ASTVผู้จัดการรายวัน-“วิเชียร”ให้ความมั่นใจ“ประชา”ไม่มีเจ็บตัวฟรีแน่ เชื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ เผยคดีมีความคืบหน้าไปมาก ยันไม่มีการจัดฉากตามที่มีกระแสข่าว สพฐ.ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ หาปลอกกระสุนเพิ่ม"ประชา"ขออโหสิให้คนทำ เชื่อเกี่ยวกับการเมืองแน่ ร่ำให้น้อยใจ“สุเทพ”บอกอย่ามาซ้ำเติม ภท.ปัดลูกพรรคเอี่ยวยิง "เทพเทือก"เตรียมระดมมือดีสางคดี ลั่นไม่ว่าลูกใครต้องจัดการ
วานนี้(12 พ.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวถึงคดีลอบยิงนายประชา ประสพดี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.สมุทรปราการ เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า คดีนี้มอบหมายให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) ลงไปดูแลและควบคุมคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งสั่งการให้ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.ลงพื้นที่เพี่อเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งจะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้แก่นายประชาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า คดีนี้ในตอนนี้ถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งมั่นใจว่าจะติดตามตัวคนร้ายในคดีนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ และขอให้ความมั่นใจกับนายประชา ว่าจะไม่เจ็บตัวฟรี แต่ขณะนี้ยังไม่อยากเปิดเผยรายละเอียดมาก ส่วนกรณีที่นายประชา ออกมาระบุว่าได้บอกชื่อบุคคลต้องสงสัยที่สั่งการในครั้งนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบแล้วนั้น ในส่วนนี้นายประชา น่าจะบอกรายละเอียดกับ พล.ต.อ.อัศวินแล้ว และตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าเหตุการณ์นี้มีกลุ่มคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ซึ่งคงต้องให้เวลาฝ่ายสอบสวนทำงานก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของตำรวจเกี่ยวกับนักการเมือง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งได้หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยเนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการว่าให้จับกุมคนร้ายในคดีนี้ให้ได้ ซึ่งส่วนตัวไม่รู้สึกกดดันที่ต้องมาทำคดีนี้ เพราะถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะสามารถได้ตัวคนร้ายก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า คงไม่สามารถระบุระยะเวลาได้ว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้เมื่อไหร่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าหากจับกุมได้เร็วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเรื่องจะได้ไม่บานปลายอีกต่อไป รวมทั้งจะได้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ต่อข้อถามอีกว่าทางการข่าวก่อนหน้านี้เคยมีระบุหรือไม่ ว่าจะมีการลอบทำร้ายนักการเมือง พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ใน
จ.สมุทรปราการ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งอะไร ก็จะมีลักษณะการกระทำที่ส่อไปการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการโกงการเลือกตั้งหรือลอบทำร้ายผู้สมัคร
**"วิเชียร"ยันยิงจริงไม่ใช่จัดฉาก**
เมื่อถามต่อว่า นายประชา ระบุหรือไม่ว่าขณะนี้สงสัยใคร พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ไม่ได้ระบุชื่อ แต่สาเหตุการลอบสังหารมาจากการเลือกตั้งและเรื่องการเมือง โดยหลังจากนี้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์ร้ายแรง หรือ ศบร.ตร.ที่มี พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร.เป็น ผอ.ศบร.ตร. ต้องทำงานให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น และต้องประเมินสถานการณ์ว่าพื้นที่ใดจะมีการเกิดเหตุเช่นนี้อีก โดยอาจมอบหมายให้ตำรวจพื้นที่เข้าไปตรวจสอบก่อน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหมายจับค้างเก่า รวมถึงกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงทั้งอาวุธปืนและระเบิด ซึ่งหากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ อีก ผบก.จว.ก็ต้องทำรายงานชี้แจงเข้ามาว่ารายงานสถานการณ์ไม่ถูกต้องหรือตรงกับความเป็นจริงหรือไม่
