ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยออยล์ เร่งจัดทำแผนวิสาหกิจระยะยาว รองรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต เบื้องต้นแบ่งเป็น 2 แนวทาง แจงเพราะสถานการณ์เปลี่ยน พร้อมศึกษาการทำโลจิสติกส์และการพัฒนาด้านอื่น ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจ คาดแล้วเสร็จไม่เกินสิงหาคมก่อนเสนอบอร์ดพิจารณาตุลาคมปีนี้
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOPเปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนวิสาหกิจระยะยาว (Strategic Planning) จนถึงปี 2020 เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยในแผนวิสาหกิจระยะยาวนี้ จะเป็นการวางแผนความเหมาะสมสำหรับการดำเนินธุรกิจของ TOP ในด้านต่าง ๆ ว่าควรจะขยายการลงทุนในด้านใดซึ่งเบื้องต้นแนวทางพิจารณาจะแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ ทางกว้าง หรือทางลึก
โดยการขยายในทางกว้าง จะเป็นการพิจารณาขยายกำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก แต่ต้องเป็นการขยายกำลังการผลิตให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง โดยหากขยายแล้วพบว่าต้นทุนไม่ต่ำลงก็จะขยายไปในอีกแนวทางหนึ่ง นั่นคือทางลึก หรือการขยายการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องทั้งในส่วนของโรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า และโรงกลั่นน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน
" การจัดทำแผนวิสาหกิจระยะยาวของไทยออยล์ใหม่นั้น เพราะสถาการณ์ทางด้านต่าง ๆ เปลี่ยนไป โดยเฉพาะสถานการณ์ต่าง ๆ ในปีนี้กับปีก่อนต่างกันมาก ดังนั้น จึงต้องมีการจัดทำแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และเตรียมแผนรองรับในอนาคตด้วย ซึ่งปีนี้นับว่าเป็นปีที่ดีของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และการได้กำไรจากสต๊อกน้ำมันที่ส่งผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นมาก แต่TOP ก็เป็นห่วงในเรื่องของการบริหารจัดการการเก็บสต๊อกน้ำมัน ประกอบกับต้องเพิ่มความสามารถในการผลิต "
ดังนั้น การจัดทำแผนธุรกิจต้องมีการศึกษาในเรื่องการทำโลจิสติกส์ การพัฒนาพลังงานทดแทน และเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากสารเบนซีน โดยคาดว่าแผนจะจัดทำได้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ และจะส่งแผนให้กับคณะกรรมการบริษัทพิจารณาได้ในเดือนตุลาคมปีนี้
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOPเปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนวิสาหกิจระยะยาว (Strategic Planning) จนถึงปี 2020 เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยในแผนวิสาหกิจระยะยาวนี้ จะเป็นการวางแผนความเหมาะสมสำหรับการดำเนินธุรกิจของ TOP ในด้านต่าง ๆ ว่าควรจะขยายการลงทุนในด้านใดซึ่งเบื้องต้นแนวทางพิจารณาจะแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ ทางกว้าง หรือทางลึก
โดยการขยายในทางกว้าง จะเป็นการพิจารณาขยายกำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก แต่ต้องเป็นการขยายกำลังการผลิตให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง โดยหากขยายแล้วพบว่าต้นทุนไม่ต่ำลงก็จะขยายไปในอีกแนวทางหนึ่ง นั่นคือทางลึก หรือการขยายการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องทั้งในส่วนของโรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า และโรงกลั่นน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน
" การจัดทำแผนวิสาหกิจระยะยาวของไทยออยล์ใหม่นั้น เพราะสถาการณ์ทางด้านต่าง ๆ เปลี่ยนไป โดยเฉพาะสถานการณ์ต่าง ๆ ในปีนี้กับปีก่อนต่างกันมาก ดังนั้น จึงต้องมีการจัดทำแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และเตรียมแผนรองรับในอนาคตด้วย ซึ่งปีนี้นับว่าเป็นปีที่ดีของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และการได้กำไรจากสต๊อกน้ำมันที่ส่งผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นมาก แต่TOP ก็เป็นห่วงในเรื่องของการบริหารจัดการการเก็บสต๊อกน้ำมัน ประกอบกับต้องเพิ่มความสามารถในการผลิต "
ดังนั้น การจัดทำแผนธุรกิจต้องมีการศึกษาในเรื่องการทำโลจิสติกส์ การพัฒนาพลังงานทดแทน และเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากสารเบนซีน โดยคาดว่าแผนจะจัดทำได้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ และจะส่งแผนให้กับคณะกรรมการบริษัทพิจารณาได้ในเดือนตุลาคมปีนี้
