ASTVผู้จัดการรายวัน - นิตยสารการเงินชั้นนำของโลก " ฟอร์บส์ " จัดอันดับให้ " เจริญโภคภัณฑ์อาหาร " เป็นหนึ่งใน 2000 บริษัททั่วโลกที่มีขนาดใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดประจำปี 2554 จากการสำรวจ The Forbes Global 2000 สะท้อนภาพความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างตรงเป้าหมายของบริษัท
รายงานข่าวจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ธุรกิจโดยให้ความสำคัญต่อการขยายธุรกิจที่มีความมั่นคงในการสร้างกำไร ซึ่งได้แก่ อาหารพร้อมรับประทานภายใต้แบรนด์ซีพี พร้อมการขยายตลาดและช่องทางจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนขยายการลงทุนในต่างประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่การเป็น " ครัวของโลก " ทำให้ในปี 2553 ที่ผ่านมา CPF มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ด้วยยอดขายจำนวน 189,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2552 กำไรสุทธิจำนวน 13,563 ล้านบาท เติบโต 33% มากกว่าปี 2552 หรือคิดเป็นกำไรสุทธิ 2.04 บาทต่อหุ้น
สำหรับ The Forbes Global 2000 เป็นการจัดอันดับบริษัทที่มีความโดดเด่น โดยประเมินค่าเฉลี่ยหลากหลายด้าน ได้แก่ ยอดขาย กำไร ทรัพย์สิน และมูลค่าตลาด ให้สอดคล้องกับขนาดของบริษัท ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าในปีนี้ซีพีเอฟได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มท็อป 2000 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และมีการจัดอันดับที่ดีขึ้น
ปัจจุบัน CPF มีการลงทุนใน 11 ประเทศ ได้แก่ ตุรกี รัสเซีย ลาว ไต้หวัน อังกฤษ มาเลเซีย อินเดีย จีน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และกัมพูชา นอกเหนือจากสาขาและตัวแทนจำหน่ายใน 16 ประเทศ และส่งออกผลิตภัณฑ์ซีพีไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
รายงานข่าวจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ธุรกิจโดยให้ความสำคัญต่อการขยายธุรกิจที่มีความมั่นคงในการสร้างกำไร ซึ่งได้แก่ อาหารพร้อมรับประทานภายใต้แบรนด์ซีพี พร้อมการขยายตลาดและช่องทางจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนขยายการลงทุนในต่างประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่การเป็น " ครัวของโลก " ทำให้ในปี 2553 ที่ผ่านมา CPF มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ด้วยยอดขายจำนวน 189,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2552 กำไรสุทธิจำนวน 13,563 ล้านบาท เติบโต 33% มากกว่าปี 2552 หรือคิดเป็นกำไรสุทธิ 2.04 บาทต่อหุ้น
สำหรับ The Forbes Global 2000 เป็นการจัดอันดับบริษัทที่มีความโดดเด่น โดยประเมินค่าเฉลี่ยหลากหลายด้าน ได้แก่ ยอดขาย กำไร ทรัพย์สิน และมูลค่าตลาด ให้สอดคล้องกับขนาดของบริษัท ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าในปีนี้ซีพีเอฟได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มท็อป 2000 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และมีการจัดอันดับที่ดีขึ้น
ปัจจุบัน CPF มีการลงทุนใน 11 ประเทศ ได้แก่ ตุรกี รัสเซีย ลาว ไต้หวัน อังกฤษ มาเลเซีย อินเดีย จีน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และกัมพูชา นอกเหนือจากสาขาและตัวแทนจำหน่ายใน 16 ประเทศ และส่งออกผลิตภัณฑ์ซีพีไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลก