xs
xsm
sm
md
lg

ชรบ.สุรินทร์ฝึกอาวุธเข้มรับมือเขมรรุกรานไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “องอาจ ”รุดมอบหลุมหลบภัยแห่งแรกรัฐบาลสร้างให้ ปชช.ใช้หลบกระสุนปืนใหญ่เขมรที่กาบเชิง 169 หลุมใน 2 อำเภอชายแดน พร้อมเยี่ยมชมการศึกเข้มเพิ่มศักยภาพ “ชรบ.” 4 อำเภอชายแดนเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในหมู่บ้านพร้อมหาข่าวด้านความมั่นคง ก่อนเยี่ยม จนท.ปฏิบัติงานที่ “ด่านช่องจอม”ด้านชาวเขมรทะลักเข้ามาซื้อสินค้าที่ตลาดนัดชายแดน“ช่องสะงำ”คึกคักเร่งขนกลับเข้าประเทศทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคของพ่อค้าแม่ค้าไทยขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว

วานนี้(8 พ.ค.)ที่หอประชุมอำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกอบรมของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) โดยมีนายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และนายพิจิต บุญทัน นายอำเภอกาบเชิง ให้การต้อนรับและนำตรวจเยี่ยมการฝึก ซึ่งวันนี้เป็นวันเปิดการฝึกอบรมเพิ่มศักยภาพ ชรบ.รุ่นที่ 1

ทั้งนี้ ทางจังหวัดสุรินทร์ ได้มอบหมายให้ฝ่ายปกครองจังหวัดสุรินทร์ ดำเนินการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ ชรบ.ในหมู่บ้านพื้นที่ 4 อำเภอชายแดน ได้แก่ อ.กาบเชิง พนมดงรัก สังขะ และอ.บัวเชด 10 รุ่นๆ ละ 150 คนเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ ชรบ.สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การติดตามหาข่าว บุคคลแปลกหน้า ที่เข้าแทรกซึม ในพื้นที่ ในด้านความมั่นคง รวมทั้งเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของยาเสพติดและปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยอื่นในพื้นที่ ทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข มีความสมานฉันท์และใช้ชีวิตแบบพอเพียง

จากนั้นได้เดินทางไปทำพิธีส่งมอบหลุมหลบภัยแห่งแรก ที่บ้านกาบเชิง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างอย่างแข็งแรงโดยเป็นหลุมหลบภัยคอนกรีต เสริมเหล็ก มีกระสอบทราย วางทับไว้อีกชั้นหนึ่ง สามารถรับแรงกระแทกของกระสุนปืนใหญ่ได้ ซึ่งเป็นหลุมหลบภัยหลุมแรกใน อ.กาบเชิงจาก 131 หลุมและ อ.พนมดงรัก อีก 38 หลุมเป็น 169 หลุม คาดว่าจะสามารถก่อสร้างเสร็จครบทุกแห่งในสิ้นเดือน นี้

นายองอาจ ยังเดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไทยประจำด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด และตลาดการค้าชายแดน ช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง โดยมีเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอม ตำรวจภูธร ทหาร กองกำลังสุรนารี ให้การรายงานเหตุการณ์บริเวณด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง ซึ่งได้ปิดด่านในช่วงมีเหตุการณ์ประทะกันของทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 22 เม.ย.-2พ.ค.และได้เปิดด่านผ่านแดนอีกครั้งเมื่อวันที่ 4 พ.ค.แต่บรรยากาศการค้าขายยังไม่คึกคักเท่าที่ควร พ่อค้า แม่ค้า ชาวไทย และชาวกัมพูชา เริ่มทยอย เปิดร้านค้า คาดว่าจะใช้เวลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ การค้าขายและการท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นปกติ

นายองอาจ เปิดเผยว่า ขณะนี้การเยี่ยวยาประชาชนผู้ประสบภัยจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชามี 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งคือการเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง โดยบ้านเรือนเสียหายทั้งหลังได้รับความช่วยเหลือ 4 แสนบาทและบ้านเรือน ทรัพย์สิน ที่ได้รับความเสียหายบางส่วนก็ได้รับค่าเยียวยาในการซ่อมบ้าน และผู้ที่เสียชีวิตจะมอบเงินช่วยเหลือ ให้แก่พ่อกับแม่ของผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บก็จะได้รับการเยียวยาและยังดูแลถึงทหาร ที่เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งยังต้องดูแลสภาพความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน

ส่วนที่ 2 เรื่องหลุมหลบภัย โดยใจ.สุรินทร์ จะดำเนินการก่อสร้างทั้งหมด 169 จุด แบ่งเป็น อ.กาบเชิง 131 จุด อ.พนมดงรัก อีก 38 จุด และที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ก็ต้องสร้างหลุมหลบภัย ให้พี่น้องประชาชนเช่นกัน เพราะหลุมหลบภัย เป็นที่พึ่งแห่งแรกของประชาชนหากเกิดการสู้รบกันขึ้น สามารถใช้หลบกระสุนที่มีแรงกระแทกแรงๆได้ โดยเป็นหลุมหลบภัย คอนกรีตเสริมเหล็ก มีกระสอบทรายวางทับอีกชั้นหนึ่ง มีความปลอดภัย กว่าหลบภัยที่ประชาชนสร้างกันเอง

