พล.อ.ทรง กิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า การซื้อเรือดำน้ำเป็นภาพในการปฏิบัติการ 3 มิติ ทั้งพื้นน้ำ พื้นดิน และอากาศรวมทั้งใต้น้ำ ปัจจุบันภัยคุกคามเปลี่ยนไป จึงต้องมองถึงการป้องกันประเทศในอนาคต
การรักษาอธิปไตยเหนือดินแดน การรักษาน่านน้ำ และการรักษาผลประโยชน์ของชาติทาง ทะเล รวมถึงความพร้อมของเครื่องมือที่เหมาะสมในอนาคต เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก่อนมีเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่วันนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เข้าไปช่วยเหลือคนไทย และทำงานอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของกองทัพไทย และประชาชน
ทั้งนี้หากได้เรือดำน้ำมา ก็ต้องนำกำลังพลไปฝึกถึง 5 ปี ที่ผ่านมากองทัพเรือ ได้มีการวางแผนแต่ยังติดขัดเรื่องงบประมาณ แต่เมื่อถึงเวลา ก็ควรจะมีเพื่อทำงานในอนาคต
พล.ร.อ.นิพนธ์ จักษุดุลย์ รองผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ จะมีการนำเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำของประเทศเยอรมนี จำนวน 6 ลำ ตามวงเงินงบประมาณ 7.7 พันล้านบาท เข้าสภากลาโหม เพื่อผ่านวาระเพื่อทราบ ไม่ใช่เพื่อพิจารณา เพราะเป็นอาวุธที่เกิดขึ้นมาใหม่ของกองทัพเรือไทย เราเคยมีมาเมื่อ 60 ปีที่แล้ว และเคยมีมาก่อนในประเทศอาเซียน เมื่อถามว่า ขณะนี้ 100 เปอร์เซ็นต์หรือยัง ที่จะจัดซื้อจากประเทศเยอรมนี พล.ร.อ.นิพนธ์ กล่าวว่า ด้วยปัจจัยด้านงบประมาณแล้ว มีโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะได้ เป็นเรือดำน้ำขนาดเล็ก ที่สามารถนำมาปฏิบัติการในอ่าวไทยได้ดี และในราคาที่เราสามารถซื้อได้ และเรามีงบประมาณในการจัดซื้อได้ เมื่อถามว่าถ้าไม่ได้ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือไม่ พล.ร.อ.นิพนธ์ กล่าวว่า ก็คงเป็นเช่นนั้น
การรักษาอธิปไตยเหนือดินแดน การรักษาน่านน้ำ และการรักษาผลประโยชน์ของชาติทาง ทะเล รวมถึงความพร้อมของเครื่องมือที่เหมาะสมในอนาคต เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก่อนมีเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่วันนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เข้าไปช่วยเหลือคนไทย และทำงานอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของกองทัพไทย และประชาชน
ทั้งนี้หากได้เรือดำน้ำมา ก็ต้องนำกำลังพลไปฝึกถึง 5 ปี ที่ผ่านมากองทัพเรือ ได้มีการวางแผนแต่ยังติดขัดเรื่องงบประมาณ แต่เมื่อถึงเวลา ก็ควรจะมีเพื่อทำงานในอนาคต
พล.ร.อ.นิพนธ์ จักษุดุลย์ รองผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ จะมีการนำเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำของประเทศเยอรมนี จำนวน 6 ลำ ตามวงเงินงบประมาณ 7.7 พันล้านบาท เข้าสภากลาโหม เพื่อผ่านวาระเพื่อทราบ ไม่ใช่เพื่อพิจารณา เพราะเป็นอาวุธที่เกิดขึ้นมาใหม่ของกองทัพเรือไทย เราเคยมีมาเมื่อ 60 ปีที่แล้ว และเคยมีมาก่อนในประเทศอาเซียน เมื่อถามว่า ขณะนี้ 100 เปอร์เซ็นต์หรือยัง ที่จะจัดซื้อจากประเทศเยอรมนี พล.ร.อ.นิพนธ์ กล่าวว่า ด้วยปัจจัยด้านงบประมาณแล้ว มีโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะได้ เป็นเรือดำน้ำขนาดเล็ก ที่สามารถนำมาปฏิบัติการในอ่าวไทยได้ดี และในราคาที่เราสามารถซื้อได้ และเรามีงบประมาณในการจัดซื้อได้ เมื่อถามว่าถ้าไม่ได้ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือไม่ พล.ร.อ.นิพนธ์ กล่าวว่า ก็คงเป็นเช่นนั้น