ASTVผู้จัดการรายวัน - หอการค้าฯกระบี่ จีบ ไบเทค เล็งผุดศูนย์ประชุมนานาชาติ ขนาดกลางจุ 3 พันคน คาด 5 ปีได้ใช้งาน ขณะที่ภาพรวมการท่องเที่ยว ของจ.กระบี่ เติบโตต่อเนื่อง คุย1-2 ปีนี้มีการลงทุนใหม่อีกกว่า 2 พันล้านบาท ยันยังขอเป็นเดสติเนชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวระดับคุณภาพ ล่าสุดลุยเปิดตลาดใหม่ เจาะ จีน และ อินเดีย
นายภูวดิท ปรีชานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการการหารือ กับผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ไบเทค บางนา ถึงความเป็นไปได้ในการสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าที่ขนาดกลาง จ.กระบี่ เพื่อรองรับการจัดประชุมขนาด 1,000-3,000 คน โดยจะสร้างบนพื้นที่ของภาครัฐซึ่งมีว่างอยู่ 80 ไร่ บริเวณอ่าวนาง ซึ่งผลจากการหารือ ทางผู้บริหารฯไบเทค รับจะไปดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ มิ.ย.นี้ สรุปผล หากผลการศึกษา เห็นว่าคุ้มต่อการลงทุน ก็จะเริ่มดำเนินการหาผู้สนใจในลักษณะร่วมทุนรัฐกับเอกชน เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1,000 ล้านบาท โดยกระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมาคาดว่าจะสรุปและก่อสร้างจนถึงการเปิดให้บริการได้ภายใน 5 ปีนับจากปีนี้
“ไม่ต้องการจะแข่งขันกับศูนย์ประชุมฯที่ภูเก็ต แต่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันมากกว่า โดยมีการเชื่อมต่อด้วยระบบคมนาคมที่สะดวก เป็นสิ่งสนับสนุนให้ธุรกิจไมซ์ของทั้งสองจังหวัดเติบโต ซึ่งเราพยายามสร้างการรับรู้จังหวัดกระบี่ เป็นเดสติเนชั่นไฮเอนด์ รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะ ที่ชื่นชอบธรรมชาติ“
นายภูวดิท กล่าวอีกว่า ภาพรวมการลงทุนในจังหวัดกระบี่ มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ โดยปัจจุบัน มีจำนวนห้องพักทั้งโรงแรม และที่พักรวม 18,000 ห้อง อยู่ระหว่างการก่อสร้างและทยอยเปิดจากนี้ถึงปี 2555 อีกราว 3,000 ห้อง มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโรงแรมระดับ 3 ดาวครึ่ง ถึง 4 ดาว ขณะเดียวกัน การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ก็ลงทุนเพิ่มหลุมจอดที่สนามบินนานาชาติ จ.กระบี่ เพิ่มอีก 2 หลุมจากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 2 หลุ่มจอด นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจโรงพยาบาลมาลงทุน คือ โรงแรม กระบี่ นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2555 ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ ให้มีความพร้อมมากขึ้น สามารถรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มพำนักระยะยาว และ ผู้สูงอายุ
จากโครงการที่กล่าวมาทั้งหมด รวมเป็นเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนได้ดีถึงความมั่นใจของนักลงทุน ที่มีต่อศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ ซึ่งมีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีเกาะรวมกันมากถึง 154 เกาะ และมีความปลอดภัยสูง โดยปีที่ผ่านมา กระบี่มีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมดที่ 2 ล้านคน เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 2.4หมื่อล้านบาท โดยสัดส่วนนักท่องเที่ยวคนไทย 40% ต่างชาติ 60% ซึ่งธุรกิจที่ทางจังหวัดต้องการและยังไม่มีเกิดขึ้น คือ ห้างสรรพสินค้า ในรูปแบบชอปปิ้งมอลล์
สำหรับการทำตลาด ทางจังหวัด มีแผนสร้างการรับรู้ จังหวัดกระบี่ด้วยการเข้าร่วมออกงานส่งเสริมการขายในต่างประเทศ เลือกเฉพาะที่เป็นงานใหญ่ เช่น งาน ITB และ งาน WTM ควบคู่ไปกับการเปิดตลาดใหม่ๆ ย่านเอเชีย เช่ย จีน อินเดีย และ กลุ่มประเทสเพื่อนบ้าน เช่น ลาว, พม่า, กัมพูชา และเวียดนาม รวมทั้งจะเข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนกับธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศเหล่านี้ด้วย เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียนในปี 2558 และ ยังลดความเสี่ยงอันเกิดจากผลกระทบจากภาวะเศษฐกิจที่ชะลอตัวในยุโรป ล่าสุด จีนได้พิจารณาจัดชาร์เตอร์ไฟล์ทมายังกระบี่มากขึ้น และ ในเดือน มิ.ย.นี้ ยังจัดแฟมทริปพาสื่อมวลชนและบริษัทนำเที่ยว และ นักท่องเที่ยวกลุ่มตัวอย่าง รวม 300 คน นั่งชาร์เตอร์ไฟล์ท มาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่ จ.กระบี่
