ที่สนามกีฬาโรงเรียนอนุบาลหนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ นายโสภณ ซารัมย์ รักษาการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย นายประกิจ
พลเดช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 7 พรรคภูมิใจไทย โดยประกาศจะคว้าเก้าอี้ ส.ส.บุรีรัมย์ ในการ
เลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. 54 ยกทีมทั้งหมด 9 เขต พร้อมชูนโยบายประชานิยม สังคมเป็นสุข เดินหน้า
โครงการรถไฟสายใหม่ของภาคอีสาน ปลดหนี้ให้กับเกษตรกร เพิ่มเงินสวัสดิการให้กับ อสม.และผู้
สูงอายุ ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาอย่างเนื่อง โดยมีประชาชนจาก 4 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองกี่, ปะคำ,
หนองหงส์ และ อ.โนนสุวรรณ มาร่วมรับฟังกว่าหมื่นคน
นายโสภณ ซารัมย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 นี้ พื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ทาง
พรรคไม่หนักใจ โดยจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทั้ง 9 เขต และมั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจาก
พี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ เลือกผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย เข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนพี่
น้องประชาชนครบทั้ง 9 เขต โดยเฉพาะ นายประกิจ พลเดช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 7 ซึ่งเชื่อว่า
จะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และซื่อสัตย์
อย่างไรก็ตาม อยากบอกพี่น้องประชาชนถึงผลงานของพรรคภูมิใจไทย เพราะเราต้องการ
คะแนนระบบบัญชีรายชื่อ จึงมาสร้างความนิยมให้กับพี่น้องประชาชนและปลุกกระแสความเป็น
พรรคของคนบุรีรัมย์ เพราะนักการเมือง และพรรคการเมืองใดหากได้รับเลือกเข้าไปแล้วทำ
ประโยชน์ให้กับชาวบ้านได้ มันก็จะสร้างความนิยมให้กับชาวบ้าน ถือว่าเป็นการประกาศนโยบาย
ของพรรคอีกทางหนึ่ง
นายโสภณกล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายที่พรรคนำมาปราศรัยให้กับพี่น้องประชาชนรับฟัง
จะเน้นนโยบายเหมือเดิม คือ นโยบายประชานิยม สังคมเป็นสุข ปลดหนี้ให้กับเกษตรกร เพิ่มเงิน
สวัสดิการให้กับ อสม. และผู้สูงอายุเป็นคนละ 1,000 บาท นำความผาสุกกลับคืนสู่พี่น้องประชาชน
เชื่อมั่นว่าความมุ่งมั่น และวิสัยทัศน์ของนักการเมืองของพรรคภูมิใจไทย จะได้รับความนิยมจากพี่
น้องประชาชน
ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้อันดับที่ 3 ซึ่งจะได้เป็นพรรค
ร่วมรัฐบาล เข้าไปสานงานต่ออย่างแน่นอน
ส่วนที่ว่าจะจับมือกับพรรคไหนในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายโสภณ บอกว่าการเมืองไม่มี
อะไรแน่นอน เหมือนกับถ้าเรียนหนังสือก็คือการประสานประโยชน์ ดังนั้น การเมืองคือการประสาน
ประโยชน์ ถ้าสิ่งไหนทำแล้วเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน นักการเมืองลงเลือกตั้งก็ขันอาสามา
ทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชน เราจึงมองว่าสิ่งไหนถ้าเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เราทำทั้ง
นั้น
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ ที่ต้องแข่งกับพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคอีสาน แกนนำพรรค
ภูมิใจไทย กล่าวว่า เราไม่หนักใจ เมื่อลงเลือกตั้งหากจะเจอกับพรรคไหน แม้แต่พรรคเพื่อไทย แต่
ยอมรับว่าในพื้นที่ภาคอีสาน เราสู้เพื่อไทยไม่ได้ ยอมรับว่าแพ้ แต่ว่าเราก็สามารถรักษาพื้นที่เดิมและ
สร้างพื้นที่ใหม่ได้เกินคาด ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ที่ 70 คน และมั่นใจว่าเราทำได้ตามเป้าแน่นอน เพราะเรา