ในส่วนของการฝึกอบรม ชรบ.นั้นเป็นการฝึกฝนให้ ชรบ.ตื่นตัว และมีความพร้อมตลอดเวลา ส่วนอาวุธของ ชรบ.ที่มองว่าจะไม่เพียงพอ นั้น เป็นการใช้ในส่วนที่เกิดเหตุการณ์เท่านั้นไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน และอาวุธปืนจะมีการสับเปลี่ยนการใช้

“สำหรับความล่าช้าในการสร้างหลุมหลบภัย เนื่องจากในช่วงแรกยังมีการปะทะกันอยู่ ทำให้การก่อสร้างล่าช้าหากสร้างปรกติ ใช้เวลาเพียง 1 เดือนก็สามารถสร้างเสร็จ” นายองอาจ กล่าว

เขมรทะลักซื้อสินค้าช่องสะงำ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษว่า เมื่อเวลา 07.00 น.ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งวันนี้เป็นวันเปิดตลาดนัดชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ปรากฏว่า ได้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากพร้อมรถเข็น 2 ล้อและสินค้าทางการเกษตร มายืนออกันอยู่ที่บริเวณประตูเหล็กซึ่งกั้นระหว่างเขตแดนไทยกับกัมพูชาและทันทีที่เจ้าหน้าที่ด้านตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้ไขกุญแจเปิดประตูด่านผ่านแดน ประชาชนชาวกัมพูชาดังกล่าวได้พากันทะลักเข้ามาในเขตแดนไทย และต่างรีบเร่งนำสินค้าและรถเข็น 2 ล้อ เข้าไปยังตลาดนัดชายแดนช่องสะงำฝั่งไทย เพื่อขายผลผลิตการเกษตรและซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคขนกลับเข้าไปยังฝั่งประเทศกัมพูชากันอย่างโกลาหล

ทั้งนี้ เนื่องจากชาวกัมพูชาเชื่อว่าหากใครเข้ามาได้เร็วกว่า จะสามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้ในราคาถูกและมีสินค้าไทยให้เลือกเป็นจำนวนมาก ทำให้การค้าขายที่บริเวณตลาดนัดชายแดนไทยช่องสะงำวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก เพราะขณะนี้การปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณชายแดนด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ได้สงบลง ทำให้ประชาชนกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภค พากันเข้ามาหาซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้สินค้าของพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยขายดีเป็นพิเศษ โดยมีกำลังทหารไทยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของ จ.ศรีสะเกษ มาคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด

นางนิภารัตน์ ศรีเมือง อายุ 37 ปี แม่ค้าชาวไทย ขายส่งสินค้า ที่บริเวณตลาดช่องสะงำ กล่าวว่า วันนี้ขายสินค้าได้ดีมาก เพราะพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาเจ้าประจำที่เคยห่างหายไปนาน นับตั้งแต่มีการสู้รบกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ ได้พากันกลับมาหาซื้อสินค้าเพื่อนำเอาไปขายในเขตกัมพูชาเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนมากจะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง รวมทั้งเนื้อหมู และผลไม้ต่างๆ เพื่อนำไปเป็นอาหารในครอบครัวทำให้สินค้าต่าง ๆ ที่พ่อค้า แม่ค้าชาวไทยนำมาจำหน่าย สามารถขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว

ขณะที่สินค้าชาวกัมพูชานำเอามาขาย ส่วนใหญ่เป็นผลผลิตทางการเกษตร และของป่า เช่น ดอกกระเจียว เห็ดเผาะ พืชผักต่าง ๆ ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าคนไทยมาซื้อนำเอาไปขายต่อกันมากเช่นกัน

นายอำนาจ ปัดภัย อายุ 42 ปี พ่อค้าขายเนื้อหมู อยู่บ้านเลขที่ 241 หมู่ 1 ต.บัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้นำเนื้อหมูสดมาวางขาย 3 ตัว และขายได้หมดเกลี้ยง ซึ่งนับตั้งแต่มาขายเนื้อหมูที่ตลาดนัดช่องสะงำ มีวันนี้ที่เนื้อหมูขายดีที่สุด คาดว่าเกิดจากการปิดด่านมานาน ทำให้ชาวกัมพูชาขาดแคลนอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภค เมื่อเปิดด่านปกติอีกครั้ง จึงพากันเข้ามาหาซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากและสินค้าทุกอย่างขายดี

ด้านนางอรวรรณ บุญสร้าง นักวิชาการศุลกากร ชำนาญการ หัวหน้าด่านศุลกากรช่องสะงำ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันเปิดตลาดนัดชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ วันอาทิตย์ ทำให้ชาวกัมพูชาที่เคยหายเงียบไปนาน เพราะหวาดกลัวการสู้รบพากันกลับเข้ามาหาซื้อสินค้าค่อนข้างคึกคักมากกว่าทุกวันที่ผ่านมาประมาณกว่า 500 คน ทำให้มูลค่าการซื้อขายสินค้าวันนี้เพิ่มสูงมากกว่าปกติ ซึ่งมีการเปิดตลาดนัดชายแดนไทย - กัมพูชา ช่องสะงำ ในทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และวันอาทิตย์ ทั้งนี้เมื่อการสู้รบชายแดนระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาได้สงบลงแล้วการค้าขายและการท่องเที่ยวที่บริเวณด่านช่องสะงำก็เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ
กำลังโหลดความคิดเห็น