สเตราส์-คาห์น วัย 62 ปี ซึ่งดำรงบทบาทสำคัญในฐานะหัวเรือของไอเอ็มเอฟในการฝ่าฟันวิกฤตภาคการเงินหลอมละลายในช่วงปี 2007-09 และวิกฤตหนี้สาธารณะยุโรปในปัจจุบัน ถูกจับกุมบนเครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์เที่ยวบินสู่กรุงปารีส ก่อนจะเทกออฟจากท่าอากาศยานจอห์น เอฟ เคนเนดี ของนครนิวยอร์ก เพียง 10 นาที เมื่อเช้าตรู่วันอาทิตย์ (15) ตามเวลาในสหรัฐฯ
พอล บราวน์ โฆษกตำรวจนิวยอร์ก ระบุว่า สเตราส์-คาห์นถูกจับกุมเมื่อเวลาตี 2.15 วันอาทิตย์ (15) ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 13.15 น.เวลาประเทศไทย) ด้วยข้อหากระทำอนาจาร, พยายามข่มขืน, และกักขังหน่วงเหนี่ยว
“เราได้ควบคุมตัวเขาไว้แล้ว และจะมอบหมายหน้าที่ให้สำนักงานตำรวจนครบาลนิวยอร์กทำการสอบสวนต่อไป” เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานแห่งนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งไม่ขอเผยชื่อกล่าว “เราทำตามคำร้องขอของตำรวจนิวยอร์ก”
ทั้งนี้แม่บ้านทำความสะอาดคนหนึ่ง วัย 32 ปี ของโรงแรมโซฟิเทล ย่านไทม์สแควร์ มหานครนิวยอร์ก เล่าเหตุการณ์ต่อสื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ ระบุว่า เธอถูกสเตราส์-คาห์นล่วงละเมิดทางเพศภายในห้องสูทหรูคืนละ 3,000 ดอลลาร์
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงานโดยอ้างคำบอกเล่าของเธอระบุว่า เธอได้เข้าไปทำความสะอาดห้องของสเตราส์-คาห์น ด้วยคิดว่าไม่มีใครอยู่ และในขณะที่กำลังทำความสะอาดในส่วนของห้องโถงของห้องสูทอยู่ ทันใดนั้นนายใหญ่แห่งไอเอ็มเอฟผู้นี้ก็เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่เปลือยกายล่อนจ้อน จากนั้นเขาก็พยายามข่มขืนเธอ โดยการผลักเธอเข้าไปในห้องนอนก่อนจะล็อกประตูขังไว้ เธอพยายามดิ้นหลุดจากเขา แต่เขาก็ยังลากตัวเธอผ่านระเบียงทางเดินเข้าไปในห้องน้ำ อันเป็นการกระทำชำเราครั้งที่สอง
ส่วนโทรทัศน์เอ็มเอสเอ็นบีซี รายงานว่า ในขณะกระทำชำเราในห้องน้ำนั้น สเตราส์-คาห์น ได้บังคับให้พนักงานหญิงผู้นี้ทำออรัลเซ็กซ์ให้เขา โดยที่นายใหญ่ไอเอ็มเอฟยังพยายามถอดชุดชั้นในของเธออีกด้วย
และเมื่อสบโอกาสช่วงหนึ่ง เธอก็ดิ้นรนจนสามารถหนีรอดออกมาได้ จากนั้นเธอก็รีบแจ้งเรื่องนี้ต่อพนักงานของโรงแรมและโทรแจ้งความต่อสายด่วน 911 ทันที
แหล่งข่าวตำรวจเปิดเผยด้วยว่า สเตราส์-คาห์น ออกจากโรงแรมไปอย่างรีบร้อน โดยทิ้งทั้งโทรศัพท์มือถือและของใช้ส่วนตัวไว้ในห้อง
โฆษกบราวน์ ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นในช่วงราว 13.00 น. ของวันเสาร์ (14) ที่ผ่านมา ตามเวลาทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม เบนจามิน บราฟแมน หนึ่งในคณะทนายความของสเตราส์-คาห์น ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า ลูกความของเขาจะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
“เราต้องรอจนกว่าสิ่งต่างๆ จะถูกตัดสิน และดูว่าเรื่องนี้จริงหรือเป็นการยั่วยุ” ลีโอน เลฟ ฟอร์สเตอร์ อีกหนึ่งทนายความของสเตราส์-คาห์น ในฝรั่งเศส กล่าว “พวกเราจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยการไม่ตกเข้าไปในวงจรของสื่อ และเราจำเป็นต้องรอจนกระทั่งทุกสิ่งจะกระจ่าง”
ทั้งนี้ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟของสเตราส์-คาห์น จะสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ปี 2012 หลังจากที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสผ่านพ้นไปแล้วหลายเดือน ทว่าบุคคลในแวดวงการเมืองฝรั่งเศสคาดกันว่า ชายซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อย่อว่า “ดีเอสเค” คนนี้ อาจจะสละตำแหน่งหัวเรือไอเอ็มเอฟก่อนหมดวาระ และลงสู่สนามการเมืองภายในประเทศก็เป็นได้
