xs
xsm
sm
md
lg

วัดสวนแก้วร้าง สั่งพระยะลา งดบิณฑบาตร1เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-วัดสวนแก้ว เมืองยะลา เงียบสงัด กลายเป็นวัดร้าง ไร้พิธิกรรมทางศาสนาเนื่องในวันวิสาขบูชา หลังเจ้าอาวาสและพระลูกวัดโดนคนร้ายลอบวางระเบิดมรณภาพ 2 รูป ทหารชุดรปภ.วัด ยันจะดูแลวัดอย่างดีที่สุด ด้านสำนักพุทธฯ มีขอให้พระในยะลางดบิณฑบาตร 1 เดือน ส่วนมทภ.4 นำพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรที่วัดเมืองยะลา ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยเข้มทั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องในวันวิสาขบูชา

เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.1511 ฉก.14 จากกรมทหารราบที่ 15 กองพันทหารราบที่ 1 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ต้องจัดกำลังดูแลกุฏิพระสมุห์ชาตรี กันตรโต หรือหลวงชา อดีตเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ซึ่งมรณภาพพร้อมพระวีรพงศ์ เขมวีโร หรือหลวงพี่อ้วน พระลูกวัด จากเหตุระเบิดรถยนต์ของวัด ขณะให้ทหารขับรถเพื่อไปบิณฑบาตรในเขตเทศบาลตำบลยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อเช้าวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ให้กำลังทหารที่ประจำการอยู่ในวัดไปดูแล จัดระเบียบภายในห้องกุฏิและบริเวณภายในวัด ที่มีอาณาบริเวณที่กว้างขวางกว่า 20 ไร่ ซึ่งปัจจุบัน ต้องกลายเป็นวัดร้าง เนื่องจากต้องรอการพิจารณาแต่งตั้งพระสงฆ์รูปใหม่เข้าไปทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสกันอีกครั้งหนึ่ง

โดยเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันวิสาบูชา ไม่มีการทำบุญตักบาตรและเวียนเทียนแต่อย่างใด บรรยากาศโดยรวมภายในวัดเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีแต่เจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการเตรียมพร้อมในสภาพที่พร้อมที่จะออกพื้นที่หากมีสถานการณ์เท่านั้น

ในขณะเดียวกันกำลังทหารพราน ชุดปฏิบัติการ นกไร้ขอนของกรมทหารพรานที่ 4716 ซึ่งได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือออกลาดตระเวนทางเท้าในพื้นที่รอบๆ ที่ตั้งวัดเพื่อกดดันและติดตามกลุ่มของคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในพื้นที่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ

ร.ต.ประชา จันทร์สุริย์ ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก ร้อย ร.1511 ประจำฐานปฏิบัติการภายในวัดสวนแก้ว กล่าวว่า ในภารกิจของทหารนั้นทุกวันต้องจัดกำลังดูแลความปลอดภัยให้กับพระในการทำกิจของพระสงฆ์ตั้งแต่การออกไปบิณฑบาตและปฏิบัติกิจตามนิมนต์ของชาวบ้าน ซึ่งได้ปฏิบัติมาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วก่อนหน้านี้ อดีตเจ้าอาวาสคนเก่า ได้มรณภาพไป และพระสมุห์ชาตรี มาเป็นเจ้าอาวาสแทน ทำให้ทหารต้องปฏิบัติภารกิจในการอำนวยความสะดวกและให้ความปลอดภัยในการออกไปบิณฑบาตในพื้นที่ ตลาดยะลาเนื่องจากในเขตบริเวณของวัดจะเป็นชุมชนมุสลิม ไม่มีชุมชนที่เป็นชาวไทยพุทธ

ในอดีตนั้นวัดมีความเจริญมากชาวบ้านมีความศรัทธาต่อเจ้าอาวาสคนเก่า ทางด้านช่วยเหลือด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยวิธีหมอพื้นบ้าน ทำให้มีทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม เดินทางมานมัสการเจ้าอาวาสในแต่ละวันจำนวนมาก ทำให้ผู้ศรัทธามีการจัดสร้างสาธารณูปัจจัย อาทิ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ ห้องปฏิบัติธรรม ตลอดจนกุฏิเจ้าอาวาส อย่างสวยงาม ด้วยความศรัทธาต่อเจ้าอาวาสรูปก่อน เมื่อเจ้าอาวาสรูปใหม่มาก็มีชาวไทยพุทธ และมุสลิมมานิมนต์ทำกิจอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม โดยเฉพาะชาวไทยมุสลิมได้เข้ามาพบจ้าอาวาสบ่อยครั้ง

ร.ต.ประชา กล่าวอีกว่า สภาพที่ตั้งของวัดอยู่ในพื้นที่กันดาร เส้นทางคมนาคมเข้าสู่วัด สภาพถนนเป็นถนนลูกรัง ประกอบกับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทำให้ชาวไทยพุทธ ที่จะเข้ามาทำบุญที่วัดขาดหายไป แม้กระทั่งการบิณฑบาต ทำให้ต้องออกไปบิณฑบาต ในเขตตลาดยะหา ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 4 กม.เป็นประจำทุกวัน จากการที่วัดไม่มีชาวบ้านมาทำบุญมาเป็นเวลานาน ตนได้คิดในการที่จะเชิญชวนนำชาวบ้านในพื้นที่รอบนอกและหน่วยงานราชการในพื้นที่ใกล้เคียงมาทำบุญในทุกวันพระ หรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยจะดูแลความปลอดภัยให้ในทุกเส้นทาง แต่ยังไม่ได้ปฏิบัติมาเกิดเหตุร้ายต่อเจ้าอาวาสเสียก่อน

