ASTVผู้จัดการรายวัน – การเคหะฯเผยปั้นแบรนด์ใหม่ National Housing Authority รุกตลาดระดับกลาง-บน ชูจุดขายวัสดุก่อสร้างคถณภาพสูงเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม เน้นให้พื้นที่สีเขียว นำสายไฟฟ้าลงดิน เทียบระดับโครงการบ้านไฮเอนด์ ราคาขาย3-6ล้านบาท พร้อมนำร่องโครงการแรกย่านร่มเกล้า หลังก่อนหน้าขออนุมัติลงทุนจากครม.กว่า6,000ล้านบาทผุด15โครงการตลาดกลาง ล่าสุดปิดการขายแล้ว4โครงการ
นายสมชัย เชาว์พฤฒิพงศ์ รองผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า นับแต่เข้ามารับผิดชอบโครงการบ้านเอื้ออาทร กคช. ได้หยุดสร้างบ้านระดับปานกลางลงเพื่อเข้ามารับผิดชอบโครงการบ้านเอื้อฯอย่างเต็มตัว แต่จากนี้ไปกคช.จะเข้ามาพัฒนาโครงการในตลาดระดับกลาง-บน หลังจากการสร้างแบรนด์สินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ National Housing Authority : NHA เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาฯจับกลุ่มตลาดระดับกลาง-สูง
โดย กคช.จะใช้ชื่อโครงการตามทำเลการพัฒนาและต่อท้ายด้วยNHA โดยเน้นจุดแข็งความโดดเด่นของโครงการเรื่องสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น เน้นวัสดุก่อสร้างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานในการก่อสร้าง โดยจะนำร่องโครงการแรกที่ร่มเกล้า ซึ่งมีการนำระบบสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด และการปลูกต้นไม้ใหญ่ สร้างความร่มรื่น ซึ่งโครงการรูปแบบใหม่นี้ กคช. จะมีการลงทุนที่สูงกว่าปกติเพื่อสร้างความพึงค้าพอใจในกลุ่มลูกค้า ในราคาเริ่มต้น 3- 6 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามโครงการที่พัฒนาภายใต้แบรนด์ใหม่ ก่อนหน้านั้น กคช.พัฒนาและเปิดขายโครงการไป แล้ว15 โครงการ ซึ่งมียอดขายที่คืบหน้าไป 20% มีจำนวนทั้งสิ้น 3,965 หน่วย โดยงบลทุน 6,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการอีก 67 โครงการที่ จะเสนอต่อที่ประชุม ครม.อนุมัติ เพื่อพัฒนาในระยะเวลา 5 ปี ต่อจากนี้ คาดว่าจะเสนอครม.ในสัปดาห์หน้า
“นอกจากการสร้างบ้านในรูปแบบใหม่นี้แล้ว กคช. ยังเตรียมก่อสร้างคอมมูนิตี้ มอลล์ ขึ้นภายในโครงการด้วยโดยจะนำร่องโครงการดังกล่าว 2 แห่งก่อนประกอบด้วย โครงการที่ร่มเกล้าและกรุงเพทกรีฑา โดยก่อสร้างรูปแบบจะเหมือนเอกชนทั่วไป คือเน้นให้ลูกค้าสะดวกสบายในการอยู่อาศัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ซึ่งขณะนี้แผนกก่อสร้างได้เตรียมออกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว”
นายสมชัย กล่าวว่า รูปแบบที่กคช จะก่อสร้าคอมมูนิตี้มอลล์ ในโครงการ กำหนดไว้ 2 รูปแบบคือ การร่วมลงทุน และ การเปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่ โดยในส่วนของการร่วมลงทุน หากงบประมาณไม่เกิน 1,000 ล้านบาท กคช. ก็สามารถดำเนินการได้เลย ซึ่งขณะนี้กคช. ได้เตรียมเสนอเรื่องให้คณะกรรมการ กคช พิจารณาอยู่
“หาก กคช. จะสามารถดำเนืนการต่อไปได้ จะต้องทำโครงการใน 67 นี้เลย ถ้าแพคเกจนี้อนุมัต กคช. ก็จะเริ่มดำเนินการได้เลย โดยเริ่มนำร่องจาก 15 โครงการ ที่เปิดขาย เพื่อนำร่องว่ามีความต้องการทราบว่ามีความน่าสนใจมากมากน้อยแค่ไหน และต้องดูยอดขายที่ลูกค้าจองด้วย ดังนั้นต้องพยายามทำให้เกิดความมั่นใจในการทำโครงการราคาระดับปานกลาง โดยทั้ง 15 โครงการแรก”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจำนวนหน่วยที่เปิดขายในโครงการ15โครงการ จำนวน 3,956 หน่วย ขณะนี้ปิดการขายไปแล้ว 4 โครงการ คือโครงการศรีนวมินทร์ 2 , ขอนแก่น,อุบลราชธานี, นครสวรรค์, บางพลี ขายหมดแล้ว เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า กคช. สามารถทำได้ เพราะลูกค้าให้ความสนใจจริงๆ ซึ่งในขอนแก่นนั้นกคช.ยังมีที่ดินเหลือสำหรับพัฒนาต่ออีกจำนวนหนึ่งด้วย
