ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เปิดตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ thaitrade.com ช่วย SMEs ไทยมีหน้าร้านโชว์และขายสินค้า ตั้งเป้าสิ้นปีนี้มีผู้ผลิตเปิดร้านได้ 3,000 ราย สินค้า 60,000 รายการ พร้อมนัดประชุมทูตพาณิชย์และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ 25 พ.ค. วางแผนดันส่งออกปีนี้โตทะลุ 12%
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำโครงการตลาดกลางซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้ทำการปรับปรุงต่อยอดจากเว็บไซต์ www.thaitrade.com เดิม เพื่อรองรับการเป็นตลาดกลางซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) กำหนดเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในเดือนก.ค.2554 นี้ โดยจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการผลักดันการส่งออกสินค้าไทยออกสู่ตลาดโลก
ทั้งนี้ กรมฯ มีแผนที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในเบื้องต้น โดยจะจัดให้มีบุคลากรที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำ ช่วยวางแผน วิเคราะห์ข้อมูลการค้าที่ผู้ประกอบการควรรู้ และมีทีมผู้ช่วยขายทำหน้าที่ประสานงานซื้อขายในระดับเบื้องต้น และมีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและการตลาดช่วยผู้ประกอบการให้เข้าสู่ธุรกิจออนไลน์
“เรามีทีมที่จะเข้าไปช่วยให้คำปรึกษาในการค้าขายออนไลน์ ตั้งแต่การคัดเลือกสินค้า การใส่ข้อความเป็นภาษาต่างประเทศ วิธีการถ่ายภาพ เพื่อนำไปขายสินค้าในตลาดออนไลน์ ช่วยจนกระทั่งสามารถซื้อขายได้โดยกรมฯ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น”นางนันทวัลย์กล่าว
ขณะเดียวกัน กรมฯ จะใช้เครือข่ายที่มีอยู่ แนะนำสินค้าของผู้ประกอบการไทยที่นำมาซื้อขายบนเว็บไซต์ดังกล่าวให้เข้าถึงผู้ซื้อ ผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 65 แห่ง ที่ประจำอยู่ทั่วโลก และยังจะมีกิจกรรมเสริมโดยการจัด Business Matching ให้กับผู้ประกอบการไทยด้วย
สำหรับเป้าหมายในการผลักดันเว็บไซต์ www.thaitrade.com กรมฯ ตั้งเป้าจะให้เป็นเว็บไซต์ซื้อขายออนไลน์ระดับโลก และจะดึงให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ของไทยที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้านรายทั่วประเทศได้เข้ามาใช้บริการ โดยภายในสิ้นปี 2554 นี้ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าเป็นสมาชิกไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย มีสินค้าไม่ต่ำกว่า 60,000 ชิ้น มีจำนวนผู้ซื้อมาลงทะเบียนไม่น้อยว่า 5,000 ราย
นางนันทวัลย์กล่าวว่า ในวันที่ 25 พ.ค.2554 นี้ กรมฯ ได้จัดให้มีการประชุมหัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของกระทรวงพาณิชย์ (HTA) โดยมีนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ให้นโยบายและแนวทางการทำงาน เพื่อผลักดันให้การส่งออกของไทยในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 12% และหากเป็นไปได้ก็จะผลักดันให้ได้ 15% แต่ทั้งนี้ ต้องประเมินตลาดญี่ปุ่นก่อนว่าผลกระทบจากสึนามิจะมีมากน้อยแค่ไหน รวมถึงตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ที่ยังคงทรงตัว ส่วนตลาดอื่นๆ เช่น จีน อินเดีย อาเซียน ตะวันออกกลางและลาตินอเมริกา มีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้สูงขึ้น