เมื่อถามว่า ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขัดแย้งของนายประชา ตรงกับข้อมูลที่ได้รับมาในตอนนี้หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจนขนาดนั้น แต่ที่ตรงกันคือความขัดแย้งเกิดจากปัญหาทางการเมือง
เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการดูแลพื้นที่มีการคะแนนเสียงไล่เลี่ยกันไม่ให้เกิด เหตุการณ์เช่นนี้กับผู้สมัครอย่างไร พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ต้องมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้สมัครและผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก หากในพื้นที่ทราบว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นก็ต้องเข้าไปจัดการกับคนที่มีพฤติการณ์จะใช้อาวุธก่อความรุนแรง
ถามต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นการจัดฉากหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า จัดฉากเพื่ออะไร คนที่ต้องเจ็บตัวขนาดนี้เหตุใดคิดว่าเป็นการจัดฉาก
ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทาง สพฐ.ได้ลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาปลอกกระสุนซึ่งอาจจะตกในที่เกิดเหตุ แต่ตอนนี้ยังไม่มีการตรวจพบแต่อย่างใด ถ้ามีการตรวจพบปลอกกระสุนก็จะสามารถทราบได้ว่ากระสุนปืนดังกล่าวยิงมาจากปืนกระบอกใด โดยกระสุนปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุถือว่าเป็นกระสุนปืนชนิดใหม่ที่หลายหน่วยงานราชการใช้อยู่ ไม่ใช่แค่ตำรวจหรือทหาร ซึ่งก็ต้องลงไปตรวจสอบ อีกทั้งกระสุนปืนชนิดนี้ในประเทศเพื่อนบ้านก็มีการนำมาใช้ด้วยเช่นกัน
**“ประชา”ร่้ำไห้อโหสิกรรมให้คนยิง**
วันเดียวกันเวลา 10.30 น.ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ห้องประชุมชั้น 5 นายประชา ประสพดี เปิดแถลงข่าวถึงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่ถูกคนร้ายลอบสังหารรวมถึงอาการบาดเจ็บว่า ขณะนี้อาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว แต่ยังมีอาการปวดอยู่บ้าง มีสะเก็ดกระสุนยังฝังอยู่ที่ด้านหลังประมาณ 9 จุด ส่วนที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บจากโดนกระสุนปืนเอ็ม 16 ถากบริเวณด้านซ้าย เป็นแผลยาวประมาณ 3 ซม. ส่วนบาดแผลที่บริเวณหัวไหล่ซ้ายซึ่งถูกกระสุนปืนยิงก็ยังคงเจ็บอยู่ ส่วนอาการอย่างอื่นไม่มีปัญหาและก็ยังมีกำลังใจที่ดี พร้อมขอฝากไปถึงคนที่ทำว่าตนอโหสิกรรมให้ ซึ่งตนรู้ตัวว่าใครทำ ทั้งนี้ในการแถลงข่าวนายประชาได้ร้องไห้ออกมาด้วย
**สาเหตุการเมือง-รู้ตัวคนสั่งฆ่า**
นายประชา กล่าวว่า สำหรับสาเหตุคงเป็นประเด็นทางการเมือง ส่วนรูปคดีนั้นตนได้ให้ข้อมูลทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว รวมถึงข้อมูลในทางลับ และข้อมูลคนที่สั่งสังหารตน ซึ่งตนได้มอบข้อมูลให้คนที่ตนไว้ใจมากที่สุดไปแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เพราะอยากให้ตำรวจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อไม่สับสน รวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“ผมอยากฝากถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้วยว่า ท่านอาจเข้าใจผิดที่ว่า ตนไปมีเรื่องอะไรกับใครหรือเปล่าและอย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งตนคงไม่เอาชีวิตตัวเองไปแลกกับการเมือง แต่คุณสุเทพมาซ้ำเติมผม ผมไม่เคยทำร้ายคุณสุเทพ ผมไม่ได้พูดถึงสุเทพ หรือใครเลย ไม่ทราบว่าเข้าใจผิดหรือเปล่า คุณบอกผมอย่าเอาเรื่องนี้มาหาเสียงทางการเมือง ซึ่งผมไม่เคยตำหนิรัฐบาล แต่คุณสุเทพมาซ้ำเติมผม ผมเสียใจ ทั้งนี้ตนขอขอบคุณนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ท่านมีน้ำใจมาเยี่ยมผมและจับมือผม ผมก็ฝากท่านขอให้จับคนร้ายให้ พร้อมฝากดูแลผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ในความปลอดภัยให้เท่าเทียมกัน” นายประชากล่าวทั้งน้ำตา