นายภูวดิท ปรีชานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการการหารือ กับผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ไบเทค บางนา ถึงความเป็นไปได้ในการสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าที่ขนาดกลาง จ.กระบี่ เพื่อรองรับการจัดประชุมขนาด 1,000-3,000 คน โดยจะสร้างบนพื้นที่ของภาครัฐซึ่งมีว่างอยู่ 80 ไร่ บริเวณอ่าวนาง ซึ่งผลจากการหารือ ทางผู้บริหารฯไบเทค รับจะไปดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ มิ.ย.นี้ สรุปผล หากผลการศึกษา เห็นว่าคุ้มต่อการลงทุน ก็จะเริ่มดำเนินการหาผู้สนใจในลักษณะร่วมทุนรัฐกับเอกชน เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1,000 ล้านบาท โดยกระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมาคาดว่าจะสรุปและก่อสร้างจนถึงการเปิดให้บริการได้ภายใน 5 ปีนับจากปีนี้
“ไม่ต้องการจะแข่งขันกับศูนย์ประชุมฯที่ภูเก็ต แต่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันมากกว่า โดยมีการเชื่อมต่อด้วยระบบคมนาคมที่สะดวก เป็นสิ่งสนับสนุนให้ธุรกิจไมซ์ของทั้งสองจังหวัดเติบโต ซึ่งเราพยายามสร้างการรับรู้จังหวัดกระบี่ เป็นเดสติเนชั่นไฮเอนด์ รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะ ที่ชื่นชอบธรรมชาติ“
นายภูวดิท กล่าวอีกว่า ภาพรวมการลงทุนในจังหวัดกระบี่ มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ โดยปัจจุบัน มีจำนวนห้องพักทั้งโรงแรม และที่พักรวม 18,000 ห้อง อยู่ระหว่างการก่อสร้างและทยอยเปิดจากนี้ถึงปี 2555 อีกราว 3,000 ห้อง มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโรงแรมระดับ 3 ดาวครึ่ง ถึง 4 ดาว ขณะเดียวกัน การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ก็ลงทุนเพิ่มหลุมจอดที่สนามบินนานาชาติ จ.กระบี่ เพิ่มอีก 2 หลุมจากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 2 หลุ่มจอด นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจโรงพยาบาลมาลงทุน คือ โรงแรม กระบี่ นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2555 ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ ให้มีความพร้อมมากขึ้น สามารถรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มพำนักระยะยาว และ ผู้สูงอายุ
จากโครงการที่กล่าวมาทั้งหมด รวมเป็นเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนได้ดีถึงความมั่นใจของนักลงทุน ที่มีต่อศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ ซึ่งมีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีเกาะรวมกันมากถึง 154 เกาะ และมีความปลอดภัยสูง โดยปีที่ผ่านมา กระบี่มีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมดที่ 2 ล้านคน เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 2.4หมื่อล้านบาท โดยสัดส่วนนักท่องเที่ยวคนไทย 40% ต่างชาติ 60% ซึ่งธุรกิจที่ทางจังหวัดต้องการและยังไม่มีเกิดขึ้น คือ ห้างสรรพสินค้า ในรูปแบบชอปปิ้งมอลล์
สำหรับการทำตลาด ทางจังหวัด มีแผนสร้างการรับรู้ จังหวัดกระบี่ด้วยการเข้าร่วมออกงานส่งเสริมการขายในต่างประเทศ เลือกเฉพาะที่เป็นงานใหญ่ เช่น งาน ITB และ งาน WTM ควบคู่ไปกับการเปิดตลาดใหม่ๆ ย่านเอเชีย เช่ย จีน อินเดีย และ กลุ่มประเทสเพื่อนบ้าน เช่น ลาว, พม่า, กัมพูชา และเวียดนาม รวมทั้งจะเข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนกับธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศเหล่านี้ด้วย เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียนในปี 2558 และ ยังลดความเสี่ยงอันเกิดจากผลกระทบจากภาวะเศษฐกิจที่ชะลอตัวในยุโรป ล่าสุด จีนได้พิจารณาจัดชาร์เตอร์ไฟล์ทมายังกระบี่มากขึ้น และ ในเดือน มิ.ย.นี้ ยังจัดแฟมทริปพาสื่อมวลชนและบริษัทนำเที่ยว และ นักท่องเที่ยวกลุ่มตัวอย่าง รวม 300 คน นั่งชาร์เตอร์ไฟล์ท มาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่ จ.กระบี่