นอกจากนี้ กรมฯ ยังจะจัดกิจกรรมเอ็กซ์ปอร์ต คลีนิก ในวันที่ 30 พ.ค.2554 โดยได้เชิญให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ทั่วโลก มาพบปะและให้คำปรึกษาแก่ผู้ส่งออกไทย ที่ต้องการจะสินค้าบุกเจาะไปยังตลาดต่างๆ ว่ามีแนวโน้มและช่องทางในการส่งออกอย่างไร
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำโครงการตลาดกลางซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้ทำการปรับปรุงต่อยอดจากเว็บไซต์ www.thaitrade.com เดิม เพื่อรองรับการเป็นตลาดกลางซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) กำหนดเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในเดือนก.ค.2554 นี้ โดยจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการผลักดันการส่งออกสินค้าไทยออกสู่ตลาดโลก
ทั้งนี้ กรมฯ มีแผนที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในเบื้องต้น โดยจะจัดให้มีบุคลากรที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำ ช่วยวางแผน วิเคราะห์ข้อมูลการค้าที่ผู้ประกอบการควรรู้ และมีทีมผู้ช่วยขายทำหน้าที่ประสานงานซื้อขายในระดับเบื้องต้น และมีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและการตลาดช่วยผู้ประกอบการให้เข้าสู่ธุรกิจออนไลน์
“เรามีทีมที่จะเข้าไปช่วยให้คำปรึกษาในการค้าขายออนไลน์ ตั้งแต่การคัดเลือกสินค้า การใส่ข้อความเป็นภาษาต่างประเทศ วิธีการถ่ายภาพ เพื่อนำไปขายสินค้าในตลาดออนไลน์ ช่วยจนกระทั่งสามารถซื้อขายได้โดยกรมฯ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น”นางนันทวัลย์กล่าว
ขณะเดียวกัน กรมฯ จะใช้เครือข่ายที่มีอยู่ แนะนำสินค้าของผู้ประกอบการไทยที่นำมาซื้อขายบนเว็บไซต์ดังกล่าวให้เข้าถึงผู้ซื้อ ผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 65 แห่ง ที่ประจำอยู่ทั่วโลก และยังจะมีกิจกรรมเสริมโดยการจัด Business Matching ให้กับผู้ประกอบการไทยด้วย
สำหรับเป้าหมายในการผลักดันเว็บไซต์ www.thaitrade.com กรมฯ ตั้งเป้าจะให้เป็นเว็บไซต์ซื้อขายออนไลน์ระดับโลก และจะดึงให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ของไทยที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้านรายทั่วประเทศได้เข้ามาใช้บริการ โดยภายในสิ้นปี 2554 นี้ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าเป็นสมาชิกไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย มีสินค้าไม่ต่ำกว่า 60,000 ชิ้น มีจำนวนผู้ซื้อมาลงทะเบียนไม่น้อยว่า 5,000 ราย
นางนันทวัลย์กล่าวว่า ในวันที่ 25 พ.ค.2554 นี้ กรมฯ ได้จัดให้มีการประชุมหัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของกระทรวงพาณิชย์ (HTA) โดยมีนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ให้นโยบายและแนวทางการทำงาน เพื่อผลักดันให้การส่งออกของไทยในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 12% และหากเป็นไปได้ก็จะผลักดันให้ได้ 15% แต่ทั้งนี้ ต้องประเมินตลาดญี่ปุ่นก่อนว่าผลกระทบจากสึนามิจะมีมากน้อยแค่ไหน รวมถึงตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ที่ยังคงทรงตัว ส่วนตลาดอื่นๆ เช่น จีน อินเดีย อาเซียน ตะวันออกกลางและลาตินอเมริกา มีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้สูงขึ้น
นอกจากนี้ กรมฯ ยังจะจัดกิจกรรมเอ็กซ์ปอร์ต คลีนิก ในวันที่ 30 พ.ค.2554 โดยได้เชิญให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ทั่วโลก มาพบปะและให้คำปรึกษาแก่ผู้ส่งออกไทย ที่ต้องการจะสินค้าบุกเจาะไปยังตลาดต่างๆ ว่ามีแนวโน้มและช่องทางในการส่งออกอย่างไร