**เผย"ทักษิณ"คนสั่งย้ายรพ.**
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายประชา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้โทรศัพท์มาสอบถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับแนะนำให้ย้ายโรงพยาบาลมาที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ตนจึงย้ายมาที่นี่ ส่วนกระแสข่าวที่ว่ากลุ่มนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามเข้ามาเจรจาที่โรงพยาบาลนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องน้ำใจไมตรีซึ่งเป็นคนจังหวัดเดียวกัน ขณะนี้บรรยากาศทางการเมืองต้องการความสมานฉันท์ ซึ่งตนทราบว่านายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และนายพิบูลย์ อัศวเหม ก็ได้มาเยี่ยมและทักทายกัน ซึ่งเป็นน้ำใจที่ดีต่อกัน เราแข่งขันบนกติการเวที ตัดสินกันที่หีบเลือกตั้ง เชื่อว่าเราไม่ได้ตัดสินที่ความเป็นความตายด้วยชีวิตหรือกระสุนปืน
**"ชนม์สวัสดิ์"ร่วมฟังแถลงข่าว**
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายประชาทำการแถลงข่าวนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.มักกะสัน ประมาณกว่า 10 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาคอยสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยการรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งมีการบันทึกภาพถ่ายและภาพวิดีโอ เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานหากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
“ฝากบอกนายสุเทพที่บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว และผมนำมาโยงกับการเมือง ผมไม่เอาชีวิตมาแลกกับการเมือง อย่าซ้ำเติมกัน ผมไม่เคยทำร้ายคุณ อย่างน้อยก็น่าจะมาเยี่ยมกันสักหน่อย อยากฝากให้ดูแลความเป็นธรรมให้ทุกพรรค ทั้งนี้ ขอขอบคุณนายกฯ ที่มาเยี่ยมและอยากให้ดูแลผู้สมัครทุกเขต นอกจากนี้ ขอขอบคุณ ผบ.ตร.ที่ประสานตำรวจให้มาดูแล และฝากถึงผู้สมัครทุกคนว่าอย่าประมาท เพราะบางครั้งผู้สมัครอาจเป็นคนดี แต่คนใกล้ชิดอาจทำไปนอกเหนือคำสั่งได้” นายประชากล่าวว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้มีนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม มานั่งข้างๆ ร่วมรับฟังและเมื่อแถลงจบก็เดินมาจับมือกับนายประชา อย่างไรก็ตามสีหน้าของทั้งสองคนก็ไม่สู้ดีนัก
**ภท.ปัดลูกพรรคเอี่ยวยิง “ประชา”**
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการพาดพิง นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก และนายจิรพันธ์ ลิ้มสกุลศิริรัตน์ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบยิงนายประชา ประสพดี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่าไม่เกี่ยวกับทั้ง 2 คนที่ย้ายมาพรรคเรา เพราะเป็นผู้สมัครคนละเขต แต่พรรคก็มีการส่งผู้สมัครเขตเดียวกับนายประชา ส่วนที่ให้เจ้าหน้าmujออกมาระบุว่าเป็นฝีมือฝ่ายตรงข้ามนั้น ก็อยากให้ออกมาให้ข้อมูลที่ชัดเจน ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับคนในพรรค เพราะคนของพรรคมีศีลธรรม และพรรคไม่เคยมีความขัดแย้งกับนายประชา เพราะนายประชา มีความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่นและเสื้อแดงอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้น่าจะสอบถามความจริงกับนายประชาได้เพราะน่าจะเป็นคนที่รู้ดี
นายศุภชัย กล่าวว่า ฝากเตือนเมื่อมีพรฎ.เลือกตั้งแล้ว ขอให้งดแสดงความเห็นที่ส่งผลกระทบกับพรรคอื่น โดยเฉพาะความเห็นของกก.บห.ถ้าไม่รู้ข้อมูลจริงอย่าพูด อย่าใส่ร้าย เพราะจะถูกยุบพรรคได้
นายศุภชัย กล่าวว่า ตนคิดว่าสถานการณ์การหาเสียงคงไม่น่าเป็นห่วง เพราะมี 375 เขต คงไม่มีการลอบสังหารกันทุกเขต แต่บางพื้นที่อาจมีความรุนแรง โดยเฉพาะสมุทรปราการก็เป็นพื้นที่ที่มีความรุนแรงตลอดทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น แต่พื้นที่อื่นก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น
**“เทพเทือก”ลั่นไม่ว่าลูกใครต้องจัดการ**
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูงจนถึงขั้นเอาชีวิตกันจะแนะนำผู้สมัครอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะแจกพระ เราอยู่กับความดี ธรรมะ เราไม่คิดจะไปฆ่าฟันใคร เราต้องบอกับคนทั้งหลายว่า การเมืองไม่ใช่เรื่องที่จะไปห้ำหั่นชีวิต แต่ะเป็นเรื่องการอาสาประชาชนทำเรื่องที่ดี พรรคประชาธิปัตย์ไม่รบราฆ่าฟันกับใคร เราเอาความดีเข้าสู่
