“ตั้งใจไปโชว์(นม)” ความจริงอันเจ็บปวด ของ“สาวน้อยโคโยตี้” ที่สีลม

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ผ่านพ้นมาแล้วกับเทศกาลสงกรานต์ ที่ดูเหมือนปีนี้จะ “ดุ” และ “ร้อนแรง” กว่าทุกปี เพราะนอกจากจะเกิดเหตุ “ไอ้คลั่ง” ติดยา-ก่อเหตุอาละวาดฆ่าแหลกกลางเมืองกรุงแล้ว ยังเกิดเหตุ “สาวคึก” เปิดอก โชว์เต้า อวดลีลาท่าเต้นยั่วเย้าเขย่าเมืองหลวงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ถนนสีลม จนกลายเป็นข่าวดังครึกโครมไปทั้งประเทศ

โดยภาพเหตุการณ์ “สงกรานต์สยิว” ดังกล่าวถูกโพสต์เป็นคลิปวิดีโอความยาว 3 นาที โดยปรากฏภาพสาววัยรุ่น 3 คนเกิดอารมณ์คึก“คะนอง” ขึ้นไปจับจองพื้นที่บนหลังคารถ ปลดยกทรง เปลือยอก แกว่งเต้า อวดท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนท่อนล่างน้องนางสวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวรัดจิ๋ว ยืนเต้นโยกย้ายส่ายไปกับจังหวะเสียงเพลงที่เร่งเร้า เมามันส์ และกระแทกกระทั้น ท่ามกลางสายตาและเสียงเชียร์โห่ร้องให้ “ถอดเลย ถอดเลย !” ของฝูงคนที่แห่แหนไปเล่นสงกรานต์ที่ถนนสีลมจนล้นทะลัก !

หลังจากนั้นคลิปวิดีโอ “สาวน้อยโชว์นม” นางสงกรานต์แห่งถนนสีลม ก็แพร่กระจาย และถูกส่งต่อไปบนโลกอินเตอร์เน็ต และโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างรวดเร็ว จนเป็นข่าวใหญ่ กลายเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” และนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากผู้คนในสังคมถึงความอุจาด อนาจาร และไม่เหมาะสม ทำให้เสื่อมเสียประเพณีอันดีงามที่ปฏิบัติสืบต่อมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่รัฐรวมถึง “ผู้หลักผู้ใหญ่” อดรนทนไม่ไหว ต้องออกมาเต้นตาม 3 สาวกันเป็นแถว !

เริ่มจาก นายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผอ.เขตบางรัก ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับ 3 สาว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 ในข้อหา กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท เพื่อดำเนินคดีให้เป็นเยี่ยงอย่าง

"ถ้าวันนี้ผมอยู่ในเหตุการณ์ ผมจะขึ้นไปลากตัวลงมาส่งตำรวจเดี๋ยวนั้นจริงๆ คนไม่กี่คนทำความสุขและความดีงามของเทศกาลสงกรานต์ให้แปดเปื้อน"ผอ.เขตบางรัก ให้ความเห็น

ต้องขอปรบมือให้ข้าราชการไทยที่รีบออกมาปกป้องวัฒนธรรมอันดีงามอย่างเต็มที่ และมีสำนึกทางศีลธรรมขั้นเทพ !

เช่นเดียวกับ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม ได้ให้ความเห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นเรื่องที่สะเทือนความรู้สึกของผู้ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม และทำลายชื่อเสียงของประเทศ โดยได้นำเสนอไอเดียเด็ดที่แสดงให้เห็นถึง “กึ๋น” และความหลักแหลมของท่านเป็นอย่างมาก ว่า ให้ผู้กระทำผิด (3 สาว) ไปบำเพ็ญประโยชน์ที่เกี่ยวเนื่องกับงานวัฒนธรรม เช่น ไปอ่านหนังสือให้เด็กอนุบาลหรือนักเรียนฟังหน้าเสาธง เกี่ยวกับเรื่องประเพณีสงกรานต์ อย่างน้อย 3 ครั้ง เพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง

นี่คือแนวคิดที่ออกมาจากมันสมองอันปราดเปรื่องเป็นเลิศของท่านรัฐมนตรี !

