ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐบาลเวียดนามประกาศยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันเบนซินทุกชนิด ตั้งแต่วันศุกร์ 14 ม.ค.2554 จากที่เคยเก็บ 6% ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นอีก ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญกดดันเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงในช่วงต่อปลายปี-ต้นปี
ชาวเวียดนาม 87 ล้านคน กำลังจะก้าวเข้าสู่เดือนสำคัญ เดือนแห่งความสุขและเดือนแห่งการจับจ่าย คือ เทศการตรุษ 2554 น้ำมันเป็นต้นทุนสำคัญในการผลิตสินค้า และการขนส่ง การให้ราคาจำหน่ายปลีกลดลง เป็นการตัดไฟมิให้สินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคา และ ช่วยพยุงค่าครองชีพ
ถึงแม้ว่าโรงกลั่นน้ำมันแห่งของประเทศจะเดินเครื่องผลิตมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วก็ตาม แต่ก็ผลิตได้เพียงประมาณ 30% ของความต้องการทั้งหมด ส่วนที่เหลือยังต้องนำเข้าโดยซื้อจากสิงคโปร์เป็นหลัก
มาตรการในหนังสือเวียนที่ลงนามโดยนายหวูวันนีง (Vu Van Ninh) รัฐมนตรีการคลัง ยังลดภาษีนำเข้าน้ำมันก๊าดลงเหลือ 2% จาก 6% เลิกเก็บภาษีน้ำเข้าน้ำมันดีเซลจากที่เคยเก็บ 6% และ ลดภาษีนำเข้าน้ำมันดีเซลหมุนช้าจาก 5% ลงเหลือ 2% หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) กล่าว
นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน ที่รัฐบาลปรับราคาจำหน่ายปลีกน้ำเชื้อเพลิงทุกชนิดลง อันเป็นมาตรการหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่มักจะเกิดในช่วงปลายปีของทุกปี นอกเหนือจากการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดูดซับเงินออกจากระบบ ซึ่งปัจจุบันสูงถึง 17%
วันที่ 1 ธ.ค.2553 เวียดนามลดอัตราภาษีสรรพสามิต นำเข้าน้ำมันเบนเซินลงจาก 17% เหลือ 12% อีก 3 สัปดาห์ต่อมาเมื่อราคาน้ำมันใสตลาดโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็ประกาศลดลงอีกครึ่งหนึ่ง
มาตรการของทางการทำให้ราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันในประเทศปรับขึ้นเพียง 2.8% เท่านั้น เทียบกับราคาในตลาดโลกที่ปรับขึ้นสูงถึง 30% ระยะที่ผ่านมา เตื่อยแจ๋กล่าว