งที่มีอยู่แล้ว มาสร้างให้เกิดประโยชน์และมีมูลค่าเพิ่มได้ เพราะ ท่องเที่ยวถือเป็นงานด้านการบริการ ดังนั้นผู้ที่ดูแลก็ต้องมีใจรักในบริการด้วย เราต้องการบุคคลากรที่เป็นคนทำงานจริงอย่าง ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์
อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา ซึ่งท่านอยู่ตรงไหนก็หางานขึ้นมาทำจนได้ พอมาทำงานด้านการศึกษาก็สามารถปรับมุมมองที่ถูกต้องกับการเลือกเรียนอาชีวะศึกษาได้ว่า เป็นหลักสูตรวิชาชีพ ที่เรียนและปฎิบัติงานไปได้พร้อมกัน จบแล้วมีงานทำ และยังเป็นสายงานที่ภาคแรงงานยังขาดแคลนอีกจำนวนมาก”
อย่างไรก็ตาม การนำเสนอเทศกาลงานประเพณี เพื่อการกระตุ้นท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรดูให้เกิดความเหมาะสม และไม่เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งภาระกิจนี้ ต้องขอให้กระทรวงวัฒนธรรม เร่งหาจุดที่เหมาะสม อย่างกรณีการจัดงานสงกรานต์ที่ถนนสีลม เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา มองว่าหากต้องการเสนอให้เป็นกิจกรรมที่ออกสู่สายตาคนทั่วโลกถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะถนนดังกล่าวเป็นถนนสายเศรษฐกิจและบันเทิง ไม่สื่อถึงศิลปวัฒนธรรมไทย หากกรุงเทพมหานครต้องการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ยังยืนยันว่าถนนราชดำเนินเป็นเส้นที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีทั้งศิลปวัฒนธรรม และยังเป็นถนนประวัติศาสตร์อีกหนึ่งเส้นของประเทศไทย
น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณโกเศส นายกสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ สทน. กล่าวว่า หลังการเลือกตั้ง ต้องการให้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการหมุนเวียนรายได้เข้าสู่ประชาชนได้ทุกระดับ นอกจากนั้นยังเพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นภายหลังการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC
นอกจากนั้นในการเลือกรัฐมนตรีหรือบุคคลากรในระดับผู้บริหาร ควรให้ความสำคัญ ใน 3 กระทรวงตามลำดับ ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะทั้ง 3 กระทรวงล้วนมีภาระกิจหน้าที่ที่มีส่วนผลักดันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยเกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยกระทรวงศึกษาธิการ ถือว่ามีความสำคัญอันดับ 1 เนื่องจากเป็นหน่วยงานด้านการผลิตบุคคลากรที่มีคุณภาพ ส่วนกระทรวงวัฒนธรรม จะต้องมากำกับดูแลความเหมาะสมพร้อมกับการผลักดันเทศกาลงานประเพณีของไทยให้คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ เพราะถือเป็นเสน่ห์ที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาติ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีภาระกิจหน้าที่ด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและdารจัดทำกลยุทธ์ทางการตลาดโดยตรง
“การเลือกคนที่จะเข้ามาบริหารใน 3 กระทรวงดังกล่าว ต้องการให้เลือกคนที่ทำงานจริง ทำงานเป็น รู้จักนำสิ่งที่มีอยู่แล้ว มาสร้างให้เกิดประโยชน์และมีมูลค่าเพิ่มได้ เพราะ ท่องเที่ยวถือเป็นงานด้านการบริการ ดังนั้นผู้ที่ดูแลก็ต้องมีใจรักในบริการด้วย เราต้องการบุคคลากรที่เป็นคนทำงานจริงอย่าง ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์
อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา ซึ่งท่านอยู่ตรงไหนก็หางานขึ้นมาทำจนได้ พอมาทำงานด้านการศึกษาก็สามารถปรับมุมมองที่ถูกต้องกับการเลือกเรียนอาชีวะศึกษาได้ว่า เป็นหลักสูตรวิชาชีพ ที่เรียนและปฎิบัติงานไปได้พร้อมกัน จบแล้วมีงานทำ และยังเป็นสายงานที่ภาคแรงงานยังขาดแคลนอีกจำนวนมาก”
อย่างไรก็ตาม การนำเสนอเทศกาลงานประเพณี เพื่อการกระตุ้นท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรดูให้เกิดความเหมาะสม และไม่เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งภาระกิจนี้ ต้องขอให้กระทรวงวัฒนธรรม เร่งหาจุดที่เหมาะสม อย่างกรณีการจัดงานสงกรานต์ที่ถนนสีลม เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา มองว่าหากต้องการเสนอให้เป็นกิจกรรมที่ออกสู่สายตาคนทั่วโลกถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะถนนดังกล่าวเป็นถนนสายเศรษฐกิจและบันเทิง ไม่สื่อถึงศิลปวัฒนธรรมไทย หากกรุงเทพมหานครต้องการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ยังยืนยันว่าถนนราชดำเนินเป็นเส้นที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีทั้งศิลปวัฒนธรรม และยังเป็นถนนประวัติศาสตร์อีกหนึ่งเส้นของประเทศไทย