คิดเอง ทำเอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย นายประกิจ
พลเดช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 7 พรรคภูมิใจไทย โดยประกาศจะคว้าเก้าอี้ ส.ส.บุรีรัมย์ ในการ
เลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. 54 ยกทีมทั้งหมด 9 เขต พร้อมชูนโยบายประชานิยม สังคมเป็นสุข เดินหน้า
โครงการรถไฟสายใหม่ของภาคอีสาน ปลดหนี้ให้กับเกษตรกร เพิ่มเงินสวัสดิการให้กับ อสม.และผู้
สูงอายุ ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาอย่างเนื่อง โดยมีประชาชนจาก 4 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองกี่, ปะคำ,
หนองหงส์ และ อ.โนนสุวรรณ มาร่วมรับฟังกว่าหมื่นคน
นายโสภณ ซารัมย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 นี้ พื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ทาง
พรรคไม่หนักใจ โดยจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทั้ง 9 เขต และมั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจาก
พี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ เลือกผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย เข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนพี่
น้องประชาชนครบทั้ง 9 เขต โดยเฉพาะ นายประกิจ พลเดช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 7 ซึ่งเชื่อว่า
จะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และซื่อสัตย์
อย่างไรก็ตาม อยากบอกพี่น้องประชาชนถึงผลงานของพรรคภูมิใจไทย เพราะเราต้องการ
คะแนนระบบบัญชีรายชื่อ จึงมาสร้างความนิยมให้กับพี่น้องประชาชนและปลุกกระแสความเป็น
พรรคของคนบุรีรัมย์ เพราะนักการเมือง และพรรคการเมืองใดหากได้รับเลือกเข้าไปแล้วทำ
ประโยชน์ให้กับชาวบ้านได้ มันก็จะสร้างความนิยมให้กับชาวบ้าน ถือว่าเป็นการประกาศนโยบาย
ของพรรคอีกทางหนึ่ง
นายโสภณกล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายที่พรรคนำมาปราศรัยให้กับพี่น้องประชาชนรับฟัง
จะเน้นนโยบายเหมือเดิม คือ นโยบายประชานิยม สังคมเป็นสุข ปลดหนี้ให้กับเกษตรกร เพิ่มเงิน
สวัสดิการให้กับ อสม. และผู้สูงอายุเป็นคนละ 1,000 บาท นำความผาสุกกลับคืนสู่พี่น้องประชาชน
เชื่อมั่นว่าความมุ่งมั่น และวิสัยทัศน์ของนักการเมืองของพรรคภูมิใจไทย จะได้รับความนิยมจากพี่
น้องประชาชน
ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้อันดับที่ 3 ซึ่งจะได้เป็นพรรค
ร่วมรัฐบาล เข้าไปสานงานต่ออย่างแน่นอน
ส่วนที่ว่าจะจับมือกับพรรคไหนในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายโสภณ บอกว่าการเมืองไม่มี
อะไรแน่นอน เหมือนกับถ้าเรียนหนังสือก็คือการประสานประโยชน์ ดังนั้น การเมืองคือการประสาน
ประโยชน์ ถ้าสิ่งไหนทำแล้วเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน นักการเมืองลงเลือกตั้งก็ขันอาสามา
ทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชน เราจึงมองว่าสิ่งไหนถ้าเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เราทำทั้ง
นั้น
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ ที่ต้องแข่งกับพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคอีสาน แกนนำพรรค
ภูมิใจไทย กล่าวว่า เราไม่หนักใจ เมื่อลงเลือกตั้งหากจะเจอกับพรรคไหน แม้แต่พรรคเพื่อไทย แต่
ยอมรับว่าในพื้นที่ภาคอีสาน เราสู้เพื่อไทยไม่ได้ ยอมรับว่าแพ้ แต่ว่าเราก็สามารถรักษาพื้นที่เดิมและ
สร้างพื้นที่ใหม่ได้เกินคาด ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ที่ 70 คน และมั่นใจว่าเราทำได้ตามเป้าแน่นอน เพราะเรา
คิดเอง ทำเอง