ASTVผู้จัดการรายวัน- มองรายได้สองค่ายอสังหาฯทุนนอกในไทย "ไรมอนแลนด์" แจงโครงการสาทรสแควร์ มูลค่า 4,600 ล้านบาท หนุนรายได้รวมเติบโต พร้อมเบรกโครงการแนวราบ เล็งปรับรูปแบบโครงการเดิมรับไลฟ์สไตล์คนซื้อ ด้าน "แผ่นดินทอง " ทำใจกับระบบบัญชีใหม่ คาดปีนี้วูบจากเป้า 4,000 ล้านบาท รอปีหน้าฟ้าใหม่ฟื้นตัว
นายคริสโตเฟอร์ ไมเคิล ดีลานี กรรมการ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD กล่าวว่า ในปีนี้ คาดว่าการเปิดตัวโครงการสาทรสแควร์ มูลค่า 4,600 ล้านบาท จะมีส่วนสำคัญผลักดันให้รายได้ในปี 54 เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่มีรายได้ 1,900 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าว เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าสูง 40 ชั้น และมีพื้นที่เช่ารวม 73,000 ตารางเมตร คาดว่าในปีนี้โครงการดังกล่าวน่าจะมีอัตราเช่าราว 40% ภายในสิ้นปี 54 และจะเต็ม 100% ภายในสิ้นปี 55
ส่วนการก่อสร้างโรงแรม W Bangkok ขนาด 408 ห้อง ซึ่งมีพื้นที่ติดกับโครงการสาทรสแควร์ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ราวเดือน มิ.ย.55 โดยจะมีกลุ่มสตาร์วูดมาเป็นผู้บริหารจัดการโรงแรม
นอกจากนั้น บริษัทยังมีที่ดินขนาด 9 ไร่ บริเวณซอยไผ่สิงโต ซึ่งมีแผนงานก่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานและโรงแรม โดยปัจจุบันได้รับใบอนุญาตก่อสร้างแล้ว และเริ่มลงมือก่อสร้างตั้งแต่ต้นปี 54 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดประมูลหาผู้รับเหมาหลัก คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/56 หรือไตรมาส 2/56
สำหรับโครงการแนวราบ ยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้านในโครงการเดิมที่ยังอยู่ในระหว่างการเปิดขาย เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันมี 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโกลด์เด้น เฮอริเทจ ปิ่นเกล้า, โกลด์เด้น นครา ศรีนครินทร์ และ แกรนด์ โมนาโค บางนา
ไรมอนแลนด์ฯรอปี 55 ฟื้นตัว
นายอูแบร์ วิริออท กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RAIMON กล่าวว่า ปัจจุบันมีเพียง 2 โครงการที่บริษัทจะรับรู้รายได้ในปีนี้ คือ โครงการนอร์ธพอยท์ มูลค่าโครงการ 4,900 ล้านบาท ขายได้แล้ว 75% และโครงการเดอะ ไฮ มูลค่า 1,200 ล้านบาท ทั้ง 2 โครงการมีการโอนและรับรู้รายได้แล้ว 770 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 1,400 ล้านบาท หวังว่าจะสามารถขายได้หมด
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่ารายได้จะกลับมาโดดเด่นและเติบโตก้าวกระโดดในปี 55 โดยเฉพาะมาจากการรับรู้จากโครงการ "เดอะ ริเวอร์"ที่ปัจจุบันมียอดขาย 10,000 ล้านบาท จาก 14,900 ล้านบาท คาดว่าปีจะแล้วเสร็จในปี 55 อีกทั้งยังมีโครงการ"เดอะนอร์ธพอยท์ พัทยา"เข้ามาเพิ่มสัดส่วนด้วย
และจากปัจจัยดังกล่าวจึงเชื่อว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดปี 55 จากปีนี้ที่จะยังคงมีขาดทุนสะสมอยู่
"ยอมรับว่าการปรับเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีกระทบกับเรา แต่ก็พยายามที่จะปิดความเสี่ยงให้ลดลงทั้งการเรียกเก็บเงินลูกค้า 40% ตรงนี้ถือว่าปิดความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง ประกอบกับพยายามเพิ่มความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยงจากรายได้คอนโดฯเพียงอย่างเดียว แต่ในปีหน้าจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัย"นายวีริออท กล่าว