ส่วนกรณีที่ นายประชา ประสพดี ออกมาระบุว่า เบื้องหลังที่ถูกยิงมาจากลูกชายของอดีตนักการเมืองใหญ่ คิดว่าเป็นใคร นายสุเทพ กล่าวว่า ทำไมไม่ถามนายประชา ให้ชัดไปเลยว่าเป็นใคร ตนไม่ทราบว่าเป็นใครตอบไม่ได้ ต้องรอจนเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน
“เราอยู่กับข้อเท็จจริงถ้าตำรวจ ได้พยานหลักฐานว่าชื่ออะไร จะเป็นลูก เป็นพ่อ เป็นลุง เราก็จับทั้งนั้นมาดำเนินคดี ยืนยันว่าเรารักษากฎหมาย ใครที่ทำผิดเรื่องนี้มีพยานหลักฐาน เราดำเนินคดี”
นายสุเทพ กล่าวว่า ความคืบหน้าเรื่องนี้มีการรายงานมาเป็นระยะจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 (สบ.10) รักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้รายงานผลการสอบสวนซึ่งมีความคืบหน้ามาตามลำดับ กระสุน รถที่ใช้ แต่ลงในรายละเอียดไม่ได้ ส่วนเรื่องการจับกุมผู้ต้องหาตำรวจต้องรอบคอบ ไม่สามารถพูดจาเอามันได้ ต้องมีพยานหลักฐานมั่นคงพอจะขอหมายศาลมาดำเนินจับกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไป ตนไม่ไปกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าต้องภายใน 24-36 ชม. แต่เรียนแล้วว่าคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน คดีนี้เป็นคดีแรกที่เกิดขึ้นในบรรยากาศการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่การเลือกตั้งระดับชาติแต่น่าสงสัยว่าเป็นการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดมากกว่า แต่จะทำเป็นรู้ดีกว่าตำรวจไม่ได้รอให้ตำรวจชัดเจนก่อน เมื่อคดีเป็นคดีที่สนใจของประชาชนต้องระดมตำรวจมือดี ลงไปสะสางคดี ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจสันติบาล ตำรวจพื้นที่ บูรณาการ ตนเชื่อว่าเราน่าจะรวบรวมประจักษ์พยานหลักฐานทั้งหลายพอที่จะระบุตัวผู้ต้องหาได้ ซึ่งผมคงไม่พูดล้ำหน้าตำรวจ และเรื่องความเร็วความช้าในการทำคดีเราต้องไม่ไปกดดันตำรวจ บางคดีทำยาก บางคดีทำงานต้องให้เขาว่าไปตามวิชาชีพของเขา
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่าคนก่อเหตุอาจจะเป็นคนในเครื่องแบบ นายสุเทพ กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน คงไม่พูดอย่างนั้นเพราะเป็นตำรวจ แต่นายประชา อาจจพูดแต่ตนไม่ยืนยัน แต่การพูดอย่างนั้นเป็นการสรุปเร็วไป อาวุธปืนที่ใช้ ในราชการสงคราม อาจจะเป็นปืนที่ทหารถือ ตำรวจถือ หรือ ผู้ร้ายถือก็ได้ เพราะปืนราชการก็หายประจำตั้งแต่ 10 เม.ย. 2553 ดังนั้นจะไปอยู่ในมือใครก็ไม่รู้
**“สดศรี”เป็นห่วงความปลอดภัยผู้สมัคร**
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีนายประชา ประสพดี ถูกลอบยิง และ ระบุว่า น่าจะเนื่องมาจากการเมืองระดับชาติว่า เรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งนี้แล้วจะมีอีกหรือไม่ตนก็ยังไม่ทราบ แต่กกต.ก็ได้มีหน่วยรับแจ้งเหตุร้องเรียน ซึ่งจะเป็นหน่วยที่สืบเสาะหาข่าวเชิงลึก เป็นงานที่นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบอยู่ ใครมีเหตุสามารถแจ้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม กกต.ก็เป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยของผู้สมัคร ที่จะมีการแข่งขันกันรวมไปถึงบรรยากาศของการหาเสียงก็จะเกิดความเข้มข้นขึ้น กกต.เองคงต้องมีการประชุมหารือกันเพื่อขอความร่วมมือกัน จากหน่วนงานใดมาช่วยดูแล คงต้องประสานไปยังรัฐบาลให้ช่วยดูแลผู้สมัครตั้งแต่แรกจนโค้งสุดท้าย เพราะในบางพื้นที่ก็อาจสุ่มเสียง ควรจะมีหน่วยงานเข้ามาคุ้มครองผู้สมัครทุกคนด้วยได้หรือไม่ เพราะไม่อยากให้มีใครเสียชีวิตอีก
เมื่อถามว่า เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้กกต.เห็นว่า รัฐบาลควรที่จะมีการออกพ.ร.บ.ความมั่นคงออกมาในช่วงระหว่างจัดการเลือกตั้งหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ถ้ามีอย่างนี้ 5 คนขึ้นไป ทางรัฐบาลควรต้องประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง กกต.จะไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้ไม่ได้ แต่กกต.สามารถใช้ดุลยพินิจในการออกระเบียบคุมการเลือกตั้งได้
