"ประชา" นัดแถลงข่าววันนี้(12) อ้างรู้ตัวผู้บงการสั่งยิง แย้มถ้าตนตายคนบางคนจะได้ประโยชน์เป็นส.ส. แทน ปูดลูกชายนักการเมืองขู่จะยิงหากตนไม่ได้เป็นส.ส.แล้ว "แม้ว"โทรปลอบขวัญ ปัดขัดแย้งคนในพรรค ผบ.ตร.พุ่งปมการเมืองมอบหมาย “ภาณุพงศ์-อัศวิน” ดูแลกวาดล้างมือปืนรับจ้าง ระบุเฝ้าจับตาซุ้มมือปืนพื้นที่เสี่ยงสูงในอุดรฯ-ราชบุรี-โคราช-สมุทรปราการ
วานนี้ (11 พ.ค.) ที่โรงพยาบาลพระราม 9 เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงพยาบาล ได้แจ้งว่า ในวันที่ 12 พ.ค. เวลา 11.00 น. นายประชา ประสพดี อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย จะแถลงข่าวด้วยตนเอง ถึงอาการบาดเจ็บล่าสุด รวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คนร้ายขับรถตามประกบยิง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาด้วย
ขณะที่นายประชา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเนชั่น ว่า ขณะนี้อาการของตนปลอดภัยแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนที่เข้าทางสีข้าง และยังมีสะเก็ดกระสุนฝังอยู่ตามร่างกายรวมกว่า 10 จุด ซึ่งต้องรอฟังคำวินิจฉัยของแพทย์ว่า จะให้ผ่าหรือไม่อย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ถูกปองร้ายคาดว่ามาจากอะไร นายประชา กล่าวว่า ตนเป็นนักการเมือง เป็นส.ส.สมุทรปราการมา 11 ปี ได้รับการเลือกตั้งอย่างสุจริตไม่เคยซื้อเสียง ทำงานให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด แต่การเลือกตั้งครั้งหน้านั้นเป็นการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งจากเขตใหญ่เป็นเขตเดียวเบอร์เดียวทำให้ง่ายต่อการลอบสังหาร ซึ่งตนทราบดีว่าใครอยู่เบื้องหลังการว่าจ้างมือปืนมายิงตน และได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตามขอฝากถึงคนที่บงการสั่งฆ่าตนว่าขออโหสิกรรมให้ ถ้าตนต้องตายไปจะไม่มีใครที่ได้ประโยชน์นอกจากคนบางคนจะได้เป็นส.ส.แทนตน
“มูลเหตุมาจากการเมืองระดับประเทศแน่นอน ขออย่าให้มาใช้วิธีการเก็บผมด้วยวิธีนี้ ผมรู้ว่าใครมาฆ่าผม ก่อนหน้านี้มีลูกชายนักการเมืองคนหนึ่งพูดฝากมากับข้าราชการคนหนึ่งที่รู้จักผมว่า ถ้าประชาไม่ได้เป็นส.ส.เมื่อไหร่จะเอามือปืนมายิง ซึ่งพอยุบสภาได้เพียง 2 วันผมก็โดนเลย เมื่อดูจากลักษณะของคนร้ายมีลักษณะเหมือนทหารหรือคนในเครื่องแบบ” นายประชา กล่าว
นายประชา กล่าวว่า ขอฝากถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแม้ตนกับนายกฯจะอยู่คนละพรรค ขอให้นายกฯช่วยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย เพราะขนาดตนเป็นส.ส. และยังมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยังไม่มีความปลอดภัย แล้วประชาชนจะขวัญเสียขนาดไหน แต่ที่ตนไม่ตายเพราะคิดว่าจะต้องกลับมาเป็นส.ส.เพื่อยกมือในสภาให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย กลับประเทศ โดยหลังเกิดเหตุในเวลา 22.00 น.ของวันที่ 10 พ.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ให้กำลังใจขอให้ตนหายเร็วๆ
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่เหตุขัดแย้งน่าจะมาจากการสนับสนุนชิงนายกฯ อบจ.สมุทรปราการ นายประชา กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นผู้ดูแลหลัก เพียงแต่เป็นกำลังใจ และช่วยให้กำลังใจผู้สมัครนายกฯอบจ.รายหนึ่งเท่านั้น ไม่เคยคิดทำอะไรมากกว่านี้ เมื่อถามว่า เป็นความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทยทั้งในกรณีของคนเสื้อแดง และการส่งผู้สมัครส.ส.สมุทรปราการที่ไม่ลงตัว นายประชา กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่เคยขัดแย้งอะไรกับใคร คนเก่าที่ออกไปจากพรรคและจะกลับมาอีกครั้งนั้น หากผ่านการพิจารณาของพรรคตนก็ยินดี ไม่เคยคัดค้าน และเชื่อว่าคนที่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนความเป็นเพื่อนย่อมมีอยู่ ไม่มีความคิดถึงขั้นที่ต้องการหักล้างกันแน่นอน
ที่เมืองทองธานี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่นายประชา ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า หลังเกิดเหตุทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาปลอกกระสุน และวิถีกระสุนของคนร้าย แต่เบื้องต้นไม่พบปลอกกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุด้วยการยิงมาจากในรถยนต์ ทำให้ปลอกกระสุนอาจจะตกอยู่ในรถยนต์ของคนร้าย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบไปที่นายประชา ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้ทราบว่าหัวกระสุนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นขนาด .223
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งไปที่ประเด็นทางการเมืองเป็นหลัก ซึ่งหลังเกิดเหตุทางนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้สมัครทุกพรรค ทำให้ในวันนี้จะมีการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง โดยจะมอบหมายให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลเรื่องกลุ่มมือปืนรับจ้างในช่วงเลือกตั้ง หลังการประชุมจะมีการเริ่มกวาดล้างกลุ่มมือปืนรับจ้างในทุกพื้นที่ทันที
พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการติดตามตรวจสอบในทุกจังหวัดว่า พื้นที่ใดมีกลุ่มมือปืนที่มีหมายจับติดตัวและยังไม่มีหมายจับอยู่ในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเข้าไปดำเนินการจับกุมทันที ประกอบกับขณะนี้พรรคการเมืองแต่ละพรรคเริ่มมีการเปิดตัวผู้สมัครในแต่ละพื้นที่ ทำให้การตรวจสอบในเรื่องนี้มีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งถ้าพื้นที่ใดมีความขัดแย้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการเรียกคู่กรณีมาพูดคุยและเจรจากันก่อนที่จะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ส่วนพื้นที่ที่มีการจับตาและเฝ้าดูอยู่ในขณะนี้ประกอบด้วย จ.อุดรธานี จ.ราชบุรี จ.นครราชสีมา และ จ.สมุทรปราการ โดยจะสั่งการให้ผู้บังคับการแต่ละจังหวัดเฝ้าติดตามอย่างเข้มงวด
"อัศวิน"สั่งตรวจสอบวงจรปิดเส้นทางหนี
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา สบ 10 รักษาการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยถึงแนวทางการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุยิง นายประชา ประสพดี ว่าแนวทางการติดตามตัวคนร้ายนั้น ขณะนี้ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด CCTV บริเวณตามรายทาง เพื่อดูว่า คนร้ายใช้เส้นทางและยานพาหนะชนิดใดในการหลบหนี ส่วนลักษณะการยิงของคนร้ายนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นคนร้ายกลุ่มใด บอกได้แต่เพียงว่า คนร้ายมีความชำนาญในการใช้อาวุธชนิดนี้ สำหรับประเด็นในการก่อเหตุนั้นจากการที่ได้มีการพูดคุยกับ นายประชา เชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากการขัดแย้งกันระหว่างการเมืองในท้องถิ่นมากกว่า