นายคริสโตเฟอร์ ไมเคิล ดีลานี กรรมการ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD กล่าวว่า ในปีนี้ คาดว่าการเปิดตัวโครงการสาทรสแควร์ มูลค่า 4,600 ล้านบาท จะมีส่วนสำคัญผลักดันให้รายได้ในปี 54 เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่มีรายได้ 1,900 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าว เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าสูง 40 ชั้น และมีพื้นที่เช่ารวม 73,000 ตารางเมตร คาดว่าในปีนี้โครงการดังกล่าวน่าจะมีอัตราเช่าราว 40% ภายในสิ้นปี 54 และจะเต็ม 100% ภายในสิ้นปี 55
ส่วนการก่อสร้างโรงแรม W Bangkok ขนาด 408 ห้อง ซึ่งมีพื้นที่ติดกับโครงการสาทรสแควร์ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ราวเดือน มิ.ย.55 โดยจะมีกลุ่มสตาร์วูดมาเป็นผู้บริหารจัดการโรงแรม
นอกจากนั้น บริษัทยังมีที่ดินขนาด 9 ไร่ บริเวณซอยไผ่สิงโต ซึ่งมีแผนงานก่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานและโรงแรม โดยปัจจุบันได้รับใบอนุญาตก่อสร้างแล้ว และเริ่มลงมือก่อสร้างตั้งแต่ต้นปี 54 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดประมูลหาผู้รับเหมาหลัก คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/56 หรือไตรมาส 2/56
สำหรับโครงการแนวราบ ยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้านในโครงการเดิมที่ยังอยู่ในระหว่างการเปิดขาย เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันมี 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโกลด์เด้น เฮอริเทจ ปิ่นเกล้า, โกลด์เด้น นครา ศรีนครินทร์ และ แกรนด์ โมนาโค บางนา
ไรมอนแลนด์ฯรอปี 55 ฟื้นตัว
นายอูแบร์ วิริออท กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RAIMON กล่าวว่า ปัจจุบันมีเพียง 2 โครงการที่บริษัทจะรับรู้รายได้ในปีนี้ คือ โครงการนอร์ธพอยท์ มูลค่าโครงการ 4,900 ล้านบาท ขายได้แล้ว 75% และโครงการเดอะ ไฮ มูลค่า 1,200 ล้านบาท ทั้ง 2 โครงการมีการโอนและรับรู้รายได้แล้ว 770 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 1,400 ล้านบาท หวังว่าจะสามารถขายได้หมด
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่ารายได้จะกลับมาโดดเด่นและเติบโตก้าวกระโดดในปี 55 โดยเฉพาะมาจากการรับรู้จากโครงการ "เดอะ ริเวอร์"ที่ปัจจุบันมียอดขาย 10,000 ล้านบาท จาก 14,900 ล้านบาท คาดว่าปีจะแล้วเสร็จในปี 55 อีกทั้งยังมีโครงการ"เดอะนอร์ธพอยท์ พัทยา"เข้ามาเพิ่มสัดส่วนด้วย
และจากปัจจัยดังกล่าวจึงเชื่อว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดปี 55 จากปีนี้ที่จะยังคงมีขาดทุนสะสมอยู่
"ยอมรับว่าการปรับเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีกระทบกับเรา แต่ก็พยายามที่จะปิดความเสี่ยงให้ลดลงทั้งการเรียกเก็บเงินลูกค้า 40% ตรงนี้ถือว่าปิดความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง ประกอบกับพยายามเพิ่มความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยงจากรายได้คอนโดฯเพียงอย่างเดียว แต่ในปีหน้าจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัย"นายวีริออท กล่าว
