น้ำท่วมพะเยาขยายวงกว้างหลายอำเภอ ศูนย์ราชการหลายแห่งใน"ดอกคำใต้"ต้องหยุดให้บริการ โรงเรียนอีก 6 แห่งเลื่อนเปิดเทอมไม่มีกำหนด ขณะที่ชลประทานฯเผยกว๊านพะเยาเริ่มวิกฤตต้องเร่งระบายน้ำออก เตือนชาวบ้านท้ายน้ำ“เชียงคำ-จุน”เตรียมรับมือน้ำท่วมใน 24 ชม.ต่อจากนี้ ด้าน "ลำปาง" เร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านพื้นที่ 9 อำเภอ 24 ตำบล 98 หมู่บ้านหลังถูกน้ำท่วมหนัก
ที่ จ.พะเยา เมื่อเช้าวานนี้ (11 พ.ค.) สถานที่ราชการทั้งที่ว่าการอำเภอดอกคำใต้ สำนักงานเทศบาลเมืองดอกคำใต้ สำนักงานเกษตรอำเภอฯ ไปรษณีย์ และสำนักงานอื่นๆ กว่า 10 องค์กรในศูนย์ราชการอำเภอดอกคำใต้ จ.พะเยา ต้องหยุดให้บริการหลังเกิดน้ำท่วมในระดับสูง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินทางเข้าทำงานได้
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมโดยทั่วไปในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองดอกคำใต้ ได้เพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่องและขยายวงกว้างเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านมากกว่า 2,000 หลัง ถนนสายพะเยา-เชียงคำ ช่วงหน้าศูนย์ราชการอำเภอดอกคำใต้ ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานเส้นทางขาเข้าเมืองถูกน้ำท่วมสูงจนรถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ เจ้าหน้าที่ต้องจัดให้รถวิ่งสวนทางกันในฝั่งขาออก
นอกจากนี้ โรงเรียนราว 6 แห่งก็ถูกน้ำท่วมหนักด้วยเช่นกัน ทำให้ทางโรงเรียนต้องประกาศเลื่อนเวลาเปิดเทอมออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด
อย่างไรก็ตาม กระทั่งช่วงบ่ายหลายพื้นที่น้ำได้เริ่มลดระดับลงบ้าง เหลือเพียงในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้เท่านั้น ที่ระดับน้ำยังคงทรงตัววัดได้เกือบ 50 ซม.โดยเฉพาะบริเวณที่ว่าการอำเภอดอกคำใต้ สำนักงานที่ดินอำเภอดอกคำใต้ และโรงเรียนดอกคำใต้วิทยาคม ที่เจ้าหน้าที่ทหาร จทบ.พะเยา และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)จังหวัดพะเยา ต้องใช้เรือท้องแบบเพื่อลำเลียงคนและข้าวของเคลื่อนย้ายไปอยู่ในที่สูง ขณะที่น้ำในลำคลองร่องช้างที่ไหลผ่านตัว อ.ดอกคำใต้ ยังคงเต็มลำคลอง โดยเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (11) บริเวณสองริมฝั่งลำน้ำถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร
นายประสงค์ พรหมสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดอกคำใต้วิทยาคม กล่าวว่า น้ำที่เอ่อเข้าท่วมโรงเรียนสถานที่ราชการและบ้านเรือนประชาชนในครั้งนี้ถือว่า หนักสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งเป็นน้ำจากอ่างเก็บน้ำร่องสักและอ่างเก็บน้ำห้วยใหม่ ได้ล้นทางระบายน้ำ เริ่มเอ่อเข้าท่วมเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาจนถึงเที่ยงคืน น้ำได้สูงขึ้นถึงราว 1.5 เมตร จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ร่วมถึงอาจารย์ ช่วยกันขนของ
โดยเฉพาะอุปกรณ์สำนักงานทั้งคอมพิวเตอร์และเอกสารสำคัญต่างๆ ไปไว้บนชั้นสองแต่ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับโต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงกำแพงโรงเรียนล้มทั้งหมด จนกระทั่งช่วงเช้าน้ำก็ยังไม่ลดลง ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร ปภ.และเจ้าหน้าที่ อบต.ดอนศรีชุม เข้าช่วยเหลืออยู่ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวไม่ต่างจากหมวดการทางดอกคำใต้ และโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 46 ซึ่งอยู่ตรงข้างกับที่ว่าการอำเภอดอกคำใต้ มีอุปกรณ์สำนักงานและบ้านพัก ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเช่นกัน
