xs
xsm
sm
md
lg

บึ้มรถพระออกบิณฑบาต มรณ2-ทหารเจ็บ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โจรใต้ซุกระเบิดแสวงเครื่องลอบบึ้มทหาร รปภ.พระหน่วยเฉพาะกิจยะลา 14 ขณะนำเจ้าอาวาสวัดสวนแก้วและพระลูกวัดขึ้นรถออกบิณฑบาต และใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มซ้ำ

วานนี้(16 พ.ค.)เวลาประมาณ 06.00 น.พ.ต.ท.เมธา สิงหาเสนา รอง ผกก.สส.รักษาการแทน ผกก.สภ.ยะหา จ.ยะลา ได้รับแจ้งจากวิทยุเครือข่ายทหาร หน่วยเฉพาะกิจที่ 14 อ.ยะหาว่า มีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุดคุ้มครองพระขณะนั่งรถยนต์จะออกไปบิณฑบาตที่บนถนนภายในหมู่บ้าน บ้านบาโย หมู่ที่ 8 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชต ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.)ยะลา และ พ.ต.อ.ภูมิเพชร พิพัฒน์เพชรภูมิ รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และปกครองจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้าน บ้านบาโย ห่างจากทางหลวงสาย 4077(ยะหา-บันนังสตา)ราว 200 เมตร พบซากรถปิกอัพยี่ห้อมาสด้า รุ่นธันเดอร์ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บค-4305 ปัตตานีพังยับทั้งคัน ห่างไปร่วม 20 เมตรพบหลุมระเบิดลึกกว้าง 1.5x2 เมตร และสายไฟฟ้าลากยาวเข้าไปข้างทางสิ้นสุดที่ใต้กอไผ่ราว 200 เมตร รวมทั้งพบสะเก็ดระเบิดเศษชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อีกจำนวนมาก

ในที่เกิดเหตุพบศพพระภิกษุ 2 รูปร่างแหลกเหลว ทราบชื่อพระสมุห์ชาตรี กันตรโต หรือ"หลวงชา"อายุ 47 ปีเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว และพระวีรพงศ์ เขมวีโร หรือ"หลวงอ้วน"อายุ 40 ปีพระลูกวัด นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บอีก 2 นาย คือ พลทหารพลาธร หนูชัยแก้ว อายุ 22 ปี และพลทหารไกรสร มุดคัน อายุ 22 ปี อาการสาหัสถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหาแล้ว

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารชุดร้อย ร.1511 สังกัด ฉก.ยะลา 14 มี ส.อ.มนตรี ไกรเทพ นำกำลัง 6 นาย โดยใช้รถจักรยานยนต์นำหน้าและปิดท้ายรถปิกอัพที่มีพลทหารพลาธร เป็นพลขับนำพระจากวัดสวนแก้ว 2 รูปออกจากวัดเพื่อไปบิณฑบาตที่ตลาดยะหา เดินทางมาได้ประมาณ 3 กิโลเมตร เมื่อถึงที่เกิดเหตุคนร้ายซึ่งได้แอบนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุถังแก๊สปิกนิก น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัมขุดหลุมซุกไว้ใต้ผิวถนนคอนกรีต เมื่อรถปิกอัพทหารผ่านมาจึงจุดชนวนระเบิดเป็นเหตุให้รถปิกอัพของทหารกระดอนลอยขึ้นไปตกห่างจากจุดระบิดกว่า 10 เมตร

แรงระเบิดทำให้พระสมุห์ชาตรี และพระวีรพงษ์ มรณภาพทันที และพลทหารพลาธร พลขับ กับพลทหารไกรสร ที่นั่งระวังหลังกระบะท้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มซ้ำ จังหวะนั้น ส.อ.มนตรี ที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กับกำลังพลอีก 4 นายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้กับคนร้ายจนเกิดการปะทะกันขึ้นราว 15 นาทีกลุ่มโจรนอกศาสนาถอดใจพากันหลบหนีไป

**รวบ6วัยรุ่นต้องสงสัยมือระเบิดไปสอบ

มีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า สำหรับกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ยังคงพุ่งเป้าไปยังกลุ่มของนายสะอูดี สตาปอ อายุ 33 ปี ซึ่งแกนนำระดับปฎิบัติการ พร้อมพวก ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 หมู่ 5 และหมู่ 6 ต.บาโร๊ะ โดยนายสะอูดี เป็นเครือข่ายแกนนำกลุ่มก่อเหตุรุนแรงคนสำคัญคือ นายฮูไบดีละห์ รอมลี ที่เป็นแกนนำระดับสั่งการในพื้นที่ อ.ยะหา และ อ.กาบัง จ.ยะลา

