xs
xsm
sm
md
lg

โยก157นายพันรับเลือกตั้ง "ประยุทธ์"ดึง"สายเหยี่ยว"กระชับอำนาจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ได้ลงนามในคำสั่งกองทัพบก ที่ 99/2554 ให้นายทหารรับราชการ

และปรับระดับเงินเดือน หรือที่เรียกว่า การโยกย้ายระดับผู้บังคับกองพัน ระดับพันเอก และพันโท

จำนวน 157 นาย เมื่อวันที่ 11 พ.ค.54 แต่เพิ่งมีการแจกจ่ายคำสั่ง
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่าเป็นการโยกย้ายนายทหารระดับผู้บังคับหน่วยคุมกำลัง เพื่อตอบ

แทนนายทหารที่เคยทำงานในการกระชับพื้นที่เสื้อแดง และเพื่อความมั่นใจในการรับสถานการณ์

การดูแลความมั่นคงภายใน ในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง และการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รวม

ทั้งการรองรับการตั้งกองพลทหารราบที่ 7 ( พล.ร.7 ) กองพลใหม่ และการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชาย

แดนภาคใต้
ในส่วนของกองทัพภาค 1 มีการจัดวางตัว นายทหารในกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ( พล.1

รอ. ) ซึ่งเป็นหน่วยกำลังหลักของการรักษาความสงบภายในกทม. และขุมกำลังปฏิวัติใหม่ โดยนาย

ทหารบางคนถือเป็นนายทหารสายเหยี่ยว เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ภายใน อาทิ พ.อ.อาสาศึก ขันติ

รัตน์ ( ตท.28 ) รองผู้บังคับกองพันที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ( รองผบ.ร.1 พัน4

รอ. ) ขึ้นเป็นผู้บังคับกองพันที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ( ผบ.ร.1 พัน 4 รอ. ) คน

ใหม่ แทนพ.อ.ชลัช แจ่มใส ที่ย้ายไปเป็น รองผอ.กองกำลังพล กองทัพน้อย 1 ( รองผอ.กกพ.ทน.1 )

และมี พ.ท.สิทธิศักดิ์ ธิวันนา ( ตท.32 ) จากผู้ช่วยนายทหารฝ่ายยุทธการกองทัพภาค 1 ( ผช.ฝยก.ทภ.1

) มาเป็น รองผบ.ร.1 พัน 4 รอ.
พ.อ.วณัฐ ลัทธศักดิ์ศิริ เป็นรองเสนาธิการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ( รองเสธ. พล.1รอ. )

และ พ.อ.วนา แคล้วปลอดทุกข์ รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ( รองผบ.ร.31รอ. )

ขยับเป็น รองเสธ.พล.1 รอ. เช่นกัน แต่ที่น่าจับตามอง พ.อ.กัณฑ์ชัย ประจวบอารีย์ ( ตท.26 ) ซึ่งเคยมี

บทบาทในการกระชับพื้นที่เสื้อแดงที่ราชประสงค์ และซอยรางน้ำ เมื่อพ.ค.ปีที่แล้ว ได้ขยับจาก เสธ.

ร.31 รอ. เป็น รอง ผบ.ร.31 รอ. เพื่อจ่อเป็น ผบ.ร.31 รอ. คนต่อไป
พ.ท.จักรพงษ์ เส-ลา ( ตท.34 ) จากรองผบ.ร.31 พัน 3 รอ. ขยับเป็น ผบ.ร.31 พัน 1 รอ.แทน

พ.ท.อัศวิน บุนนาค ที่ขยับขึ้นเป็น เสธ.ร.31 รอ. , พ.อ. ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ( ตท.27 ) ขยับจาก เส

ธ.ร.11 รอ. ขึ้นเป็น รองผบ.ร.11 รอ. พ.ท. หนุน ศันสนาคม ( ตท.31 ) รองเสธ.ร.11 รอ. เป็นผบ.ร.11พัน

2 รอ. พ.ท.จักรชัย ศรีคชา ผบ.ร.11 พัน 2 รอ. , มาเป็น เสธ.ร.11 รอ. พ.ต.เผ่าพันธุ์ เจนนุวัตร (ตท.33 )

รองผบ.ร.1 พัน 1 รอ.เป็น รองเสธ.ร.11 รอ.
พ.ท.จิรโรจน์ ธูปเทียนรัตน์ ( ตท.31 ) ผช.นายทหารประสานงานการยิง ป.1 รอ. เป็น ผู้

บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ( ผบ.ป.พัน1รอ. ) พ.ต.สิฐิจักษ์ ร่มโพธ์ชี ( ตท.31 )

เป็นผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์ ( ผบ.ป.พัน11 รอ. ) , พ.ท. วุทธยา จันทมาศ (

ตท.28 ) เป็น หัวหน้าฝ่ายยุทธการ กองพลทหารราบที่ 9 ( พล.ร.9 ) หน่วยกำลังปฏิวัติของกองทัพภาค

1 ที่ จ.กาญจนบุรี ขึ้นเป็น ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 29 ( ผบ.ร.29 พัน1 ) พ.ท.