ทว่าข่าวฉาวดังกล่าวได้ช็อกคนฝรั่งเศสทั้งประเทศ หลังจากที่โพลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่เพิ่งออกมา ระบุว่า สเตราส์-คาห์น นักการเมืองแนวสังคมนิยมผู้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังก่อนมารับงานที่ไอเอ็มเอฟ เป็นตัวเต็งในการช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการเลือกตั้งเดือนเมษายนและพฤษภาคมปีหน้านี้
“ข่าวที่เราได้รับมาจากนิวยอร์กเมื่อคืนนี้จู่โจมเราราวกับสายฟ้าฟาด” มาร์แตง โอบลี หัวหน้าพรรคโซเชียลลิสต์ ให้สัมภาษณ์
ขณะที่ ฟรองซัว เบย์รู นักการเมืองแนวสายกลาง ผู้เคยลงสมัครชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีกับนิโกลาส์ ซาร์โกซี เมื่องวดที่แล้ว และมีวี่แววว่าจะลงแข่งขันกับสเตราส์-คาห์น ในปีหน้าด้วยนั้น กล่าวว่า “สิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้น่าประหลาดมาก หากเรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์ว่าจริง... นี่จะเป็นบางสิ่งที่ต่ำช้าสำหรับผู้หญิงทุกคน มันเลวร้ายต่อภาพลักษณ์ของฝรั่งเศสด้วย”
ส่วนมารีน เลอ เปน ผู้นำพรรคการเมืองแนวขวาจัด ระบุว่า ความหวังของสเตราส์-คาห์น คู่แข่งช่วงชิงผู้นำฝรั่งเศสกับเธอ ได้พังทลายลงแล้ว ทั้งนี้จากโพลสำรวจล่าสุดนั้น สเตราส์-คาห์น และเลอ เปน มีคะแนนนำหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ รวมทั้งประธานาธิบดีซาร์โกซี ซึ่งเป็นแนวอนุรักษ์นิยมกลาง-ขวา ด้วย ถึงแม้ว่าบิ๊กไอเอ็มเอฟผู้นี้จะยังไม่ได้ประกาศอย่างทางการว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีเลยด้วยซ้ำ
แต่กระนั้นก็ตาม เหตุการณ์ฉาวโฉ่นี้ไม่ใช่เรื่องเสื่อมเสียครั้งแรกสำหรับสเตราส์-คาห์น เนื่องจากก่อนหน้านี้ กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟรายนี้เคยมีประวัตินอกใจภรรยาด้วยการไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนักเศรษฐศาสตร์หญิงชาวฮังการีมาแล้วเมื่อปี 2008
อนึ่ง สเตราส์-คาห์น มีกำหนดการจะเข้าพบนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล ของเยอรมนีเมื่อวานนี้ (15) เพื่อหารือเรื่องการอนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซ และจะเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรปที่กรุงบรัสเซลส์ ในวันอังคาร (17) นี้ด้วย.
พอล บราวน์ โฆษกตำรวจนิวยอร์ก ระบุว่า สเตราส์-คาห์นถูกจับกุมเมื่อเวลาตี 2.15 วันอาทิตย์ (15) ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 13.15 น.เวลาประเทศไทย) ด้วยข้อหากระทำอนาจาร, พยายามข่มขืน, และกักขังหน่วงเหนี่ยว
“เราได้ควบคุมตัวเขาไว้แล้ว และจะมอบหมายหน้าที่ให้สำนักงานตำรวจนครบาลนิวยอร์กทำการสอบสวนต่อไป” เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานแห่งนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งไม่ขอเผยชื่อกล่าว “เราทำตามคำร้องขอของตำรวจนิวยอร์ก”
ทั้งนี้แม่บ้านทำความสะอาดคนหนึ่ง วัย 32 ปี ของโรงแรมโซฟิเทล ย่านไทม์สแควร์ มหานครนิวยอร์ก เล่าเหตุการณ์ต่อสื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ ระบุว่า เธอถูกสเตราส์-คาห์นล่วงละเมิดทางเพศภายในห้องสูทหรูคืนละ 3,000 ดอลลาร์
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงานโดยอ้างคำบอกเล่าของเธอระบุว่า เธอได้เข้าไปทำความสะอาดห้องของสเตราส์-คาห์น ด้วยคิดว่าไม่มีใครอยู่ และในขณะที่กำลังทำความสะอาดในส่วนของห้องโถงของห้องสูทอยู่ ทันใดนั้นนายใหญ่แห่งไอเอ็มเอฟผู้นี้ก็เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่เปลือยกายล่อนจ้อน จากนั้นเขาก็พยายามข่มขืนเธอ โดยการผลักเธอเข้าไปในห้องนอนก่อนจะล็อกประตูขังไว้ เธอพยายามดิ้นหลุดจากเขา แต่เขาก็ยังลากตัวเธอผ่านระเบียงทางเดินเข้าไปในห้องน้ำ อันเป็นการกระทำชำเราครั้งที่สอง
ส่วนโทรทัศน์เอ็มเอสเอ็นบีซี รายงานว่า ในขณะกระทำชำเราในห้องน้ำนั้น สเตราส์-คาห์น ได้บังคับให้พนักงานหญิงผู้นี้ทำออรัลเซ็กซ์ให้เขา โดยที่นายใหญ่ไอเอ็มเอฟยังพยายามถอดชุดชั้นในของเธออีกด้วย