อย่างไรก็ตาม ต่อมาเวลา 14.00 น.เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 14 อ.ยะหา พร้อมทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา อ.รามัน สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านปูแหล และบ้านบาโย หมู่ที่ 8 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา ผลการปิดล้อมตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวชายวัยรุ่นได้ 6 คน ซึ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดในครั้งนี้ไปทำการซักถามข้อมูล และตรวจหาสารวัตถุระเบิดในร่างกายที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา

**เผยพระสงฆ์3จชต.หวาดระแวงหนัก

พระครูพุทธวีรกร รองเจ้าคณะจังหวัดยะลา ฝ่ายธรรมายุตและเจ้าอาวาสวัดยะลาธรรมาราม กล่าวถึงการช่วยเหลือพระที่มรณภาพทั้ง 2 รูปว่า ยังไม่ได้หารือกับเจ้าคณะจังหวัดว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ในเบื้องต้นทางราชการได้เข้ามาให้การช่วยเหลืออยู่บ้างแล้ว ส่วนจะมีการแต่งตั้งพระสงฆ์ไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว หรือวัดปุแหล เพื่อทดแทน พระที่มรณภาพนั้นจะต้องหารือปรึกษากับพระชั้นผู้ใหญ่ก่อน เนื่องจากเมื่อปีที่แล้ว พระถูกคนร้ายลอบวางระเบิดไปแล้ว ทำให้ทหารเสียชีวิตไป 2 นาย รถยนต์ได้รับความเสียหายทั้งคัน ปีนี้มาถูกอีกไม่รู้จะว่าอย่างไร

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเศร้าใจ ศาสนาพุทธถูกรังแกมามากในหลายจังหวัดพระถูกทำร้ายมาจำนวนมาก ผู้ที่จะบวชเป็นพระก็ไม่มี ถ้ามาบวชก็จะอยู่แค่ 15 วัน 30 วัน ผู้ที่มาบวชเป็นทายาทของพระพุทธศาสนาลดน้อยลง ส่วนการดูแลคุ้มครองพระ ที่ผ่านมามีทหารมาดูแลแล้ว แต่ก็ดูแลไม่ได้ ทหารระวังตัวเต็มที่ พระก็ระวังตัวแต่ไม่รู้ว่าภัยจะมาเมื่อไร ไม่รู้จะทำอย่างไรเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นบ่อยๆ เมื่อไรจะสงบสักทีจะได้ประกอบศาสนกิจ ทำให้ชาวบ้านญาติโยมได้สบายใจ

"ปัจจุบันพระทุกวัดอยู่ด้วยความหวาดระแวงกันทั้งนั้น มีเสียงอะไรก็สะดุ้งไปหมด ทำให้ไม่มีสมาธิในการประกอบศาสนกิจ ชาวบ้านเองก็ไม่มีจิตสมาธิ ขอร้องให้หันหน้ามาสามัคคี ปรองดองกัน เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความเจริญปัจจุบัน ทั้งพุทธ อิสลาม ถูกกระทำอยู่บ่อยครั้งมาโดยตลอด" พระครูพุทธวีรกร กล่าว

นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า พระสมุห์ชาตรี นอกจากจะเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนแก้วแล้วท่านยังมีตำแหน่งเป็นเลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุต 3 จังหวัด คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ด้วย ซึ่งทางญาติโยมกำหนดให้มีการบำเพ็ญกุศลรดน้ำศพพระสมุห์ชาตรี กันตรโต ในเวลา 15.00 น.วันเดียวกันนี้ที่วัดยะลาธรรมาราม จ.ยะลา ส่วนพระวีรพงศ์ เขมวีโร กำหนดรดน้ำศพที่วัดนพวงศาราม จ.ปัตตานี ในเวลา 17.00 น.ของวันเดียวกัน

ส่วนการช่วยเหลือเงินเยียวยาจะดำเนินตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี ในเบื้องต้นพระในชั้นสังฆาธิการจำนวน 200,000 บาท ส่วนพระสงฆ์ไม่ใช่ระดับสังฆาธิการ รูปละ 100,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีเงินเยียวยาของแต่หน่วยงานอีกจำนวนหนึ่งด้วย