อัษฎาวุธ ปันยารชุน ( ตท.29 ) หัวหน้าฝ่ายกำลังพล พล.ร.9 เป็นผู้บังคับกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่

19 ( ผบ.ร.19 พัน 1 )
ส่วนของทหารม้า พ.ท.เศกสรรค์ ภัทรนาวิก ( ตท.32 ) เป็น ผบ.ม.พัน 22 พ.ท.ณรงค์

สมิตทันต์ ( ตท.30 ) เป็น ผบ.พัน ศม.
สำหรับ กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ( พล.ปตอ. ) หน่วยกำลังในกรุงฯ พ.ท.ปาน

เทพ อิ่มสุ่น ( ตท.31 ) เป็น ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ( ผบ.ปตอ.พัน 2 ) แทน

พ.ท.ธิษณ เกิดประเสริฐ ที่ขยับเป็นพันเอก ตำแหน่งหัวหน้าส่วนปฏิบัติการศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศ(

ศปภอ. ) , พ.ท.ศักดิ์ชัย พงค์พนาไกร ( ตท.31 ) เป็น ผบ.ปตอ.พัน 6 แทน พ.ท.อภิสิทธิ์ บุศยารัศมี ที่

ถูกย้ายเป็น หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน พล.ปตอ.
นอกจากนี้มีการจัดทัพนายทหารในกองทัพภาค 2 เพื่อรับศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ใหม่

พ.อ. ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ( ตท.27 ) เสธ.ร.23 ขยับมาเป็น ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 26 ( ผบ.กรม ทพ.26

) สลับตำแหน่งกับ พ.อ. อุดล บุญธรรมเจริญ ที่ มาเป็น เสธ.ร. 23 เพื่อดูแลชายแดนปราสาทตาเมือน-

ตาควาย จ.สุรินทร์ เนื่องจาก พ.อ. ณัฎฐ์ เป็น นายทหารที่มีความสนิทสนมกับ นายทหารกัมพูชาและ

ทำงานด้านการประสานงานกับเขมรมาตลอด
พ.ท. ภาคภูมิ นภากาศ รองผบ.ทหารพราน 26 เป็นหัวหน้าฝ่ายข่าว พล.ร.6 โดยให้ พ.ต.

ปิยะ นงชนา รอง ผบ.ร.23 พัน 3 มาเป็น รองผบ.ทหารพราน 26 ( รองผบ.กรมทพ.26 ) พ.ท.สุรกิจ กาฬ

เนตร รองผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 23 ( รองผบ.กรม ทพ.23 ) ที่ดูแลพื้นที่เขาพระวิหาร ได้ขยับ

เป็น ผู้บังคับกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 6 ( ผบ.ร.6 พัน1 ) แทน พ.ท.ประจวบ มูลดับ ที่ขยับเป็น เส

ธ.ร.6 โดยที่ พ.อ.ประเวศสุทธิ สุทธิประภา เสธ.ร.6 เป็น รองผบ.ร.6 และพ.ต.พิทักษ์ชัย กิ่งเกตุ รอง

ผบ.ร.16 พัน3 มาเป็น รองผบ.ทพ. 23 แทน
ในส่วนของ พล.ร.3 พ.ท.ณรงค์ วิชาญาณวรวุฒิ หน.ฝ่ายส่งกำลังบำรุง พล.ร.3 เป็น ผบ.ร.3

พัน2 , พ.ท. ณรงค์ สวนแก้ว ( ตท.25 ) ผบ.ร.13 พัน1 ซึ่งเป็น ผบ.กองกำลังเฉพาะกิจ 980 ไทย-ดาร์ฟูร์

ประเทศซูดาน ที่ยังคงปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ซูดาน ได้ขยับเป็น พันเอก เสธ.ร.13 โดยมี พ.ท.จักรพงษ์

โพธิ์นาแค เป็น ผบ.ร.13 พัน1 แทน
นอกจากนี้ การจัดทัพนายทหารในกองทัพภาค 3 เพื่อดูแลพื้นที่ภาคเหนือ มีการจัดผบ.

หน่วยของ กรมทหารราบที่ 7 ( ร.7 ) และ กรมทหารราบที่ 17 ( ร.17 ) เพื่อรองรับการตั้ง กองพลใหม่

อย่าง กองพลทหารราบที่ 7 ( พล.ร.7 ) อาทิ พ.ท.วันชัย มณีวรรณ ( ตท.32 ) หัวหน้าฝ่ายยุทธการ

พล.ร.4 เป็น ผบ.ร.17 พัน 2 พ.ท.เจษฎา เงินกอบทอง ผบ.ร.7 พัน 5 เป็น รองผบ.ร.7 พ.ท.ชายแดน

กฤษณสุวรรณ ( ตท.27 ) เป็น ผบ.ร.7 พัน 2 เป็น ผบ.ร.7 พัน 5 พ.ท.ชายชาญ ธีรพิเชษฐพงศ์ จเรพล.ร.4

เป็น ผบ.ร.7 พัน 2
สำหรับกองทัพภาค 4 ภาคใต้ พ.อ.นิติ ติณสูลานนท์ ( ตท.26 ) หลานชาย พล.อ.เปรม ติณ

สูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ขยับจาก ผบ.ร.5 พัน 2 กลับพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ อีกครั้ง

มาเป็น ผบ.กรมทหารพรานที่ 44 ( ผบ.กรม ทพ.44 ) , พ.ท. ณรงค์ ตันติสิทธิพร ( ตท.27 ) ผบ.ร.25 พัน

1 เป็น ผบ.ร.5 พัน 2 พ.ท.ธรรมรัตน์ อองพลากร ( ตท.31 ) เป็น ผบ.ร.25 พัน 1 พ.ท.พรชัย นิ่มทัศนศริ

( ตท.34 ) เป็น ผบ.พันพัฒนาที่ 4 พ.ท.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ( ตท.31 ) เป็น ผบ.ร.15 พัน 2 พ.ท.

สฐิรพงษ์ อาจหาญ ( ตท.32 ) เป็น ผบ.ร.151 พัน 2 พ.ท.พีรพงศ์ วัลลภาทิตย์ ( ตท.34 ) เป็น ผบ.ร.152

พัน 3
------------
กำลังโหลดความคิดเห็น