นางสดศรี กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องของนายประชา นั้นก็คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนไปก่อนว่าสาเหตุมาจากเรื่องใด เป็นเรื่องการเมืองหรือเป็นเรื่องส่วนตัว เบื้องต้นก็คงต้องให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรมที่ต้องไปสืบหาเบาะแสให้มีความชัดเจน
วานนี้(12 พ.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวถึงคดีลอบยิงนายประชา ประสพดี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.สมุทรปราการ เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า คดีนี้มอบหมายให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) ลงไปดูแลและควบคุมคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งสั่งการให้ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.ลงพื้นที่เพี่อเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งจะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้แก่นายประชาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า คดีนี้ในตอนนี้ถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งมั่นใจว่าจะติดตามตัวคนร้ายในคดีนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ และขอให้ความมั่นใจกับนายประชา ว่าจะไม่เจ็บตัวฟรี แต่ขณะนี้ยังไม่อยากเปิดเผยรายละเอียดมาก ส่วนกรณีที่นายประชา ออกมาระบุว่าได้บอกชื่อบุคคลต้องสงสัยที่สั่งการในครั้งนี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบแล้วนั้น ในส่วนนี้นายประชา น่าจะบอกรายละเอียดกับ พล.ต.อ.อัศวินแล้ว และตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าเหตุการณ์นี้มีกลุ่มคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ซึ่งคงต้องให้เวลาฝ่ายสอบสวนทำงานก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของตำรวจเกี่ยวกับนักการเมือง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งได้หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยเนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการว่าให้จับกุมคนร้ายในคดีนี้ให้ได้ ซึ่งส่วนตัวไม่รู้สึกกดดันที่ต้องมาทำคดีนี้ เพราะถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะสามารถได้ตัวคนร้ายก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า คงไม่สามารถระบุระยะเวลาได้ว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้เมื่อไหร่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าหากจับกุมได้เร็วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเรื่องจะได้ไม่บานปลายอีกต่อไป รวมทั้งจะได้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ต่อข้อถามอีกว่าทางการข่าวก่อนหน้านี้เคยมีระบุหรือไม่ ว่าจะมีการลอบทำร้ายนักการเมือง พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ใน
จ.สมุทรปราการ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งอะไร ก็จะมีลักษณะการกระทำที่ส่อไปการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการโกงการเลือกตั้งหรือลอบทำร้ายผู้สมัคร
**"วิเชียร"ยันยิงจริงไม่ใช่จัดฉาก**
เมื่อถามต่อว่า นายประชา ระบุหรือไม่ว่าขณะนี้สงสัยใคร พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ไม่ได้ระบุชื่อ แต่สาเหตุการลอบสังหารมาจากการเลือกตั้งและเรื่องการเมือง โดยหลังจากนี้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์ร้ายแรง หรือ ศบร.ตร.ที่มี พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร.เป็น ผอ.ศบร.ตร. ต้องทำงานให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น และต้องประเมินสถานการณ์ว่าพื้นที่ใดจะมีการเกิดเหตุเช่นนี้อีก โดยอาจมอบหมายให้ตำรวจพื้นที่เข้าไปตรวจสอบก่อน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหมายจับค้างเก่า รวมถึงกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงทั้งอาวุธปืนและระเบิด ซึ่งหากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ อีก ผบก.จว.ก็ต้องทำรายงานชี้แจงเข้ามาว่ารายงานสถานการณ์ไม่ถูกต้องหรือตรงกับความเป็นจริงหรือไม่
เมื่อถามว่า ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขัดแย้งของนายประชา ตรงกับข้อมูลที่ได้รับมาในตอนนี้หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจนขนาดนั้น แต่ที่ตรงกันคือความขัดแย้งเกิดจากปัญหาทางการเมือง
เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการดูแลพื้นที่มีการคะแนนเสียงไล่เลี่ยกันไม่ให้เกิด เหตุการณ์เช่นนี้กับผู้สมัครอย่างไร พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ต้องมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้สมัครและผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก หากในพื้นที่ทราบว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นก็ต้องเข้าไปจัดการกับคนที่มีพฤติการณ์จะใช้อาวุธก่อความรุนแรง
ถามต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นการจัดฉากหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า จัดฉากเพื่ออะไร คนที่ต้องเจ็บตัวขนาดนี้เหตุใดคิดว่าเป็นการจัดฉาก
ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทาง สพฐ.ได้ลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาปลอกกระสุนซึ่งอาจจะตกในที่เกิดเหตุ แต่ตอนนี้ยังไม่มีการตรวจพบแต่อย่างใด ถ้ามีการตรวจพบปลอกกระสุนก็จะสามารถทราบได้ว่ากระสุนปืนดังกล่าวยิงมาจากปืนกระบอกใด โดยกระสุนปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุถือว่าเป็นกระสุนปืนชนิดใหม่ที่หลายหน่วยงานราชการใช้อยู่ ไม่ใช่แค่ตำรวจหรือทหาร ซึ่งก็ต้องลงไปตรวจสอบ อีกทั้งกระสุนปืนชนิดนี้ในประเทศเพื่อนบ้านก็มีการนำมาใช้ด้วยเช่นกัน
**“ประชา”ร่้ำไห้อโหสิกรรมให้คนยิง**
วันเดียวกันเวลา 10.30 น.ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ห้องประชุมชั้น 5 นายประชา ประสพดี เปิดแถลงข่าวถึงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่ถูกคนร้ายลอบสังหารรวมถึงอาการบาดเจ็บว่า ขณะนี้อาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว แต่ยังมีอาการปวดอยู่บ้าง มีสะเก็ดกระสุนยังฝังอยู่ที่ด้านหลังประมาณ 9 จุด ส่วนที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บจากโดนกระสุนปืนเอ็ม 16 ถากบริเวณด้านซ้าย เป็นแผลยาวประมาณ 3 ซม. ส่วนบาดแผลที่บริเวณหัวไหล่ซ้ายซึ่งถูกกระสุนปืนยิงก็ยังคงเจ็บอยู่ ส่วนอาการอย่างอื่นไม่มีปัญหาและก็ยังมีกำลังใจที่ดี พร้อมขอฝากไปถึงคนที่ทำว่าตนอโหสิกรรมให้ ซึ่งตนรู้ตัวว่าใครทำ ทั้งนี้ในการแถลงข่าวนายประชาได้ร้องไห้ออกมาด้วย
**สาเหตุการเมือง-รู้ตัวคนสั่งฆ่า**
นายประชา กล่าวว่า สำหรับสาเหตุคงเป็นประเด็นทางการเมือง ส่วนรูปคดีนั้นตนได้ให้ข้อมูลทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว รวมถึงข้อมูลในทางลับ และข้อมูลคนที่สั่งสังหารตน ซึ่งตนได้มอบข้อมูลให้คนที่ตนไว้ใจมากที่สุดไปแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เพราะอยากให้ตำรวจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อไม่สับสน รวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“ผมอยากฝากถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้วยว่า ท่านอาจเข้าใจผิดที่ว่า ตนไปมีเรื่องอะไรกับใครหรือเปล่าและอย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งตนคงไม่เอาชีวิตตัวเองไปแลกกับการเมือง แต่คุณสุเทพมาซ้ำเติมผม ผมไม่เคยทำร้ายคุณสุเทพ ผมไม่ได้พูดถึงสุเทพ หรือใครเลย ไม่ทราบว่าเข้าใจผิดหรือเปล่า คุณบอกผมอย่าเอาเรื่องนี้มาหาเสียงทางการเมือง ซึ่งผมไม่เคยตำหนิรัฐบาล แต่คุณสุเทพมาซ้ำเติมผม ผมเสียใจ ทั้งนี้ตนขอขอบคุณนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ท่านมีน้ำใจมาเยี่ยมผมและจับมือผม ผมก็ฝากท่านขอให้จับคนร้ายให้ พร้อมฝากดูแลผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ในความปลอดภัยให้เท่าเทียมกัน” นายประชากล่าวทั้งน้ำตา