หลังเกิดเหตุตนเองมีความรู้สึกว่า ยังเสียใจที่ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับพระได้ ทั้งๆ ที่มีอยู่แค่ 2 รูปภายในวัด แต่ด้วยการปฏิบัติหน้าที่โดยสุดความสามารถแล้วก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมา การดูแลนั้น ตนจะให้กำลังพลทุกคน ให้การดูแลเป็นอย่างดีพระจะไปไหน ก่อนไปลูกน้องจะต้องไปตรวจเส้นทางเป็นอย่างดีโดยตลอด เช่นเดียวกับวันเกิดเหตุ ก่อนที่รถยนต์ของพระจะออกจากวัด มีกำลังทหารเดินเท้าไปตรวจเส้นทางก่อนด้วยแล้วเช่นกัน และทุกวันทุกเส้นทางเข้าออก ทั้ง 4 เส้นทาง จะปฏิบัติภารกิจอย่างนี้ ในขณะเดียวก็มีการสับเปลี่ยนเส้นการเข้าออกตลอดด้วย

หลังเกิดเหตุกำลังภาคประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ.ได้รวมกันออกมาถางป่าริมตลอดแนวเส้นทางเข้าวัดและ บริเวณรอบๆ วัดเพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบและป้องกันเหตุร้ายซ้ำสอง

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงเหตุที่พระสงฆ์ที่วัดสวนแก้ว จ.ยะลา ถูกลอบวางระเบิดจนมรณภาพ 2 รูป ว่า ขณะนี้ได้หารือกับ เจ้าคณะปกครองจังหวัดยะลา ว่า จะมีพิจารณางดออกบิณฑบาต หรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่รุนแรงขึ้น ซึ่งเบื้องต้นเจ้าคณะปกครอง จ.ยะลา สั่งงดออกบิณฑบาต 1 เดือน และเตรียมหารือพิจารณาคัดเลือกพระอาสา ลงไปประจำวัดสวนแก้ว แทนพระ 2รูป ที่มรณภาพ เพื่อไม่ให้วัดดังกล่าว กลายเป็นวัดร้างและเป็นกำลังใจ ให้กับพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ คาดว่าจะรู้ผลใน 1 ถึง 2 วันนี้
วันเดียวกันเวลา 07.30 น.ที่วัดเมืองยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันวิสาขบูชาเพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวยะลา ร่วมทำบุญในวันสำคัญทางพุทธศาสนา โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ตรวจสอบบุคคลที่จะนำข้าวสารอาหารแห้งเข้ามาทำบุญภายในบริเวณวัดอย่างเข้มงวด

โดย พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัตช แม่ทัพภาคที่ 4 และนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้นำพุทธศาสนิกชนทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และชาวยะลา กว่า 500 คน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร นอกจากนั้น ยังเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และญาติผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

ส่วนในเวลา 17.00น.ได้มีพิธีเวียนเทียนท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่

ทางด้าน จ.นราธิวาส พระสงฆ์ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ยังคงออกเดินบิณฑบาตรเนื่องในวันวิสาขบูชากันตามปกติท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของกำลังเจ้าหน้าที่ 4 ฝ่ายอย่างแน่นหนาเช่นกัน

ขณะที่นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งการไปยังสถานีตำรวจภูธร นายอำเภอ และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยพระออกบิณฑบาตรเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพระสงฆ์ และชาวบ้านที่ออกมาใส่บาตร ในการสกัดกั้นและป้องปราบกลุ่มผู้ไม่หวังดีไม่ให้สามารถที่จะเคลื่อนไหวก่อเหตุทำร้ายพระสงฆ์

โดยเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยพระสามารถตัดสินใจใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนร้ายได้ หากตรวจสอบพบว่ามีแผนที่จะลอบทำร้ายพระ ซึ่งทางจังหวัดจะรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ทุกกรณีเพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ในการป้องกันไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้นเหมือนกับในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมาจนพระสงฆ์ต้องมรณภาพ 2 รูปแถมทหารต้องได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยพระต้องไม่ตั้งอยู่ในความประมาท หากเกิดเหตุร้ายขึ้นจะต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่ผู้นั้นบกพร่องต่อหน้าที่หรือไม่และที่สำคัญหัวหน้าหน่วยต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอันดับแรกซึ่งกฎเหล็กที่ออกมาในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือปฏิบัติอย่าง เข้มงวด

ส่วนบรรยากาศในพิธีเวียนเทียนวันวิสาขบูชาในพื้นที่ จ.ปัตตานี เป็นไปอย่างคึกคักมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาร่วมรับศีล ฟังธรรม เนื่องในวันวิสาขาบูชากันจำนวนมากท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ จ.ปัตตานี หน่วยกำลังทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองได้วางกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยกันตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีคำสั่งที่ไม่เป็นที่เปิดเผยว่าห้ามให้มีการก่อเหตุกับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ตามวัดอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้มีคำสั่งให้ ตั้งแต่ระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทั้ง 12 อำเภอลงพื้นที่ร่วมทำกิจกรรมกับชาวบ้าน โดยให้จัดวัดประจำอำเภอร่วมทำกิจกรรมกับชาวบ้าน เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมันหลังพระสงฆ์ในพื้นที่ จ.ยะลาเสียชีวิตจากเหตุระเบิด และให้จัดกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบออกปะปนดูแลความปลอดภัยตั้งแต่เส้นทางจนถึงวัดและจนกว่าประชาชนเดินทางกลับ ส่วนพื้นที่ใดที่คิดว่าไม่ปลอดภัยก็ให้ดำเนินการเวียนเทียนในเวลากลางวัน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถดำเนินกิจกรรมทางศาสนาได้ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
ในขณะที่วัดในพื้นที่รอบนอกโดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงหลายแห่งได้มีการจัดเวียนเทียนในเวลา 16.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น