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ยังกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่า เป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจ ภายหลังจากที่มีการประกาศยุบสภา โดยหลังจากนี้จะมีการติดตามสืบหาข่าว และตั้งด่านตรวจความมั่นคง ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น
นายกฯ-ส.ส.เพื่อไทย เยี่ยมอาการ
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่โรงพยาบาลพระราม 9 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย และ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการ นายประชา ประสพดี ภายหลังได้ย้ายจากโรงพยาบาลบางประกอก 1 มาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระราม 9 ชั้น 15 ห้อง 1518 โดยทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้ช่างภาพ-ผู้สื่อข่าว เข้าไปบันทึกภาพทำข่าวการเยี่ยมอาการของนายประชา เนื่องจากทางแพทย์ต้องการให้พักผ่อน และเพื่อความปลอดภัยระหว่างที่คนไข้กำลังพักฟื้น ทำให้บรรดาผู้สื่อข่าวสื่อมวลชนต้องยืนคอยที่หน้าประตูทางเข้าแทน
หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการ นายประชา ด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า นายประชาอาการดีขึ้น พูดคุยได้ แต่ยังต้องพักผ่อน ซึ่งตนได้บอกไปว่า ได้กำชับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ว่าจะต้องหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ซึ่งต้องติดตามจากเจ้าหน้าที่ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร นอกจากนี้ยังได้พูดกับ ผบ.ตร.กรณีการให้ผู้สมัคร ขอการคุ้มกัน การให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลให้ความสะดวกในส่วนนี้ด้วย ขณะที่นายประชา ก็อยากให้จับตัวคนร้ายให้ได้ และเป็นห่วงว่าจะเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำลายบรรยากาศการเลือกตั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทำงาน และดูว่าเป็นลักษณะไหน อย่างไร ตนคิดว่า ทุกพรรคการเมืองเพิ่งไปลงพันธะสัญญากัน เรื่องไม่ใช้ความรุนแรง ฉะนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ส่วนจะมีสาเหตุมาจากเรื่องการเมืองหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้สอบสวนค้นหาความจริงดีกว่า และทางผบ.ตร. บอกว่า กำลังจะไปเข้มงวดกวดขันมากขึ้น ในเรื่องของอาวุธสงคราม โดยเฉพาะในช่วงนี้
ไม่ใช้พ.ร.บ.มั่นคงช่วงเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้ออกมาเตือนแล้ว แต่ทำไมยังเกิดเหตุอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตรงนี้เจ้าหน้าที่ต้องทำรายงานมาทั้งหมด เมื่อถามว่า นายกฯบอกว่า ไม่อยากให้เป็นการเลือกตั้งเลือด คราวนี้สามารถหยุดยั้งไม่ให้มีเลือดเกิดขึ้นได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกันจริงๆ ในการทำให้การเลือกตั้งผ่านไปด้วยความเรียบร้อย
เมื่อถามว่า แนวปฏิบัติ กกต.ช่วงการเลือกตั้ง ห้ามนายกฯใช้รถกระสุน จะเป็นปัญหาต่อการลงพื้นที่หาเสียงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวมีวิธีการ เมื่อถามว่า การยุบสภาเป็นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่เป็นระยะๆ เวลาที่มีการต่อสู้ทางการเมืองท้องถิ่นบ้าง อะไรบ้าง แต่เราพยายามทำให้เต็มที่ ไม่ให้เกิดเหตุอย่างนี้อีก ฉะนั้นทุกพรรคการเมืองต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ และทางเจ้าหน้าที่ต้องเข้มมากขึ้น ซึ่งตนคงไม่ใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯไปควบคุมสถานการณ์
แพทย์สั่งนอน รพ.1-2 วัน
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น.วันเดียวกัน นพ.อาทิตย์ เจียรนัยศิลาวงศ์ จักษุแพทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ และ นพ.วิทวัศ ศรีประยูร นายแพทย์เจ้าของไข้ ได้แถลงถึงความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของนายประชา โดย นพ.วิทวัศ กล่าวว่า นายประชา มีบาดแผลที่ไหล่ซ้าย โดยบาดแผลได้รับการรักษามาจากโรงพยาบาลบางประกอก 1 มาแล้ว ด้วยการเย็บแผลมาให้ยาวประมาณ 3 ซม. โดยอาการไม่น่าเป็นห่วง ส่วนบาดแผลที่อื่นนั้นมีเพียงสะเก็ดแผลที่แผ่นหลังประมาณเกือบ 10 จุด แต่เป็นเพียงบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น ไม่น่าเป็นห่วงเช่นกัน นอกจากนี้บาดแผลก็ไม่มีกระสุนขนาดใหญ่ค้างอยู่ มีเพียงเศษโลหะติดอยู่ที่แผลบนแผ่นหลังเท่านั้น อาการโดยรวมถือว่าปลอดภัยดี แต่ทางแพทย์ขอให้นอนพักรักษาตัวอีกซัก 1-2 วัน เพื่อดูอาการ ส่วนคนไข้สามารถพูดจาโต้ตอบได้ แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียจากฤทธิ์ยาอยู่
นพ.วิทวัศ กล่าวต่อว่า ท่านนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ช่วยดูแลคนไข้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงเรื่องรักษาความปลอดภัย ซึ่งโรงพยาบาลก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยอำนวยความสะดวก และคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยของคนไข้อย่างเต็มที่ ซึ่งขวัญกำลังใจของคนไข้ก็ดี แต่อยากให้งดเรื่องการเข้าเยี่ยม เนื่องจากต้องการให้คนไข้พักผ่อนมากๆ และเพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง
สั่งกวาดล้างซุ้มมือปืน-อาวุธ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตขึ้น ตนได้ติดตามสถานการณ์จาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา สบ10 และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุมาจากความขัดแย้งใน เรื่องการเมืองใหญ่ หรือการเมืองท้องถิ่น เพราะใน จ.สมุทรปราการ กำลังมีการเลือกตั้งท้องถิ่นที่สำคัญกันอยู่
อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการไปยัง ผบ.ตร.แล้วว่าต้องให้ทุกกองบัญชาการทุกพื้นที่ ทำแผนในการรักษาความปลอดภัยให้บรรดาผู้สมัครส.ส.ของพรรคการเมืองต่างๆ อย่างเข้มงวด และให้มั่นใจว่าสามารถดูแลความปลอดภัยได้ และตนได้สั่งการไว้ก่อนหน้านี้แล้วให้มีการจับกุมบรรดามือปืนและอาวุธปืนทั้งหลาย โดยเฉพาะอาวุธสงคราม ปืนเถื่อนต่างๆ โดยได้ย้ำไปอีกครั้งว่าให้ไปเพิ่มมาตรการในการจะกวาดล้างอาวุธปืน ขอให้ทำให้แข็งแรง ให้เห็นชัดเจน และได้ผล
เมื่อถามว่านายประชา ระบุว่า นายสุเทพ เคยบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้เกิดความสมานฉันท์ แต่กลับปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า " คุณประชาก็อย่าถือโอกาสด่าผมหาเสียง ไปดูเสียก่อนว่า ตัวเองมีโรคอะไรอยู่ก็ควรจะรู้ ไม่ใช่ว่าอยู่ ๆ ก็มาโทษผมเลย ไม่ได้ ผมไม่ได้ไปร่วมที่จะรู้เห็นในการจะไปดำเนินการกับคุณประชา และผมไม่มีผู้แทนฯ อยู่ในพื้นที่นั้น ไม่มีผู้สมัครของผมที่จะมีฤทธิ์ มีแรงที่จะไปต่อกรกับคุณประชาได้ในทางรุนแรงทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่หรอกครับ" นายสุเทพ กล่าว