**เผย"ทักษิณ"คนสั่งย้ายรพ.**
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายประชา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้โทรศัพท์มาสอบถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับแนะนำให้ย้ายโรงพยาบาลมาที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ตนจึงย้ายมาที่นี่ ส่วนกระแสข่าวที่ว่ากลุ่มนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามเข้ามาเจรจาที่โรงพยาบาลนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องน้ำใจไมตรีซึ่งเป็นคนจังหวัดเดียวกัน ขณะนี้บรรยากาศทางการเมืองต้องการความสมานฉันท์ ซึ่งตนทราบว่านายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และนายพิบูลย์ อัศวเหม ก็ได้มาเยี่ยมและทักทายกัน ซึ่งเป็นน้ำใจที่ดีต่อกัน เราแข่งขันบนกติการเวที ตัดสินกันที่หีบเลือกตั้ง เชื่อว่าเราไม่ได้ตัดสินที่ความเป็นความตายด้วยชีวิตหรือกระสุนปืน
**"ชนม์สวัสดิ์"ร่วมฟังแถลงข่าว**
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายประชาทำการแถลงข่าวนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.มักกะสัน ประมาณกว่า 10 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาคอยสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยการรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งมีการบันทึกภาพถ่ายและภาพวิดีโอ เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานหากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
“ฝากบอกนายสุเทพที่บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว และผมนำมาโยงกับการเมือง ผมไม่เอาชีวิตมาแลกกับการเมือง อย่าซ้ำเติมกัน ผมไม่เคยทำร้ายคุณ อย่างน้อยก็น่าจะมาเยี่ยมกันสักหน่อย อยากฝากให้ดูแลความเป็นธรรมให้ทุกพรรค ทั้งนี้ ขอขอบคุณนายกฯ ที่มาเยี่ยมและอยากให้ดูแลผู้สมัครทุกเขต นอกจากนี้ ขอขอบคุณ ผบ.ตร.ที่ประสานตำรวจให้มาดูแล และฝากถึงผู้สมัครทุกคนว่าอย่าประมาท เพราะบางครั้งผู้สมัครอาจเป็นคนดี แต่คนใกล้ชิดอาจทำไปนอกเหนือคำสั่งได้” นายประชากล่าวว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้มีนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม มานั่งข้างๆ ร่วมรับฟังและเมื่อแถลงจบก็เดินมาจับมือกับนายประชา อย่างไรก็ตามสีหน้าของทั้งสองคนก็ไม่สู้ดีนัก
**ภท.ปัดลูกพรรคเอี่ยวยิง “ประชา”**
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการพาดพิง นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก และนายจิรพันธ์ ลิ้มสกุลศิริรัตน์ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบยิงนายประชา ประสพดี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่าไม่เกี่ยวกับทั้ง 2 คนที่ย้ายมาพรรคเรา เพราะเป็นผู้สมัครคนละเขต แต่พรรคก็มีการส่งผู้สมัครเขตเดียวกับนายประชา ส่วนที่ให้เจ้าหน้าmujออกมาระบุว่าเป็นฝีมือฝ่ายตรงข้ามนั้น ก็อยากให้ออกมาให้ข้อมูลที่ชัดเจน ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับคนในพรรค เพราะคนของพรรคมีศีลธรรม และพรรคไม่เคยมีความขัดแย้งกับนายประชา เพราะนายประชา มีความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่นและเสื้อแดงอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้น่าจะสอบถามความจริงกับนายประชาได้เพราะน่าจะเป็นคนที่รู้ดี
นายศุภชัย กล่าวว่า ฝากเตือนเมื่อมีพรฎ.เลือกตั้งแล้ว ขอให้งดแสดงความเห็นที่ส่งผลกระทบกับพรรคอื่น โดยเฉพาะความเห็นของกก.บห.ถ้าไม่รู้ข้อมูลจริงอย่าพูด อย่าใส่ร้าย เพราะจะถูกยุบพรรคได้
นายศุภชัย กล่าวว่า ตนคิดว่าสถานการณ์การหาเสียงคงไม่น่าเป็นห่วง เพราะมี 375 เขต คงไม่มีการลอบสังหารกันทุกเขต แต่บางพื้นที่อาจมีความรุนแรง โดยเฉพาะสมุทรปราการก็เป็นพื้นที่ที่มีความรุนแรงตลอดทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น แต่พื้นที่อื่นก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น
**“เทพเทือก”ลั่นไม่ว่าลูกใครต้องจัดการ**
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูงจนถึงขั้นเอาชีวิตกันจะแนะนำผู้สมัครอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะแจกพระ เราอยู่กับความดี ธรรมะ เราไม่คิดจะไปฆ่าฟันใคร เราต้องบอกับคนทั้งหลายว่า การเมืองไม่ใช่เรื่องที่จะไปห้ำหั่นชีวิต แต่ะเป็นเรื่องการอาสาประชาชนทำเรื่องที่ดี พรรคประชาธิปัตย์ไม่รบราฆ่าฟันกับใคร เราเอาความดีเข้าสู่
ส่วนกรณีที่ นายประชา ประสพดี ออกมาระบุว่า เบื้องหลังที่ถูกยิงมาจากลูกชายของอดีตนักการเมืองใหญ่ คิดว่าเป็นใคร นายสุเทพ กล่าวว่า ทำไมไม่ถามนายประชา ให้ชัดไปเลยว่าเป็นใคร ตนไม่ทราบว่าเป็นใครตอบไม่ได้ ต้องรอจนเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน
