xs
xsm
sm
md
lg

“พ่อคูณ”อาพาธ“วัณโรคปอด” แพทย์ยันรักษาหายขาดได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- คณะแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา เปิดแถลงอาการอาพาธ “หลวงพ่อคูณ” เป็น “วัณโรคปอด” ยันรักษาหายขาดได้ โดยใช้เวลา 6 เดือน- 2 ปี สองสัปดาห์แรกงดเยี่ยมเด็ดขาดเหตุเป็นช่วงแพร่เชื้อ และต้องพักรักษาที่รพ.อย่างน้อย 1 เดือนเพื่อเฝ้าระวังผลข้างเคียงและอาการแทรกซ้อนอย่างใกล้ชิด ย้ำแพทย์ดูแลหลวงพ่อ เป็นอย่างดียังไม่จำเป็นต้องย้ายไปรักษาที่อื่น ขณะลูกศิษย์เปิดเพลงโคราชให้ฟังเพื่อผ่อนคลายจำวัดได้สบาย

วานนี้( 9 พ.ค.)ที่ห้องประชุมชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา คณะแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาและลูกศิษย์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ นำโดย นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา , นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา , นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ และ นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบหายใจ ได้ร่วมกันแถลงอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไรj ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ด้วยภาวะปอดอักเสบและมีน้ำในเยื่อหุ้มปอดตั้งแต่คืนวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา

นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้รับหลวงพ่อคูณไว้รักษาตั้งแต่ 5 วันที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ซึ่งอาการเริ่มแรกที่หลวงพ่อเข้ามารักษาคือ มีอาการอ่อนเพลีย มีไข้ต่ำ ขาซ้ายอ่อนแรง คณะแพทย์ได้ทำการตรวจวินิจฉัยทั้งการเอกซเรย์ ตรวจเลือด ตรวจเสมหะ หลายอย่างประกอบกัน มาถึงวันนี้ผลสรุปจากการตรวจวินิจฉัยและความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเราได้ส่งผลการตรวจวินิจฉัยผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต และส่งโดยตรงให้ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อให้มีความเห็นที่หลากหลายถูกต้องและมีความถูกต้องแม่นยำที่สุด

มีข้อสรุปว่า หลวงพ่อคูณ มีอาการของวัณโรคปอด ทั้งปอดด้านซ้ายส่วนบน และปอดด้านขวาส่วนล่าง มีผลทำให้มีน้ำในเยื่อหุ้มปอดและในช่องปอด และเยื่อหุ้มปอดหนาตัวขึ้น คณะแพทย์มีความเห็นว่าน่าจะเป็นวัณโรคปอด ส่วนการให้ยารักษาวัณโรค ได้ให้ตั้งแต่ 3 วันที่ผ่านมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม วัณโรคปอดสามารถรักษาให้หายขาดได้และหลังจากได้รับยารักษาไปประมาณ 2 สัปดาห์ จะทำให้เชื้อลดน้อยลงมาก ๆ จนกระทั่งไม่สามารถติดต่อได้ ฉะนั้นหลังจากหลวงพ่อได้รับยาไป 2 สัปดาห์ เชื้อก็จะลดน้อยลง แต่ทางคณะแพทย์ต้องให้ยารักษาต่อเนื่องไปเพื่อให้เชื้อหมดโดยเด็ดขาดประมาณ 6 เดือน ถึงจะประเมินอาการอีกครั้งหรือต้องยืดระยะเวลารักษาออกไปหากอาการไม่ดีขึ้นอาจถึง 2 ปี ระยะนี้ต้องนิมนต์ให้หลวงพ่ออยู่รักษาที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 1 เดือน จากนั้นอาจนิมนต์กลับไปฉันยาต่อที่วัดได้

“หลวงพ่อคูณ มีโรคประจำตัวหลายอย่างทั้งโรคเบาหวาน, โรคหัวใจและอีกหลายอย่าง จึงเป็นปัญหาต่อการให้ยารักษาวัณโรคเพราะจะต้องให้ยาหลายขนาดพร้อม ๆกัน คณะแพทย์กำลังจะพิจารณาขนาดของยาเพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด จึงต้องใช้เวลาอยู่โรงพยาบาลอีกสักระยะหนึ่ง และขอย้ำว่าโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาจะให้การรักษาหลวงพ่อคูณอย่างดีที่สุดและให้มีผลดีต่อหลวงพ่อ มีผลข้างเคียงน้อยที่สุดเพื่อให้หลวงพ่ออยู่เป็นมิ่งขวัญเราตราบนานเท่านาน” นพ.ธีรพล กล่าว

ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ขอเน้นย้ำ 2 ข้อคือ วัณโรคปอดสามารถรักษาหายขาดได้ และหลังได้รับยา 2 อาทิตย์จะไม่มีการแพร่เชื้อได้อีก แม้แต่ภรรยาตนซึ่งเป็นแพทย์เคยติดเชื้อวัณโรคปอดก็บอกคนไข้ว่าเป็นวัณโรคปอด ส่วนตัวเห็นว่าสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องมารังเกียจหรือกลัว เพราะด้วยเหตุผล 2 ข้อข้างต้นนี้ และอีกประเด็นคือหลวงพ่อจำเป็นจะต้องนอนที่โรงพยาบาลประมาณ 1 เดือน คนทั่วไปก็แค่วินิจฉัยแล้วให้ยาและให้กลับบ้าน แต่หลวงพ่อคูณ เราให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากอายุท่านมาก และมีโรคประจำตัวมา ซึ่งการรักษาวัณโรคในช่วงแรกคนไข้อาจจะแย่ลงได้ ทั้งจากยาที่ให้ และจากภาวะแทรกซ้อนในตัวโรคเองฉะนั้นเพื่อความไม่ประมาทจึงนิมนต์หลวงพ่ออยู่โรงพยาบาล

“สำหรับการรักษา เนื่องจากหลวงพ่ออายุมาก 88 ปีแล้วและมีโรคประจำตัวหลายอย่าง คณะแพทย์มีความหนักใจเป็นอย่างมากในการรักษา แต่จากการประสานกับโรงเรียนแพทย์ทั้งโรงพยาบาลรามาธิบดี และ โรงพยาบาลศิริราช รวมถึงบางครั้งก็ปรึกษา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เราเชื่อว่า ณ วันนี้เรายังสามารถดูแลหลวงพ่อต่อไปได้ และยังไม่จำเป็นต้องย้ายท่านไปรักษาที่อื่น” นพ.พินิศจัย กล่าว

นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบหายใจ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า การวินิจฉัยด้านโรคปอดปกติต้องอาศัยอาการและผลการเอกซเรย์ปอดที่เข้ากันได้ รวมทั้งผลการตรวจเสมหะ ซึ่งจากการปรึกษาแพทย์จากทั้ง 2 โรงพยาบาลและสอบถามลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด อาการทั้งหมดเข้าข่ายเป็นวัณโรคปอดจึงต้องให้การรักษาวัณโรค

“โรคนี้ไม่ได้อันตราย หรือน่ากลัว สามารถรักษาให้หายขาดได้ และใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพียงแต่ช่วง 2 สัปดาห์แรกนี้ให้งดเยี่ยมหลวงพ่อเด็ดขาด รวมทั้งช่วง 1 เดือนที่ให้หลวงพ่อพักที่โรงพยาบาลด้วย เนื่องจากต้องเฝ้าสังเกตผลข้างเคียงจากการให้ยาอย่างใกล้ชิด รวมถึงอาการแทรกซ้อนของวัณโรคปอด และในช่วงที่พักอยู่โรงพยาบาลต้องทำกายภาพบำบัดให้หลวงพ่อตลอดเวลา เพื่อช่วยการหายใจและกล้ามเนื้อของร่างกาย ลดอาการเหนื่อย” นพ.อนุชิต กล่าว

สำหรับผลข้างเคียงที่มักพบบ่อยในคนไข้วัณโรคคือ มีอาการอาเจียน และภาวะตับทำงานผิดปกติ ซึ่งเมื่อให้ยารักษาวัณโรคแก่หลวงพ่อคูณไป 3วันแล้วยังไม่พบมีผลข้างเคียงดังกล่าว และตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเจาะปอดหรือทำการผ่าตัด เพียงแค่ให้รับยาให้ครบเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ห้องพักผู้ป่วย 9821 ชั้น 8 ซึ่งเป็นห้องพักของหลวงพ่อคูณ มีเพียงลูกศิษย์ใกล้ชิด 2-3 คนคอยอยู่ปรนนิบัติและดูแลหลวงพ่อซึ่งทุกคนสวมหน้ากากป้องกันการแพร่เชื้อ ส่วนหลวงพ่อคูณหลังฉันภัตตาหารแล้วได้เข้าจำวัดอยู่ภายในห้อง โดยลูกศิษย์ได้เปิดเพลงโคราชที่หลวงพ่อชื่นชอบให้ฟังเพื่อให้ผ่อนคลายจำวัดได้สบาย พร้อมได้ถ่ายทอดสดผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดภายในห้องพักผู้ป่วยออกมาให้ลูกศิษย์ได้คอยเฝ้าดูอยู่ภายนอกห้องตลอดเวลาด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น