นายกฯ ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้ว่าราชการจังหวัด 10 จังหวัด ระบุให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่ผู้ว่าฯ ต่างรายงานสถานการณ์ สุราษฎร์ฯ ยอมรับอ่วมสุด หลังเจอหนักสุดน้ำไหลรวมกัน ขณะที่ “เมืองคอน” เร่งระดมกำลังเข้าช่วยเหลือพื้นที่เขาถล่ม
วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมที่ศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉิน ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้ว่าราชการจังหวัด 10 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย และมีพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจทุกฝ่ายในการช่วยน้ำท่วม ยอมรับว่าสถานการณ์หนักกว่าครั้งที่แล้ว
โดยผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยได้รายงานว่า มี 10 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบภัย ได้รับความเสียหาย 579,062 ครัวเรือน และมีชาวบ้านเสียชีวิตไปแล้วตาย 39 ราย
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ได้รายงานสถานการณ์ของจังหวัดว่า ยอมรับว่าช่วยเหลือประชาชนยังไม่ทั่วถึงเพราะประสบภัยทั้งจังหวัดหนักสุดในรอบ 50 ปี ทำใจเพราะลักษณะภูมิประเทศมีน้ำไหลรวมกันมาที่นี่ อีกทั้งฝนยังตกหนัก 3 อำเภอ โดยคาดว่าพรุ่งนี้ฝนจะน้อยลง และระดับน้ำจะลดลง ซึ่งเตรียมพร้อมจะเร่งระบายน้ำออกทันที
ด้านจังหวัดนครศรีธรรมราช นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ระบุว่า สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นทั้ง 23 อำเภอ ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 18 ราย ราษฎรได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 2 แสนครัวเรือน จำนวนกว่า 9 แสนคน มีการอพยพแล้ว 2 หมื่นคน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 17 หลัง และเสียหายบางส่วน 804 กว่าหลัง พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 280,000 ไร่ ถนนเสียหายกว่า 1,700 กว่าสาย มีมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 1,500 ล้าน
ด้านการให้ความช่วยเหลือนั้น ผู้ว่านครศรีธรรมราชกล่าวว่า ได้เน้นลงไปในพื้นที่ของอำเภอนบพิตำ และอำเภอสิชล ที่มีถนนถูกตัดขาดและมีดินถล่ม และพบว่ามีประชาชนยังตกค้างอยู่อีกจำนวนมาก ซึ่งในวันนี้หน่วยกำลังต่างๆ ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และและองค์กรต่างๆ ได้บูรณาการให้ความช่วยเหลือในทุกวิถีทาง ทั้งเดินทางสำรวจ และการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนจากกองทัพภาค 4 และตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยอื่น จำนวน 6 ลำ ออกให้ความช่วยเหลือและมอบสิ่งของแก่ประชาชนได้เพิ่มอีก 6-8 พันชุด ที่ยังตกค้างอยู่ นอกจากนี้ยังมีเรือประเภทต่างๆ อีกจำนวน 500 ลำที่ใช้ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในทุกอำเภอ ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ทางจังหวัดร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ได้มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้วกว่า 3 แสนชุด
