ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-“หลวงพ่อคูณ” หายอาพาธกลับวัดบ้านไร่แล้ว แพทย์ขอความร่วมมือศิษย์อย่านำเรื่องไม่สบายใจเล่าให้ฟังเกรงทำซึมเศร้าฉันอาหารได้น้อยยากต่อการรักษา ขณะที่ทางจังหวัดฯ กำชับให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดนครราชสีมาเคร่งครัดในการนิมนต์และเข้ากราบนมัสการ มอบนายอำเภอ-ผกก.ด่านขุนทด คุมกฎเหล็ก ย้ำงดรับกิจนิมนต์นอกสถานที่เด็ดขาด จนกว่าสุขภาพแข็งแรงน้ำหนักเกิน 39 กิโลกรัม
วานนี้(2 พ.ค.)เวลา09.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครราชสีมาว่า พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้หายจากอาการอาพาธและเดินทางกลับวัดบ้านไร่แล้ว หลังเข้าพักรักษาอาการอาพาธด้วยภาวะติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา มารวม 1 สัปดาห์
โดยเมื่อเช้าวานนี้หลวงพ่อคูณ ตื่นจากจำวัดแต่เช้าด้วยใบหน้าที่สดชื่นแจ่มใส ก่อนฉันภัตตาหารคาวหวานที่ลูกศิษย์นำมาถวายและแพทย์ได้เข้าตรวจอาการครั้งสุดท้ายก่อนลูกศิษย์นำหลวงพ่อนั่งรถเข็นลงมาชั้น 1 เพื่อขึ้นรถตู้เดินทางกลับวัดบ้านไร่ ท่ามกลางแพทย์ พยาบาลและญาติผู้ป่วยมารอส่งจำนวนมาก
นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า การตรวจร่างกายหลวงพ่อคูณล่าสุดทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สิ่งที่เป็นห่วงจากนี้ไป คือ อยากขอความร่วมมือศิษยานุศิษย์โดยเฉพาะผู้ใกล้ชิดว่าอย่านำเรื่องไม่สบายใจเล่าให้ท่านฟัง เพราะการรักษาผู้สูงอายุสภาพจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาภาวะอาการซึมไม่ฉันภัตตาหารจนทำให้ท่านมีน้ำหนักเหลือเพียง 35 กิโลกรัมนั้น มาจากเรื่องที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ ฉะนั้น เรื่องนี้จึงอยากให้ถือปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด
ด้านนายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เปิดแถลงข่าวพร้อม นพ.วิชัย ขัตติยวิทยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และผู้บริหารทีมแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ถึงการจัดระเบียบในการรับกิจนิมนต์และการเข้ากราบนมัสการหลวงพ่อคูณ หลังกลับวัดบ้านไร่ ระบุว่า ในช่วงแรกให้งดเยี่ยมเพื่อให้ท่านได้พักฟื้นร่างกาย และจะมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาและแพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด เฝ้าติดตามอาการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
ที่สำคัญขอย้ำไปยังศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศว่า ให้ถือปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดนครราชสีมา ในการเข้ากราบนมัสการหลวงพ่อคูณ ควรอยู่ห่างประมาณ 2 เมตรและในการเข้ากราบนมัสการแต่ละครั้งจะต้องใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที โดยทางวัดบ้านไร่จะเปิดให้กราบเฉพาะวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวัดหยุดราชการเท่านั้น ส่วนวันจันทร์, พุธ และวันศุกร์ งดเข้ากราบนมัสการ (ยกเว้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)เพื่อให้หลวงพ่อคูณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
ส่วนการรับกิจนิมนต์นอกสถานที่ ให้งดรับกิจนิมนต์จนกว่าสุขภาพจะแข็งแรงและมีน้ำหนักมากกว่า 39 กิโลกรัม ซึ่งปัจจุบันหลวงพ่อคูณ มีน้ำหนัก 38 กิโลกรัม ส่วนผู้ใกล้ชิดให้สวมหน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 70% ทุกครั้ง พร้อมกันนี้ให้นายอำเภอด่านขุนทด และ ผกก.สภ.ด่านขุนทด เป็นผู้ควบคุมกำกับการปฏิบัติตามแนวทางประกาศจังหวัดนครราชสีมาดังกล่าว