xs
xsm
sm
md
lg

วอนรัฐบาลใหม่ช่วยอสังหาฯ สร้างความเชื่อมั่น-ดันรถไฟฟ้าเกิด หลังราคาที่ดินปรับขึ้นรอเก้อ..!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – บิ๊กเสนาฯ วอนรัฐบาลใหม่สร้างความเชื่อมั่น เร่งสร้างรถไฟฟ้าหลังราคาที่ดินปรับขึ้นรอเก้อ ยกเลิกเก็บภาษีซ้ำซ้อน หวังช่วยภาคอสังหาฯโต พร้อมแนะลงทุนซื้อบ้านยุคเงินเฟ้อ ชี้ราคามีแต่ปรับขึ้น ด้านศูนย์ข้อมูลระบุดัชนีราคาห้องชุดปี 54 คาดทั้งปีปรับขึ้น 6% ขณะที่ห้องชุดต่ำกว่า 5 หมื่นบาท/ตร.ม.ปรับขึ้นสูงสุด 10% พร้อมร่วมจัดสัมมนา “เจาะทำเล ซื้อบ้าน ต้านเงินเฟ้อ” ในวันที่ 30 มิ.ย.54 นี้ ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ

ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไม่ว่ารัฐบาลจะมาจากพรรคการเมืองใด สิ่งสำคัญที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ทำ คือ ในระยะสั้นควรสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เพราะเมื่อมีความเชื่อมั่นแล้วก็จะมีการซื้อ-ขายและลงทุนใหม่

ส่วนในระยะกลาง เร่งดำเนินโครงการรถไฟฟ้าที่ได้ประกาศเป็นนโยบายออกไปแล้ว เพราะนับจากมีแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าตามเส้นทางต่างๆ ได้ทำให้ราคาที่ดินปรับขึ้นไปสูงกว่าความเป็นจริง ส่วนในระยะยาว รัฐบาลใหม่ควรจัดการกับการจัดเก็บภาษี ไม่ว่าจะใช้การจัดเก็บภาษีที่ดินหรือใช้รูปแบบอื่น ไม่ควรมีการจัดเก็บซ้ำซ้อนเพราะจะทำให้ประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านมีต้นทุนสูงขึ้น ประกอบกับภาวะที่ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้นยิ่งทำให้ต้นทุนการซื้อบ้านเพิ่มขึ้นอีก

สำหรับภาวะเงินเฟ้อ สินค้าราคาแพง ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ซึ่งเป็นปัญหาไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ หลายคนมองว่าเป็นผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ในทางกลับกันถือเป็นจังหวะที่ดีในการซื้อที่อยู่อาศัย เพราะเป็นสินทรัพย์ในจำนวนไม่กี่ชนิดที่มีมูลค่าเพิ่มตามเงินเฟ้อ

จากตัวเลขของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่า ดัชนีราคาห้องชุดจากครึ่งปี 2553 – ครึ่งปี 2554 อยู่ที่ประมาณ 6% และคาดว่าในปี 54 ดัชนีราคาห้องชุดจะปรับขึ้นเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 6% เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราเงินเฟ้อซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 4% ซึ่งการเติบโตของห้องชุดดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากดัชนีราคาที่เพิ่มขึ้นของราคาห้องชุดที่มีราคาน้อยกว่า 50,000 บาท/ตร.ม. เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ในขณะที่ห้องชุดที่มีราคามากกว่า 80,.000 บาท/ตร.ม. มีการเพิ่มขึ้นเพียง 3% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินเฟ้อได้

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ มาจากหลายปัจจัยที่ประกอบเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเซ็คเม้นท์ของที่อยู่อาศัย อาทิ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ หรือ ห้องชุด ทำเลที่ตั้ง สิ่งแวดล้อมของโครงการซึ่งล้วนมีความสำคัญกับราคาขายของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อที่อยู่อาศัยอย่างไรให้คุ้มค่า รวมทั้งรับทราบข้อมูลด้านความเปลี่ยนแปลงของราคา พร้อมทั้งในด้านดีมานด์และซัพพลายในตลาดในแต่ละทำเล เพื่อประมาณการราคาในอนาคตได้ บริษัทจึงได้ร่วมกับศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เตรียมจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “เจาะทำเล ซื้อบ้าน ต้านเงินเฟ้อ” ในวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ที่ห้องประชุมศาสตราจารย์สังเวียนอินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งรับทราบข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงของราคา พร้อมทั้งดีมานด์และซัพพลายในตลาดแต่ละทำเลเพื่อให้สามารถประมาณการณ์ราคาในอนาคตได้

ด้านนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นและการที่ภาครัฐไฟเขียวให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปล่อยกู้ซื้อบ้านหลังแรกอัตราดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 2 ปี ทำให้ผู้ประกอบการและธนาคารพาณิชย์ร่วมกันจัดแคมเปญเพื่อล็อคอัตราดอกเบี้ยต่ำระยะยาว ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภค ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นจะทำให้ราคาบ้านในปีนี้ปรับขึ้นโดยเฉพาะโครงการบ้านสร้างใหม่จะปรับขึ้น 5-6% อย่างแน่นอน โดยในปีที่ผ่านมามีการเปิดโครงการคอนโดฯเป็นจำนวนมาก แต่ในปีนี้ความร้อนแรงยังมีอยู่แต่ไม่พีค เนื่องจากซัพพลายยังมีมาก ขณะที่โครงการแนวราบในช่วง 4-5 เดือนแรกปีนี้เปิดตัวค่อนข้างมากใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 53 ที่ผ่านมา

“ช่วงกลางปีนี้ หลังหมดมาตรการ 0% จะมีช่วงเลือกตั้ง ซึ่งช่วงนี้ทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อ ต่างรอดูท่าทีของรัฐบาลใหม่ ซึ่งมีพรรคการเมืองอย่างน้อย 2 พรรค ที่มีการพูดถึงนโยบายที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำในระยะยาว แต่สถานการณ์รอดูท่าทีจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ หลังการเลือกตั้งหากไม่มีปัจจัยลบอะไร มองว่าตลาดบ้านช่วงปลายปีจะดีขึ้น ประกอบกับช่วงครึ่งปีหลังจะมีการจัดงานมหกรรมที่อยู่อาศัย จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นตลาด” นายสัมมา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น