ส.อ.ทรงฤทธิ์ พลายแก้ว ทหาร ร้อย ร 1511 ฉก.ยะลา 11 เผยว่า สำหรับวัดสวนแก้วแห่งนี้จะมีพระสมุห์ชาตรี กันตรโต เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว และพระวีรพงศ์ เขมวีโร เพียง 2 รูปที่จำวัดอยู่ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งปกติพระทั้ง 2 รูปจะปฎิบัติศาสนกิจของสงฆ์เป็นประจำทุกวัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็เป็นเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจของทหารเป็นอย่างมาก หลังจากที่พระอาจารย์ทั้ง 2 มรณภาพแล้ว วัดแห่งนี้ก็ไม่มีพระเหลืออีก

**ชาวยะหาร่วมสวดดุอาร์ขอให้เกิดสันติ

เวลา 12.30 น.ที่มัสยิดนูรุลฮูดา บ้านปูแล หมู่ 1 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา นายสาเฮาะ อุเซ็ง อีหม่ามประจำมัสยิด พร้อมด้วยผู้นำศาสนาอิสลาม และชาวบ้านใน ต.บาโร๊ะ เกือบ 200 คน ได้ร่วมกันละหมาดฮายัดเพื่อขอให้เกิดความสงบสันติสุขขึ้นในพื้นที่ และเพื่อเป็นการแสดงความไม่เห็นด้วยกับการก่อเหตุร้าย นอกจากนั้นยังได้ร่วมกันแสดงความเสียใจกับพระสงฆ์ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย โดยมีนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และ พ.ท.วัฒนา รอดแสง ผู้แทนหน่วยเฉพาะกิจยะลาร่วมในพิธี

นายสะมะแอ อูแสง กำนันตำบลบาโร๊ะ และนายอับดุลรอซี มาเน๊าะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บาโร๊ะ อ.ยะหา กล่าวว่า อยากให้ผู้กระทำการอันรุนแรงใช้แนวทางสันติวิธี เพราะเป็นหนทางที่ถูกต้อง หลักศาสนาที่แท้จริงคือความสันติ การฆ่าผู้อื่นเป็นการทำผิด เป็นบาปที่ร้ายแรงที่สุด และถือว่าทำผิดต่ออัลเลาะห์ ประชาชนทุกศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้ในพื้นที่นี้ โดยไม่มีการขัดแย้ง เมื่อมีการกระทำที่รุนแรงอย่างนี้ ทุกคนต้องอย่านิ่งดูดายต้องช่วยกันเพื่อให้เกิดความสงบสุข

**มทภ.4ร่วมรดน้ำศพเจ้าอาวาสเหยื่อระเบิด

เวลา 15.00 น.พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการ รมน.ภาค 4 ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพพระสมุห์ชาตรี กันตรโต เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่ศาลาวัดยะลาธรรมาราม (วัดใหม่) เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา โดยมี พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ต.ต.โชต ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และญาติโยมมาร่วมพิธีจำนวนมาก

ในการนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบเงินช่วยเหลือในการบำเพ็ญกุศลจำนวนหนึ่ง ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้มอบเงินช่วยเหลือตามโครงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบของสำนักนายกรัฐมนตรีให้กับญาติของพระสมุห์ชาตรี 200,000 บาท เนื่องจากพระที่มรณภาพ เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ในระดับสังฆาธิการ

หลังจากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และ ผบช.ศชต.ได้เดินทางไปเป็นประธานรดน้ำศพพระวีรพงศ์ เขมวีโร พระลูกวัดที่มรณภาพในเหตุการณ์เดียวกันที่วัดนพวงศาราม อ.เมือง จ.ยะลา

**ประนามโจรใต้สังหารพระรับวันวิสาขะ

ทางด้าน พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าและโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามของคนร้ายที่ต้องการหยุดจังหวะการรุกของเจ้าหน้าที่และตอบโต้ด้วยความรุนแรง ที่สำคัญสิ่งที่บ่งบอกได้ชัดเจนคือคนร้ายต้องการสร้างเงื่อนไขความแตกแยกระหว่างคน 2 ศาสนา โดยใช้เหตุการณ์ความรุนแรงที่สะเทือนอารมณ์และความรู้สึกของคนในสังคมเป็นเงื่อนไขสำคัญ ซึ่งผลพวงดังกล่าวทำให้เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือรัฐไปด้วยในตัว

พล.ต.อัคร กล่าวอีกว่า กองทัพภาคที่ 4 ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอร่วมประณามการกระทำของคนร้ายที่ใช้ศาสนามาเป็นเงื่อนไขในการทำร้ายคนในพื้นที่ด้วยกัน โดยเฉพาะการเลือกเป้าหมายในการก่อเหตุครั้งนี้บ่งชี้ว่าคนร้ายมีการตั้งใจที่จะเลือกพระสงฆ์เป็นเป้าหมาย เนื่องจากเป็นจุดอ่อนจุดเดียวที่สามารถปลุกกระแสความรุนแรงได้ดีที่สุด เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงวันวิสาขบูชา เพื่อให้สังคมในภาพรวมกดดันเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้วิธีการแก้ปัญหาโดยใช้ความรุนแรงซึ่งจะเป็นการสร้างเงื่อนไขความรุนแรงไม่มีที่สิ้นสุด