อย่างไรก็ตาม ขณะที่หลายฝ่ายกำลังวิตกวิจารณ์ว่าพฤติกรรมของ 3 สาวส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในแง่ลบเป็นอย่างมากนั้น สื่อมวลชนชาวอังกฤษที่ทำงานในประเทศไทย ได้ให้มุมมองความเห็นที่ “เชื่อในความเป็นคนไทย” ว่า ไม่คิดว่าจะเป็นพฤติกรรมของวัยรุ่นไทยโดยทั่วไป เชื่อว่าคนไทยไม่กระทำพฤติกรรมดังกล่าวในที่สาธารณะ

ล่าสุด หลังจาก 3 สาวปล่อยให้กองทัพสื่อรอเก้อ เพราะน้องนางเธอ “อาย” จนไม่กล้าเข้ามอบตัว แต่แล้วในที่สุดผู้ปกครองก็พาพวกเธอแอบย่องเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งปรากฏว่าทั้งสามเป็นเด็กวัยรุ่นอายุเพียง 13, 14, 16, และจากการสอบสวน ทั้งสามสาวยอมรับว่า เป็นบุคคลที่อยู่ในคลิปวิดีโอจริง ที่กระทำลงไปเพราะความคึกคะนอง และถูกยั่วยุ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เสพยา หรือเสพของมึนเมา โดยทั้งหมดไม่ได้เรียนหนังสือ และมีบ้านพักอยู่แถวฝั่งธนฯ ในวันสงกรานต์เดินทางมาเที่ยวย่านสีลม เพราะมีคนเยอะ และเห็นว่ามีความสนุกสนาน สาเหตุที่ไม่เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนหน้านี้เพราะเกิดความอับอาย เนื่องจากเป็นข่าวโด่งดังครึกโครม ทั้งนี้ หลังการสอบปากคำ ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำอนาจารในที่สาธารณะ และเปรียบเทียบปรับจำนวน 500 บาท

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากชุดสอบสวนระบุคำให้การของทั้ง 3 สาวหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหากระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล ที่กองบังคับการสืบสวนนครบาล 6 (บก.น.6) โดยมีโทษปรับคนละ 500 บาท ว่า ทั้ง 3 คนเพิ่งรู้จักกันในสถานบันเทิงประมาณ 2-3 เดือนก่อน ทั้งหมดมีปัญหาครอบครัว ไม่ได้เรียนหนังสือ โดยพบว่าเด็กหญิงอายุ 13 ปี และ 14 ปี เคยถูกจับกุมคดีเสพยาเสพติดด้วย

“เด็กสาวทั้ง 3 คนบอกว่า วันนั้นตั้งใจไปโชว์ ไปกับกลุ่มเพื่อน 7-8 คน ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และกะเทย ดื่มสุรากันมาจากบ้าน เห็นว่าการโชว์เต้นเปลือยไม่ใช่เรื่องแปลก เคยไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในพื้นที่ปริมณฑลพบการโชว์เต้นเปลือย เพื่อจะได้กินเที่ยวและดื่มสุราฟรี รวมทั้งมีการเกทับโชว์เต้นเปลือยกันด้วย เพราะนอกจากจะได้กินดื่มและเที่ยวฟรีแล้ว ยังได้สุราเพิ่มอีก 1 ขวด” แหล่งข่าวระบุ

จากเหตุการณ์ 3 สาววัยรุ่นเปิดอก-โชว์เต้า เต้นยั่วเย้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมานั้น นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้ให้ความเห็นว่า พฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นมาจาก 3 สาเหตุ คือ 1. เกิดขึ้นเพราะอาการมึนเมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.พฤติกรรมของกลุ่มที่ชอบโชว์ (Exhibitionist) และ 3. เป็นพฤติกรรมของผู้ที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศซึ่งชอบโชว์อยู่แล้ว
 
โดยพฤติกรรมการชอบโชว์นั้นผู้กระทำเชื่อว่าสามารถเรียกร้องความดึงดูดทางเพศได้ โดยทั้งหญิงและชาย และยิ่งกระแสตอบรับของสังคมมีมาก หรือส่อว่าสนับสนุนการกระทำ ก็จะยิ่งเหมือนยุให้ผู้กระทำต้องการทำซ้ำในพฤติกรรมเดิม โดยกระแสสังคมจะเป็นตัวทำให้เกิดการโชว์ในระดับใหญ่หรือเรียกว่า ระดับมวลชน แต่ถ้าคนทั่วไปที่พบเห็นแล้ววางเฉย ผู้กระทำก็พยายามหลีกเลี่ยง หรืออาจโชว์บ้างแต่เป็นการทำแค่พื้นที่เล็กๆ เท่านั้น ไม่ได้แผ่วงกว้างขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเทศกาลสงกรานต์ที่ถนนสีลมที่ผ่านมา นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยอมรับว่ามีความบกพร่องอยู่บ้างเนื่องจากเป็นพื้นที่การจัดงานสงกรานต์ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งไม่ได้มีการระมัดระวัง รวมถึงการประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในการดูแลความเรียบร้อย ตลอดจนการปิดถนนจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งไม่เหมือนถนนข้าวสารที่ไม่ค่อยมีปัญหา ซึ่งถนนสีลม 2 วันแรกเฉลี่ยมีผู้มาเล่นสงกรานต์วันละ 1 แสนคน แต่ในวันสุดท้ายสูงถึง 1.5 แสนคน มีรายได้วันละ 15-20 ล้านบาท

ในส่วนสงกรานต์ปีหน้า นายธีระชนบอกว่า ในการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ที่พื้นที่เกิดใหม่อย่างถนนสีลมและถนนราชดำริ หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จะมีการขอความร่วมมือกับ บช.น.ในการจัดระเบียบต่อไป และจากกรณีนี้จะเป็นการกระตุ้นเตือนสังคมและตนเองจะดำเนินการกวดขันจัดเก็บ ป้ายโฆษณาของพริตตี้ต่างๆ ที่มีการแต่งตัวล่อแหลม โดยจะให้สำนักงานเขตแต่ละแห่งออกไปดำเนินการซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมหัวหน้าหน่วยงานในครั้งต่อไป

เทศกาล “สงกรานต์” ประเพณีไทยอันอบอุ่น สดชื่น และงดงาม ที่คนไทยเฝ้ารอทุกปีเพื่อจะได้กลับบ้าน ไปรดน้ำดำหัวพ่อแม่ ผู้เฒ่าผู้แก่ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เป็นช่วงวันหยุดยาวที่ครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ได้ไปทำบุญ ไหว้พระ และได้เล่นสาดน้ำสงกรานต์กันตามประเพณี

แต่เหตุการณ์ “สงกรานต์สยิว” ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพียงพฤติกรรมเฉพาะบุคคล และเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ไม่ใช่คนไทยทั้งหมด อย่าทำให้เหตุการณ์ “สาวน้อยโชว์นม” ที่สีลมกลายเป็นตัวแทนความเสื่อมทรามทางวัฒนธรรมของประเทศ หรือทำลายความงดงามของประเพณีสงกรานต์ทั้งระบบ ทั้งนี้ “ผู้หลักผู้ใหญ่” นั่นแหละ ที่ควรหันมาสำรวจตรวจสอบเหตุผลและสำนึกทางศีลธรรมของตัวเองดูบ้างว่า มันเข้าท่าไหม “เหมาะสม” หรือไม่กับสิ่งที่พูดจาและเสนอแนะออกไป “ตั้งสติให้ดี” เพื่อจะได้มีปัญญาหาทางแก้ไขและป้องกัน ไม่ใช่วิตกวิจารณ์กับสิ่งที่เกิดขึ้นจนเลอะเทอะ จนกลายเป็นว่า “ผู้ใหญ่” นั่นแหละที่ “ขาดสติ” และ “คึกคะนอง” เมามายและเต้นส่ายไปกับคำเทศนาของตนเองจนเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อน !