บุรีรัมย์ - “โสภณ” อ้อนคนบุรีรัมย์ เลือกพรรคของคนบุรีรัมย์แต่ยอมรับพื้นที่อีสานพ่ายเพื่อไทย มั่นใจคว้า 70 ที่นั่งขึ้นไป ส่วนจะจับมือพรรคไหนตั้งรัฐบาลต้องดูอีกที พร้อมประกาศคว้าเก้าอี้ ส.ส.บุรีรัมย์ ยกทั้งจังหวัด 9 เขต ชูนโยบายประชานิยมมัดใจคนอีสาน พร้อมเปิดตัว “ประกิจ พลเดช” ลงสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 7
ที่สนามกีฬาโรงเรียนอนุบาลหนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์นายโสภณ ซารัมย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทยเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยนายประกิจ พลเดช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต7 พรรคภูมิใจไทย โดยประกาศคว้าเก้าอี้ ส.ส.บุรีรัมย์ ในการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. 54 ยกทีมทั้งหมด 9 เขต พร้อมชูนโยบายประชานิยม สังคมเป็นสุข เดินหน้าโครงการรถไฟสายใหม่ของภาคอีสาน ปลอดหนี้ให้กับเกษตรกรเพิ่มเงินสวัสดิการให้กับ อสม.และสูงอายุ ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาอย่างเนื่องโดยมีประชาชนจาก 4 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองกี่, ปะคำ, หนองหงส์ และ อ.โนนสุวรรณมาร่วมรับฟังกว่าหมื่นคน
นายโสภณ ซารัมย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแกนนำพรรคภูมิใจ กล่าวว่า การเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 นี้ พื้นที่จ.บุรีรัมย์ เราไม่หนักใจ โดยจะส่งผู้สมัครรับการเลือกตั้งครบทั้ง 9 เขตและมั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์เลือกผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยเข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชาชนครบทั้ง 9 เขต โดยเฉพาะ นายประกิจ พลเดช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 7 ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และซื่อสัตย์
อย่างไรก็ตาม อยากบอกพี่น้องประชาชนถึงผลงานของพรรคภูมิใจไทยเพราะเราต้องการคะแนนระบบบัญชีรายชื่อ จึงมาสร้างความนิยมให้กับพี่น้องประชาชนและปลุกกระแสความเป็นพรรคของคนบุรีรัมย์ เพราะนักการเมืองและพรรคการเมืองใดหากได้รับเลือกเข้าไปแล้วทำประโยชน์ให้กับชาวบ้านได้ มันก็จะสร้างความนิยมให้กับชาวบ้านถือว่าเป็นการประกาศนโยบายของพรรคอีกทางหนึ่ง
นายโสภณกล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายที่พรรคนำมาปราศรัยให้กับพี่น้องประชาชนรับฟังจะเน้นนโยบายเหมือเดิม คือนโยบายประชานิยม สังคมเป็นสุข ปลดหนี้ให้กับเกษตรกรเพิ่มเงินสวัสดิการให้กับ อสม.และผู้สูงอายุเป็นคนละ 1,000 บาทนำความผาสุกกลับคืนสู่พี่น้องประชาชน เชื่อมั่นว่าความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ของนักการเมืองของพรรคจะได้รับความนิยมจากพี่น้องประชาชน
ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้อันดับที่ 3 ซึ่งจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเข้าไปสานงานต่ออย่างแน่นอน
ส่วนที่ว่าจะจับมือกับพรรคไหนในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายโสภณบอกว่าการเมืองไม่มีอะไรแน่นอนเหมือนกับถ้าเรียนหนังสือก็คือการประสานประโยชน์ ดังนั้น การเมืองคือการประสานประโยชน์ ถ้าสิ่งไหนทำแล้วเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนนักการเมืองลงเลือกตั้งก็ขันอาสามาทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนเราจึงมองว่าสิ่งไหน ถ้าเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเราทำทั้งนั้น
ต่อกรณีที่ว่าหนักใจหรือไม่หากแข่งกับพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ภาคอีสานแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เราไม่หนักใจเมื่อลงเลือกตั้งหากจะเจอกับพรรคไหนแม้แต่พรรคเพื่อไทย แต่ยอมรับว่าในพื้นที่ภาคอีสานเราสู้เพื่อไทยไม่ได้ยอมรับว่าแพ้ แต่ว่าเราก็สามารถรักษาพื้นที่เดิมและสร้างพื้นที่ใหม่ได้เกินคาดซึ่งธงที่เราตั้งไว้ 70 คน นั้น มั่นใจว่าได้เกิน 70 แน่นอนเพราะเราคิดเองทำเอง