“คนร้ายมุ่งหวังนำประเด็นศาสนาเข้ามาเป็นเงื่อนไขสำคัญในการปลุกกระแสความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกเหนือจากการเพ่งเล็งทำร้ายครู่ในช่วงใกล้เปิดเทอมใหม่ แต่เนื่องจากจังหวะดังกล่าวเป็นช่วงวันวิสาขบูชาซึ่งเป็นวันที่มีความสำคัญในทางศาสนาของคนไทยพุทธทั่วประเทศ ซึ่งมีผลกระทบในวงกว้างที่มากขึ้น”

พล.ต.อัคร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กอ.รมน.ภาค 4 ได้เน้นย้ำให้มีการเฝ้าระสังการ ดูแลความปลอดภัยเป้าหมายที่อ่อนแอในพื้นที่อย่างเข้มงวด เช่น พระและครู เนื่องจากทั้งสองเป้าหมายมีโอกาสสุ่มเสี่ยงสูงที่จะถูกทำร้าย กระทั่งคนร้ายเลือกก่อเหตุกับพระสงฆ์ในที่สุด ทั้งๆ ที่การดูแลรักษาความปลอดภัยพระในช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นไปอย่างเข้มงวด

**เตรียมหารือให้พระใต้งดบิณฑบาต

ทางด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เผยว่า ได้มอบหมายให้ผู้บริหาร พศ.เดินทางไปยัง จ.ยะลา เพื่อดูแลการจัดงานศพของพระสงฆ์ทั้ง 2 รูปที่มรณภาพแล้ว เนื่องจากตนติดภารกิจงานวันวิสาชบูชา ที่กรุงเทพฯ เชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ก่อเหตุสร้างความวุ่นวายได้ทุกเมื่อ ไม่ใช่แค่เฉพาะช่วงวันวิสาขบูชาเท่านั้น

ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยของพระสงฆ์นั้นนายนพรัตน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้หารือกันแล้วมี 2 มาตรการคือพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยก็ขอให้ฝ่ายความมั่นคงจัดตั้งกำลังทหารช่วยดูแลความปลอดภัยของพระสงฆ์ขณะออกบิณฑบาต หรือไปในกิจต่างๆ และหากเห็นว่าเหตุการณ์รุนแรงผู้ก่อความไม่สงบจ้องเล่นงานพระสงฆ์ก็ให้งดบิณฑบาตแล้วให้ชาวบ้านช่วยหุงหาอาหารถวายแด่พระสงฆ์

"ได้รับรายงานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยะลาว่าคณะสงฆ์ในยะลาจะประชุมหารือกันหากเห็นว่าสถานการณ์ไม่ปลอดภัยก็คงจะมีมติให้งดบิณฑบาตร ซึ่ง พศ.ก็สนับสนุนด้วยการถวายปัจจัยค่าอาหารแด่พระสงฆ์ที่งดบิณฑบาตรรูปละ 100 บาทต่อวัน และหากขาดแคลนข้าวสาร อาหารแห้งก็จะจัดถวาย" นายนพรัตน์ กล่าว

**ทหารนราฯรปภ.เข้มพระบิณฑบาต

สำหรับความเคลื่อนไหวจากพื้นที่ จ.นราธิวาส หลังโจรใต้ลอบวางระเบิดพระสมุห์ชาตรี และพระวีรพงศ์ มรณภาพ 2 รูป และทหารร้อย ร.1511 ฉก.ยะลา 14 บาดเจ็บสาหัสอีก 2 นาย ส่งผลทำให้บรรยากาศการออกบิณฑบาตของพระสงฆ์ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส เป็นไปด้วยความเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ให้การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ด้วยการขี่รถจักรยานยนต์ให้การเฝ้าระวังและสกัดกั้นโจรใต้ลอบก่อเหตุ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ทหารแต่งชุดนอกเครื่องแบบเดินตามหลังอย่างใกล้ชิด และยืนปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่างๆ ที่พระสงฆ์ออกรับบาตจากประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพระสงฆ์และชาวบ้านมีความอบอุ่นใจ ส่วนพระสงฆ์อีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ออกเดินบิณฑบาต ก็จะมีชาวบ้านบางส่วนเดินทางไปถวายภัตตาหารถึงกุฎิพระเลยทีเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น