ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 เตรียมจัดสัมมนา “การลงทุนสดใส เศรษฐกิจไทยยั่งยืน”เชิญผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ “ดร.ณรงค์ชัย”อดีต รมว.พาณิชย์ ขึ้นเวทีปาฐกถาถ่ายทอดความรู้เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้นักลงทุนท้องถิ่น ขณะเดียวกันเผย 3 เดือนแรกปี 54 อนุมัติส่งเสริมการลงทุนภาคเหนือแล้ว 13 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 500 ล้านบาท
นายสมมาตย์ ตั้งสกุล ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)กำหนดจัดการสัมมนาเรื่อง “การลงทุนสดใส เศรษฐกิจไทยยั่งยืน” ในวันที่ 12 พ.ค.54 นี้ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของสำนักงานฯ ตลอดจนบทบาทในการส่งเสริมการลงทุนเพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการให้ความรู้ทางด้านเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านของโลก เพื่อเชื่อมโยงกับการลงทุน ซึ่งมีผลทำให้การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไปได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนบูรณาการให้ความรู้ด้านการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้นักลงทุนท้องถิ่น
ทั้งนี้ ในการจัดการสัมมนาครั้งนี้จะมีการจัดปาฐกถาพิเศษเรื่อง “มองเศรษฐกิจโลก สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” โดย ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ พร้อมทั้งการเสวนาในหัวข้อ “กานลงทุนสดใส เศรษฐกิจไทยยั่งยืน” ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการเสวนา ประกอบด้วย ดร.อรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ผศ.สุรพงษ์ เลิศทัศนีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) เครือข่ายภาคเหนือ นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ(คสศ.) และนายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 เปิดเผยผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ ในช่วงที่ผ่านมาของปี 2554 ว่า ในช่วง 3 เดือนแรก พื้นที่ภาคเหนือมีโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 11 โครงการ มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 1,894 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นโครงการลงทุนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 4 โครงการ มูลค่าการลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งประเภทของธุรกิจที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเกษตรแปรรูป ขณะที่โครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในช่วงเดียวกันนี้ทั้งโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมมาตั้งแต่ปีก่อนและปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่าการลงทุน 519 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย เป็นต้น จะส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้หรือไม่นั้น นายสมมาตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าปัจจัยต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนหรือไม่และอย่างไรบ้าง แต่ทั้งนี้ทางสำนักงานฯ กำลังทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดต่อไป ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น
นายสมมาตย์ ตั้งสกุล ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)กำหนดจัดการสัมมนาเรื่อง “การลงทุนสดใส เศรษฐกิจไทยยั่งยืน” ในวันที่ 12 พ.ค.54 นี้ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของสำนักงานฯ ตลอดจนบทบาทในการส่งเสริมการลงทุนเพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการให้ความรู้ทางด้านเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านของโลก เพื่อเชื่อมโยงกับการลงทุน ซึ่งมีผลทำให้การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไปได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนบูรณาการให้ความรู้ด้านการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้นักลงทุนท้องถิ่น
ทั้งนี้ ในการจัดการสัมมนาครั้งนี้จะมีการจัดปาฐกถาพิเศษเรื่อง “มองเศรษฐกิจโลก สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” โดย ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ พร้อมทั้งการเสวนาในหัวข้อ “กานลงทุนสดใส เศรษฐกิจไทยยั่งยืน” ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการเสวนา ประกอบด้วย ดร.อรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ผศ.สุรพงษ์ เลิศทัศนีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) เครือข่ายภาคเหนือ นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ(คสศ.) และนายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 เปิดเผยผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ ในช่วงที่ผ่านมาของปี 2554 ว่า ในช่วง 3 เดือนแรก พื้นที่ภาคเหนือมีโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 11 โครงการ มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 1,894 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นโครงการลงทุนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 4 โครงการ มูลค่าการลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งประเภทของธุรกิจที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเกษตรแปรรูป ขณะที่โครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในช่วงเดียวกันนี้ทั้งโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมมาตั้งแต่ปีก่อนและปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่าการลงทุน 519 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย เป็นต้น จะส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้หรือไม่นั้น นายสมมาตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าปัจจัยต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนหรือไม่และอย่างไรบ้าง แต่ทั้งนี้ทางสำนักงานฯ กำลังทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดต่อไป ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น