นายสมชัย เชาว์พฤฒิพงศ์ รองผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า นับแต่เข้ามารับผิดชอบโครงการบ้านเอื้ออาทร กคช. ได้หยุดสร้างบ้านระดับปานกลางลงเพื่อเข้ามารับผิดชอบโครงการบ้านเอื้อฯอย่างเต็มตัว แต่จากนี้ไปกคช.จะเข้ามาพัฒนาโครงการในตลาดระดับกลาง-บน หลังจากการสร้างแบรนด์สินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ National Housing Authority : NHA เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาฯจับกลุ่มตลาดระดับกลาง-สูง
โดย กคช.จะใช้ชื่อโครงการตามทำเลการพัฒนาและต่อท้ายด้วยNHA โดยเน้นจุดแข็งความโดดเด่นของโครงการเรื่องสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น เน้นวัสดุก่อสร้างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานในการก่อสร้าง โดยจะนำร่องโครงการแรกที่ร่มเกล้า ซึ่งมีการนำระบบสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด และการปลูกต้นไม้ใหญ่ สร้างความร่มรื่น ซึ่งโครงการรูปแบบใหม่นี้ กคช. จะมีการลงทุนที่สูงกว่าปกติเพื่อสร้างความพึงค้าพอใจในกลุ่มลูกค้า ในราคาเริ่มต้น 3- 6 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามโครงการที่พัฒนาภายใต้แบรนด์ใหม่ ก่อนหน้านั้น กคช.พัฒนาและเปิดขายโครงการไป แล้ว15 โครงการ ซึ่งมียอดขายที่คืบหน้าไป 20% มีจำนวนทั้งสิ้น 3,965 หน่วย โดยงบลทุน 6,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการอีก 67 โครงการที่ จะเสนอต่อที่ประชุม ครม.อนุมัติ เพื่อพัฒนาในระยะเวลา 5 ปี ต่อจากนี้ คาดว่าจะเสนอครม.ในสัปดาห์หน้า
“นอกจากการสร้างบ้านในรูปแบบใหม่นี้แล้ว กคช. ยังเตรียมก่อสร้างคอมมูนิตี้ มอลล์ ขึ้นภายในโครงการด้วยโดยจะนำร่องโครงการดังกล่าว 2 แห่งก่อนประกอบด้วย โครงการที่ร่มเกล้าและกรุงเพทกรีฑา โดยก่อสร้างรูปแบบจะเหมือนเอกชนทั่วไป คือเน้นให้ลูกค้าสะดวกสบายในการอยู่อาศัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ซึ่งขณะนี้แผนกก่อสร้างได้เตรียมออกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว”
นายสมชัย กล่าวว่า รูปแบบที่กคช จะก่อสร้าคอมมูนิตี้มอลล์ ในโครงการ กำหนดไว้ 2 รูปแบบคือ การร่วมลงทุน และ การเปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่ โดยในส่วนของการร่วมลงทุน หากงบประมาณไม่เกิน 1,000 ล้านบาท กคช. ก็สามารถดำเนินการได้เลย ซึ่งขณะนี้กคช. ได้เตรียมเสนอเรื่องให้คณะกรรมการ กคช พิจารณาอยู่
“หาก กคช. จะสามารถดำเนืนการต่อไปได้ จะต้องทำโครงการใน 67 นี้เลย ถ้าแพคเกจนี้อนุมัต กคช. ก็จะเริ่มดำเนินการได้เลย โดยเริ่มนำร่องจาก 15 โครงการ ที่เปิดขาย เพื่อนำร่องว่ามีความต้องการทราบว่ามีความน่าสนใจมากมากน้อยแค่ไหน และต้องดูยอดขายที่ลูกค้าจองด้วย ดังนั้นต้องพยายามทำให้เกิดความมั่นใจในการทำโครงการราคาระดับปานกลาง โดยทั้ง 15 โครงการแรก”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจำนวนหน่วยที่เปิดขายในโครงการ15โครงการ จำนวน 3,956 หน่วย ขณะนี้ปิดการขายไปแล้ว 4 โครงการ คือโครงการศรีนวมินทร์ 2 , ขอนแก่น,อุบลราชธานี, นครสวรรค์, บางพลี ขายหมดแล้ว เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า กคช. สามารถทำได้ เพราะลูกค้าให้ความสนใจจริงๆ ซึ่งในขอนแก่นนั้นกคช.ยังมีที่ดินเหลือสำหรับพัฒนาต่ออีกจำนวนหนึ่งด้วย