นายณรงค์ อินโส รักษาการหัวหน้าสำนักงาน ปภ.พะเยา กล่าวว่า ขณะนี้หลายอำเภอใน จ.พะเยา ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมเข้ามาแล้ว โดยหนักสุดที่ อ.ดอกคำใต้ และบางส่วนที่ อ.เมืองพะเยา อ.ภูกามยาว อ.เชียงคำ และ อ.ปง ซึ่งได้ประสานขอเรือท้องแบน จากสำนักงานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณที่ 15 จังหวัดเชียงราย 15 ลำ เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยและเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุ
ด้านนายเจนศักดิ์ ลิมปิติ นายช่างชลประทานอาวุโส ชลประทานจังหวัดพะเยา เผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำร่องสักและอ่างเก็บน้ำห้วยใหม่ ยังคงล้นสปริงเวย์อยู่ แต่ได้ลดปริมาณลงแล้ว เนื่องจากไม่มีฝนตกซ้ำลงมา
“ทั้งนี้ เชื่อว่าปริมาณน้ำในอ่างต่างๆ จะเริ่มลดระดับลงเข้าสู่ภาวะปกติ หากไม่มีฝนตกซ้ำลงมาในคืนนี้ แต่ปริมาณน้ำในกว๊านพะเยายังคงวิกฤต ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเกินระดับที่กว๊านจะรับได้ไป 25 ซม.แล้ว จึงได้ประสานไปยังสำนักงานประมงจังหวัด ให้เปิดประตูระบายน้ำออก ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ปลายน้ำถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มริมอิงใน อ.จุนและ อ.เชียงคำ ภายในเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมงต่อจากนี้จึงขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะดังกล่าวด้วย"
สำหรับความเสียหายจากอุทกภัยในครั้งนี้ จ.ลำปาง ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 9 อำเภอ 24 ตำบล 98 หมู่บ้าน ซึ่งพื้นที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ อ.เสริมงาม รวม 4 ตำบล คือ ต.เสริมซ้าย เสริมกลาง ทุ่งงาม และ ต.เสริมขวา รวม 19 หมู่บ้านประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 2,000 ครัวเรือน ส่วน อ.แจ้ห่ม ได้รับผลกระทบ 7 หมู่บ้านใน ต.ทุ่งผึ้ง ส่วน อ.แม่พริกสะพานขาด
ที่ จ.พะเยา เมื่อเช้าวานนี้ (11 พ.ค.) สถานที่ราชการทั้งที่ว่าการอำเภอดอกคำใต้ สำนักงานเทศบาลเมืองดอกคำใต้ สำนักงานเกษตรอำเภอฯ ไปรษณีย์ และสำนักงานอื่นๆ กว่า 10 องค์กรในศูนย์ราชการอำเภอดอกคำใต้ จ.พะเยา ต้องหยุดให้บริการหลังเกิดน้ำท่วมในระดับสูง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินทางเข้าทำงานได้
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมโดยทั่วไปในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองดอกคำใต้ ได้เพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่องและขยายวงกว้างเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านมากกว่า 2,000 หลัง ถนนสายพะเยา-เชียงคำ ช่วงหน้าศูนย์ราชการอำเภอดอกคำใต้ ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานเส้นทางขาเข้าเมืองถูกน้ำท่วมสูงจนรถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ เจ้าหน้าที่ต้องจัดให้รถวิ่งสวนทางกันในฝั่งขาออก
นอกจากนี้ โรงเรียนราว 6 แห่งก็ถูกน้ำท่วมหนักด้วยเช่นกัน ทำให้ทางโรงเรียนต้องประกาศเลื่อนเวลาเปิดเทอมออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด
อย่างไรก็ตาม กระทั่งช่วงบ่ายหลายพื้นที่น้ำได้เริ่มลดระดับลงบ้าง เหลือเพียงในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้เท่านั้น ที่ระดับน้ำยังคงทรงตัววัดได้เกือบ 50 ซม.โดยเฉพาะบริเวณที่ว่าการอำเภอดอกคำใต้ สำนักงานที่ดินอำเภอดอกคำใต้ และโรงเรียนดอกคำใต้วิทยาคม ที่เจ้าหน้าที่ทหาร จทบ.พะเยา และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)จังหวัดพะเยา ต้องใช้เรือท้องแบบเพื่อลำเลียงคนและข้าวของเคลื่อนย้ายไปอยู่ในที่สูง ขณะที่น้ำในลำคลองร่องช้างที่ไหลผ่านตัว อ.ดอกคำใต้ ยังคงเต็มลำคลอง โดยเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (11) บริเวณสองริมฝั่งลำน้ำถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร
นายประสงค์ พรหมสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดอกคำใต้วิทยาคม กล่าวว่า น้ำที่เอ่อเข้าท่วมโรงเรียนสถานที่ราชการและบ้านเรือนประชาชนในครั้งนี้ถือว่า หนักสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งเป็นน้ำจากอ่างเก็บน้ำร่องสักและอ่างเก็บน้ำห้วยใหม่ ได้ล้นทางระบายน้ำ เริ่มเอ่อเข้าท่วมเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาจนถึงเที่ยงคืน น้ำได้สูงขึ้นถึงราว 1.5 เมตร จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ร่วมถึงอาจารย์ ช่วยกันขนของ
โดยเฉพาะอุปกรณ์สำนักงานทั้งคอมพิวเตอร์และเอกสารสำคัญต่างๆ ไปไว้บนชั้นสองแต่ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับโต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงกำแพงโรงเรียนล้มทั้งหมด จนกระทั่งช่วงเช้าน้ำก็ยังไม่ลดลง ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร ปภ.และเจ้าหน้าที่ อบต.ดอนศรีชุม เข้าช่วยเหลืออยู่ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวไม่ต่างจากหมวดการทางดอกคำใต้ และโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 46 ซึ่งอยู่ตรงข้างกับที่ว่าการอำเภอดอกคำใต้ มีอุปกรณ์สำนักงานและบ้านพัก ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเช่นกัน
นายณรงค์ อินโส รักษาการหัวหน้าสำนักงาน ปภ.พะเยา กล่าวว่า ขณะนี้หลายอำเภอใน จ.พะเยา ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมเข้ามาแล้ว โดยหนักสุดที่ อ.ดอกคำใต้ และบางส่วนที่ อ.เมืองพะเยา อ.ภูกามยาว อ.เชียงคำ และ อ.ปง ซึ่งได้ประสานขอเรือท้องแบน จากสำนักงานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณที่ 15 จังหวัดเชียงราย 15 ลำ เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยและเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุ
ด้านนายเจนศักดิ์ ลิมปิติ นายช่างชลประทานอาวุโส ชลประทานจังหวัดพะเยา เผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำร่องสักและอ่างเก็บน้ำห้วยใหม่ ยังคงล้นสปริงเวย์อยู่ แต่ได้ลดปริมาณลงแล้ว เนื่องจากไม่มีฝนตกซ้ำลงมา
“ทั้งนี้ เชื่อว่าปริมาณน้ำในอ่างต่างๆ จะเริ่มลดระดับลงเข้าสู่ภาวะปกติ หากไม่มีฝนตกซ้ำลงมาในคืนนี้ แต่ปริมาณน้ำในกว๊านพะเยายังคงวิกฤต ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเกินระดับที่กว๊านจะรับได้ไป 25 ซม.แล้ว จึงได้ประสานไปยังสำนักงานประมงจังหวัด ให้เปิดประตูระบายน้ำออก ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ปลายน้ำถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มริมอิงใน อ.จุนและ อ.เชียงคำ ภายในเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมงต่อจากนี้จึงขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะดังกล่าวด้วย"
สำหรับความเสียหายจากอุทกภัยในครั้งนี้ จ.ลำปาง ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 9 อำเภอ 24 ตำบล 98 หมู่บ้าน ซึ่งพื้นที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ อ.เสริมงาม รวม 4 ตำบล คือ ต.เสริมซ้าย เสริมกลาง ทุ่งงาม และ ต.เสริมขวา รวม 19 หมู่บ้านประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 2,000 ครัวเรือน ส่วน อ.แจ้ห่ม ได้รับผลกระทบ 7 หมู่บ้านใน ต.ทุ่งผึ้ง ส่วน อ.แม่พริกสะพานขาด