กกต.ให้ผู้สมัครส.ส.ระวังตัวเอง
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า นายประชาถูกยิง มีหลายสาเหตุ ซึ่งประธาน กกต.เป็นประธานในประชุมคณะกรรมการอำนวยการการเลือกตั้งทั่วไป โดยมีผู้แทนจากหลายภาคส่วนร่วมเป็นกรรมการ เกี่ยวกับการดูแลการรักษาความเรียบร้อย นอกจากนี้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์รักษาความเรียบร้อยเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนให้ความสำคัญในการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นหากทุกพรรคการเมืองตกลงทำสัญญาร่วมกันในการรักษากฎกติกา การยอมรับผลการเลือกตั้ง การที่จะไม่ใช้ความรุนแรงในการหาเสียง เชื่อว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม กกต. มีความพร้อมและการทำหน้าที่อย่างสุจริต โปร่งใสและเที่ยงธรรม
ส่วนในวันเปิดรับสมัคร ส.ส.ในวันที่ 19-23 พ.ค. ที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง ในการรับสมัครระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งตนเป็นประธาน ก็มีความเป็นห่วงเรื่องการรักษาความปลอดภัย จึงกำหนดให้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างตัวแทนพรรคการเมือง ทีมงานผู้สมัคร สื่อมวลชน เราจะดูแลความปลอดภัยให้รัดกุม ส่วนผู้สมัครแต่ละหน่วยงานก็ทำหน้าที่อยู่แล้ว เพราะกกต.มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งให้สุจริต และเที่ยงธรรม คงทำเกินนั้นไม่ได้ ซึ่งผู้สมัครก็ต้องระมัดระวัง ทั้งนี้หากกกต.ตั้งเวทีกลาง ก็ต้องดูแลความปลอดภัยเต็มที่ และประสานงานกับศูนย์อำนวยการเลือกตั้งทั้งใน กทม.และทุกจังหวัด
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. กล่าวถึคงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับไปยังฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ที่รักษากฎหมายบ้านเมืองให้ดูแลความสงบเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดการประทุษร้ายแก่ผู้สมัครส.ส. และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้ช่วยกันดูแล โดยผู้ที่รับผิดชอบซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องหูไว ตาไว ถ้าไม่หูไวตาไว ก็ไม่ควรรักษาพื้นที่ที่ดูแลความเรียบร้อย
"กอร์ปศักดิ์"เชื่อจับมือยิง"ประชา"ยาก
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะกรรมการนโยบาย และยุทธศาสตร์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อผู้มีโอกาสจะชนะเลือกตั้งสูง จะถูกปองร้าย ทำให้การหาเสียงเป็นไปด้วยความลำบาก และเชื่อว่าก่อนการเลือกตั้ง จะจับคนร้ายได้ยาก ซึ่งในสมัยที่ตนลงเลือกตั้ง ก็มีเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งผู้สมัครต้องดูแลตัวเองและฝ่ายรัฐก็จะต้องดูแลด้วย ทั้งนี้ ขอร้องว่าอย่างสร้างอารมณ์ว่าจะเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง และเหตุการณ์เช่นนี้ เกิดในบางพื้นที่เท่านั้น เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่กระทบต่อภาพรวม เพราะทุกคนอยากได้ระบบประชาธิปไตย ขนาดคนที่เคยใช้ความรุนแรงก็ยังเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง และวันนี้ก็ได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการเลือกตั้งแล้ว
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับนายประชา ก่อนวันที่เกิดเหตุ ซึ่งนายประชาได้บ่นให้ฟังว่า การแข่งขันในเวทีของการเมืองของปากน้ำนั้น มีการแข่งขันกันสูง รวมไปถึงมีผู้มีอิทธิพลมากมาย ซึ่งในพื้นที่นี้ถ้าไม่ใช้เงินในการเลือกตั้ง ก็จะมีการลอบทำร้าย เพื่อไม่ให้ผู้สมัครลงเลือกตั้งได้