และเมื่อสบโอกาสช่วงหนึ่ง เธอก็ดิ้นรนจนสามารถหนีรอดออกมาได้ จากนั้นเธอก็รีบแจ้งเรื่องนี้ต่อพนักงานของโรงแรมและโทรแจ้งความต่อสายด่วน 911 ทันที
แหล่งข่าวตำรวจเปิดเผยด้วยว่า สเตราส์-คาห์น ออกจากโรงแรมไปอย่างรีบร้อน โดยทิ้งทั้งโทรศัพท์มือถือและของใช้ส่วนตัวไว้ในห้อง
โฆษกบราวน์ ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นในช่วงราว 13.00 น. ของวันเสาร์ (14) ที่ผ่านมา ตามเวลาทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม เบนจามิน บราฟแมน หนึ่งในคณะทนายความของสเตราส์-คาห์น ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า ลูกความของเขาจะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
“เราต้องรอจนกว่าสิ่งต่างๆ จะถูกตัดสิน และดูว่าเรื่องนี้จริงหรือเป็นการยั่วยุ” ลีโอน เลฟ ฟอร์สเตอร์ อีกหนึ่งทนายความของสเตราส์-คาห์น ในฝรั่งเศส กล่าว “พวกเราจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยการไม่ตกเข้าไปในวงจรของสื่อ และเราจำเป็นต้องรอจนกระทั่งทุกสิ่งจะกระจ่าง”
ทั้งนี้ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟของสเตราส์-คาห์น จะสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ปี 2012 หลังจากที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสผ่านพ้นไปแล้วหลายเดือน ทว่าบุคคลในแวดวงการเมืองฝรั่งเศสคาดกันว่า ชายซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อย่อว่า “ดีเอสเค” คนนี้ อาจจะสละตำแหน่งหัวเรือไอเอ็มเอฟก่อนหมดวาระ และลงสู่สนามการเมืองภายในประเทศก็เป็นได้
ทว่าข่าวฉาวดังกล่าวได้ช็อกคนฝรั่งเศสทั้งประเทศ หลังจากที่โพลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่เพิ่งออกมา ระบุว่า สเตราส์-คาห์น นักการเมืองแนวสังคมนิยมผู้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังก่อนมารับงานที่ไอเอ็มเอฟ เป็นตัวเต็งในการช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการเลือกตั้งเดือนเมษายนและพฤษภาคมปีหน้านี้
“ข่าวที่เราได้รับมาจากนิวยอร์กเมื่อคืนนี้จู่โจมเราราวกับสายฟ้าฟาด” มาร์แตง โอบลี หัวหน้าพรรคโซเชียลลิสต์ ให้สัมภาษณ์
ขณะที่ ฟรองซัว เบย์รู นักการเมืองแนวสายกลาง ผู้เคยลงสมัครชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีกับนิโกลาส์ ซาร์โกซี เมื่องวดที่แล้ว และมีวี่แววว่าจะลงแข่งขันกับสเตราส์-คาห์น ในปีหน้าด้วยนั้น กล่าวว่า “สิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้น่าประหลาดมาก หากเรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์ว่าจริง... นี่จะเป็นบางสิ่งที่ต่ำช้าสำหรับผู้หญิงทุกคน มันเลวร้ายต่อภาพลักษณ์ของฝรั่งเศสด้วย”
ส่วนมารีน เลอ เปน ผู้นำพรรคการเมืองแนวขวาจัด ระบุว่า ความหวังของสเตราส์-คาห์น คู่แข่งช่วงชิงผู้นำฝรั่งเศสกับเธอ ได้พังทลายลงแล้ว ทั้งนี้จากโพลสำรวจล่าสุดนั้น สเตราส์-คาห์น และเลอ เปน มีคะแนนนำหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ รวมทั้งประธานาธิบดีซาร์โกซี ซึ่งเป็นแนวอนุรักษ์นิยมกลาง-ขวา ด้วย ถึงแม้ว่าบิ๊กไอเอ็มเอฟผู้นี้จะยังไม่ได้ประกาศอย่างทางการว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีเลยด้วยซ้ำ
แต่กระนั้นก็ตาม เหตุการณ์ฉาวโฉ่นี้ไม่ใช่เรื่องเสื่อมเสียครั้งแรกสำหรับสเตราส์-คาห์น เนื่องจากก่อนหน้านี้ กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟรายนี้เคยมีประวัตินอกใจภรรยาด้วยการไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนักเศรษฐศาสตร์หญิงชาวฮังการีมาแล้วเมื่อปี 2008
อนึ่ง สเตราส์-คาห์น มีกำหนดการจะเข้าพบนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล ของเยอรมนีเมื่อวานนี้ (15) เพื่อหารือเรื่องการอนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซ และจะเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรปที่กรุงบรัสเซลส์ ในวันอังคาร (17) นี้ด้วย.