“เราอยู่กับข้อเท็จจริงถ้าตำรวจ ได้พยานหลักฐานว่าชื่ออะไร จะเป็นลูก เป็นพ่อ เป็นลุง เราก็จับทั้งนั้นมาดำเนินคดี ยืนยันว่าเรารักษากฎหมาย ใครที่ทำผิดเรื่องนี้มีพยานหลักฐาน เราดำเนินคดี”
นายสุเทพ กล่าวว่า ความคืบหน้าเรื่องนี้มีการรายงานมาเป็นระยะจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 (สบ.10) รักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้รายงานผลการสอบสวนซึ่งมีความคืบหน้ามาตามลำดับ กระสุน รถที่ใช้ แต่ลงในรายละเอียดไม่ได้ ส่วนเรื่องการจับกุมผู้ต้องหาตำรวจต้องรอบคอบ ไม่สามารถพูดจาเอามันได้ ต้องมีพยานหลักฐานมั่นคงพอจะขอหมายศาลมาดำเนินจับกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไป ตนไม่ไปกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าต้องภายใน 24-36 ชม. แต่เรียนแล้วว่าคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน คดีนี้เป็นคดีแรกที่เกิดขึ้นในบรรยากาศการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่การเลือกตั้งระดับชาติแต่น่าสงสัยว่าเป็นการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดมากกว่า แต่จะทำเป็นรู้ดีกว่าตำรวจไม่ได้รอให้ตำรวจชัดเจนก่อน เมื่อคดีเป็นคดีที่สนใจของประชาชนต้องระดมตำรวจมือดี ลงไปสะสางคดี ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจสันติบาล ตำรวจพื้นที่ บูรณาการ ตนเชื่อว่าเราน่าจะรวบรวมประจักษ์พยานหลักฐานทั้งหลายพอที่จะระบุตัวผู้ต้องหาได้ ซึ่งผมคงไม่พูดล้ำหน้าตำรวจ และเรื่องความเร็วความช้าในการทำคดีเราต้องไม่ไปกดดันตำรวจ บางคดีทำยาก บางคดีทำงานต้องให้เขาว่าไปตามวิชาชีพของเขา
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่าคนก่อเหตุอาจจะเป็นคนในเครื่องแบบ นายสุเทพ กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน คงไม่พูดอย่างนั้นเพราะเป็นตำรวจ แต่นายประชา อาจจพูดแต่ตนไม่ยืนยัน แต่การพูดอย่างนั้นเป็นการสรุปเร็วไป อาวุธปืนที่ใช้ ในราชการสงคราม อาจจะเป็นปืนที่ทหารถือ ตำรวจถือ หรือ ผู้ร้ายถือก็ได้ เพราะปืนราชการก็หายประจำตั้งแต่ 10 เม.ย. 2553 ดังนั้นจะไปอยู่ในมือใครก็ไม่รู้
**“สดศรี”เป็นห่วงความปลอดภัยผู้สมัคร**
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีนายประชา ประสพดี ถูกลอบยิง และ ระบุว่า น่าจะเนื่องมาจากการเมืองระดับชาติว่า เรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งนี้แล้วจะมีอีกหรือไม่ตนก็ยังไม่ทราบ แต่กกต.ก็ได้มีหน่วยรับแจ้งเหตุร้องเรียน ซึ่งจะเป็นหน่วยที่สืบเสาะหาข่าวเชิงลึก เป็นงานที่นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบอยู่ ใครมีเหตุสามารถแจ้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม กกต.ก็เป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยของผู้สมัคร ที่จะมีการแข่งขันกันรวมไปถึงบรรยากาศของการหาเสียงก็จะเกิดความเข้มข้นขึ้น กกต.เองคงต้องมีการประชุมหารือกันเพื่อขอความร่วมมือกัน จากหน่วนงานใดมาช่วยดูแล คงต้องประสานไปยังรัฐบาลให้ช่วยดูแลผู้สมัครตั้งแต่แรกจนโค้งสุดท้าย เพราะในบางพื้นที่ก็อาจสุ่มเสียง ควรจะมีหน่วยงานเข้ามาคุ้มครองผู้สมัครทุกคนด้วยได้หรือไม่ เพราะไม่อยากให้มีใครเสียชีวิตอีก
เมื่อถามว่า เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้กกต.เห็นว่า รัฐบาลควรที่จะมีการออกพ.ร.บ.ความมั่นคงออกมาในช่วงระหว่างจัดการเลือกตั้งหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ถ้ามีอย่างนี้ 5 คนขึ้นไป ทางรัฐบาลควรต้องประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง กกต.จะไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้ไม่ได้ แต่กกต.สามารถใช้ดุลยพินิจในการออกระเบียบคุมการเลือกตั้งได้
นางสดศรี กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องของนายประชา นั้นก็คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนไปก่อนว่าสาเหตุมาจากเรื่องใด เป็นเรื่องการเมืองหรือเป็นเรื่องส่วนตัว เบื้องต้นก็คงต้องให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรมที่ต้องไปสืบหาเบาะแสให้มีความชัดเจน