นายวิชาญ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกแบ่งออกเป็นเขตเล็กลง ซึ่งทำให้ผู้สมัครแต่ละรายต้องต่อสู้กันมากขึ้น รวมไปถึงการใช้จ่ายเงินในการเลือกตั้งด้วยเศรษฐกิจเช่นนี้ก็ต้องสูงตามไปด้วย
ภูมิใจไทย ปัดเอี่ยวยิงส.ส.เพื่อไทย
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย นายจิรพันธ์ ลิ้มสุกลศิริรัตน์ และนายกรุง ศรีวิไล ( นที ) สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ ร่วมแถลงข่าวถึงกรณีที่นายประชา ถูกลอบยิง ว่า พรรคมีความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลในการเมืองหรือย่างใดก็ตาม ในช่วงก่อนมีการเลือกตั้ง เพราะเรื่องดังกล่าวไม่ควรจะเกิด ดังนั้น พรรคอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองช่วยดูแลความเรียบร้อย และใส่ใจมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำอีก
นายศุภชัย กล่าวว่า การที่มีรายการข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงความเห็นในลักษณะที่ว่า นายประชา ไปทำหน้าที่เจรจาให้ นายกรุง ศรีวิไล และ นายศิริพันธ์ ซึ่งเป็นอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้เปลี่ยนใจ ไม่ให้ออกจากพรรค ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 ท่าน ได้มาร่วมกิจกรรมกับพรรคภูมิใจไทยมาโดยตลอด พร้อมทั้งได้แสดงจุดยืนที่จะไม่อยู่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย ดังนั้น เกรงว่าจะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด นำมาโยงกับพรรคภูมิใจไทย
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค รวมถึง 2 ท่าน อย่างที่เป็นข่าวออกมา เพราะช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว และไปแจ้งความที่ สน.มักกะสัน เพื่อเป็นหลักฐาน ก่อนที่เดินทางไปยื่นหลักฐานการออกให้กับกกต. และมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย
ด้านนายกรุงศรีวิไล กล่าวว่า ตนได้ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว โดยจะมาสมัครลงส.ส.ในนามพรรคภูมิใจไทย เขต 5 อ.บางบ่อ และอ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ยอมรับว่า สาเหตุที่ออกมาเพราะมีความอึดอัดใจ เนื่องจากมีคนในพรรคเพื่อไทย 4-5 คน ที่ดูถูกตน และนายจิรพันธ์ อย่างไรก็ตาม ตนยังรักพรรคเพื่อไทย และการเข้ามาเป็นส.ส.ได้ก็เพราะพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีบุญคุณต้องทดแทนกัน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้เปลี่ยนชื่อจากนายนที มาเป็น นายกรุงศรีวิไล และจะใช้ชื่อดังกล่าวในการเลือกตั้ง เพื่อกันประชาชนเกิดความสับสน ส่วนที่มีกระแสข่าวทาบให้ตนกลับพรรคเพื่อไทยตามเดิม ยอมรับว่ามีจริง ไม่ใช่นายประชาคนเดียว ทั้งนี้ ตนไม่กลับ เพราะเลือกเดินหน้าแล้ว จะไม่ยอมถอยหลัง ขณะที่นายจิรพันธ์ กล่าวว่า ตนจะลงในสมัคร ส.ส.ในเขต 4 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และที่มีข่าวว่าตน และนายกรุงศรีวิไล จะกลับไปอยู่พรรคเพื่อไทย ก็ไม่เป็นความจริง ส่วนมีการติดต่อกับนายประชา หรือไม่ ยอมรับว่าไม่มี ที่ผ่านมา เจอกันก็มีการพูดคุยเพียงฐานะเพื่อนส.ส. และนายประชา ก็เป็นทนายรุ่นเดียวกับตน ดังนั้น อยากให้หายไวๆ รวมถึงให้เจ้าหน้าตำรวจสามารถจับคนร้ายได้