ASTVผู้จัดการรายวัน- ตลาดหลักทรัพย์ฯยกเว้นค่าธรรมเนียมรับกองทุนอีทีเอฟ และค่าธรรมเนียมรายปี หวังเอื้อบลจ.ตั้งกองทุนเข้าจดทะเบียน พร้อมจัดโปรโมชั่นมอบของขวัญให้นักลงทุนเทรดกองทุนอีทีเอฟประเดิม พ.ค.หนุนนักลงทุนซื้อขายมากขึ้น
นางเกศรา มัญชุศรี ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการยกการเก็บอัตราค่าธรรมเนียมในการรับหน่วยกองทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟ และอัตราค่าธรรมเนียมรายปี กับกองทุนอีทีเอฟที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปีนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)มีการออกกองทุนอีทีเอฟให้มากขึ้น
จากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอและค่าธรรมเนียมเข้าจดทะเบียนจำนวน 100,000 บาท และเก็บค่าธรรมเนียมรายปีที่ 50,000 บาท
นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการตั้งงบร่วมลงทุนกับบลจ.ที่มีการตั้งกองทุนอีทีเอฟเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปีนี้ 5 กองแรก มูลค่ากองละ 20 ล้านบาท รวมวงเงินที่ตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมลงทุน 100 ล้านบาท โดยขณะนี้มีบลจ.ได้มีบลจ.ที่เตรียมจะตั้งกองทุนอีทีเอฟที่จะเข้าจดทะเบียนในปีนี้จำนวน 5 กองทุน ทั้งกองทุนอีทีเอฟในประเทศและนำอีทีเอฟต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียน โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยได้ในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้
“กองทุนอีทีเอฟอีทีเอฟต่างประเทศ และอีทีเอฟในประเทศ ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมการการค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอและค่าธรรมเนียมเข้าจดทะเบียนจำนวน 1 แสนบาท และเก็บค่าธรรมเนียมรายปีที่คิด 5 หมื่นบาท เพื่อเป็นการสนับสนุนให้บลจ.มีการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการตั้งกองทุนอีทีเอฟเข้ามาจดทะเบียน และทางตลท.มีงบร่วมลงทุนกับกองทุนอีทีเอฟ 5 กอง 5 แรกที่เข้าเทรด กองละ 20 ล้านบาทด้วย แต่ในปีหน้าตลาดหลักทรัพย์ฯมีการเก็บเค่าธรรมเนียมตามปกติ” นางเกศรา กล่าว
สำหรับที่ผ่านมานักลงทุนไทยยังไม่ค่อยเข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟมากนัก แต่จากการที่มีการอนุญาตให้นำกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนได้ ส่วนตัวเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนไทยหันมาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟมากขึ้น จากที่เป็นสินค้าที่มีการซื้อขายในต่างประเทศและยังเป็นทางเลือกให้นักลงทุนมีการกระจายพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน
นางเกศรา กล่าวว่า จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการสนับสนุนให้บลจ.มีการออกกองทุนอีทีเอฟแล้วนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯมีแผนที่จะมีการส่งเสริมให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ โดยการร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ในการให้ของขวัญ แก่นักลงทุนที่มีการซื้อขายกองทุนอีทีเอฟ ซึ่งจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมนี้ และมีการให้บล.มีการให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)เกี่ยวกับกองทุนอีทีเอฟ เพื่อให้มาร์เกตติ้งมีการแนะนำนักลงทุนให้เข้ามาลงทุน นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเชิญ บลจ. 3 แห่ง ที่มีการบริหารกองทุนอีทีเอฟอยู่มาให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับกองทุนอีทีเอฟด้วย เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจ และเข้ามาลงทุน
“ในเดือนพ.ค.นี้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการมอบของขวัญเล็กน้อยๆ สินค้าพีเมี่ยม เช่น ทั้มไดร์ ฯลฯเพื่อให้บล.ไปแจกให้นักลงทุนที่มีการเทรดกองทุนอีทีเอฟ เพื่อให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายกองทุนอีทีเอฟมากขึ้น หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการจัดสนับสนุนให้บลจ.มีการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากนี้ตลท.เชิญ บลจ. วรรณ บลจ.ทหารไทย บลจ.กรุงไทยมาให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนอีทีเอฟแก่นักลงทุน และได้มีการหารือกับบล.ในการให้ความรู้มาร์เกตติ้งด้วย เพื่อให้มาร์เกตติ้งมีการแนะนำการลงทุนแก่ลูกค้าได้ ” นางเกศรากล่าว
นอกจากนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงเกณฑ์ของทางก.ล.ต.และสนับสนุนให้ธุรกรรมเติบดตอย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งลดข้อจำกัดในการประกอบธุรกิจ โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)และรับฟังความเห็นจากที่ประชุมสมาชิกแล้ว
นางเกศรา มัญชุศรี ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการยกการเก็บอัตราค่าธรรมเนียมในการรับหน่วยกองทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟ และอัตราค่าธรรมเนียมรายปี กับกองทุนอีทีเอฟที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปีนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)มีการออกกองทุนอีทีเอฟให้มากขึ้น
จากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอและค่าธรรมเนียมเข้าจดทะเบียนจำนวน 100,000 บาท และเก็บค่าธรรมเนียมรายปีที่ 50,000 บาท
นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการตั้งงบร่วมลงทุนกับบลจ.ที่มีการตั้งกองทุนอีทีเอฟเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปีนี้ 5 กองแรก มูลค่ากองละ 20 ล้านบาท รวมวงเงินที่ตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมลงทุน 100 ล้านบาท โดยขณะนี้มีบลจ.ได้มีบลจ.ที่เตรียมจะตั้งกองทุนอีทีเอฟที่จะเข้าจดทะเบียนในปีนี้จำนวน 5 กองทุน ทั้งกองทุนอีทีเอฟในประเทศและนำอีทีเอฟต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียน โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยได้ในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้
“กองทุนอีทีเอฟอีทีเอฟต่างประเทศ และอีทีเอฟในประเทศ ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมการการค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอและค่าธรรมเนียมเข้าจดทะเบียนจำนวน 1 แสนบาท และเก็บค่าธรรมเนียมรายปีที่คิด 5 หมื่นบาท เพื่อเป็นการสนับสนุนให้บลจ.มีการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการตั้งกองทุนอีทีเอฟเข้ามาจดทะเบียน และทางตลท.มีงบร่วมลงทุนกับกองทุนอีทีเอฟ 5 กอง 5 แรกที่เข้าเทรด กองละ 20 ล้านบาทด้วย แต่ในปีหน้าตลาดหลักทรัพย์ฯมีการเก็บเค่าธรรมเนียมตามปกติ” นางเกศรา กล่าว
สำหรับที่ผ่านมานักลงทุนไทยยังไม่ค่อยเข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟมากนัก แต่จากการที่มีการอนุญาตให้นำกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนได้ ส่วนตัวเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนไทยหันมาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟมากขึ้น จากที่เป็นสินค้าที่มีการซื้อขายในต่างประเทศและยังเป็นทางเลือกให้นักลงทุนมีการกระจายพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน
นางเกศรา กล่าวว่า จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการสนับสนุนให้บลจ.มีการออกกองทุนอีทีเอฟแล้วนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯมีแผนที่จะมีการส่งเสริมให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ โดยการร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ในการให้ของขวัญ แก่นักลงทุนที่มีการซื้อขายกองทุนอีทีเอฟ ซึ่งจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมนี้ และมีการให้บล.มีการให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)เกี่ยวกับกองทุนอีทีเอฟ เพื่อให้มาร์เกตติ้งมีการแนะนำนักลงทุนให้เข้ามาลงทุน นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเชิญ บลจ. 3 แห่ง ที่มีการบริหารกองทุนอีทีเอฟอยู่มาให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับกองทุนอีทีเอฟด้วย เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจ และเข้ามาลงทุน
“ในเดือนพ.ค.นี้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการมอบของขวัญเล็กน้อยๆ สินค้าพีเมี่ยม เช่น ทั้มไดร์ ฯลฯเพื่อให้บล.ไปแจกให้นักลงทุนที่มีการเทรดกองทุนอีทีเอฟ เพื่อให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายกองทุนอีทีเอฟมากขึ้น หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการจัดสนับสนุนให้บลจ.มีการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากนี้ตลท.เชิญ บลจ. วรรณ บลจ.ทหารไทย บลจ.กรุงไทยมาให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนอีทีเอฟแก่นักลงทุน และได้มีการหารือกับบล.ในการให้ความรู้มาร์เกตติ้งด้วย เพื่อให้มาร์เกตติ้งมีการแนะนำการลงทุนแก่ลูกค้าได้ ” นางเกศรากล่าว
นอกจากนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงเกณฑ์ของทางก.ล.ต.และสนับสนุนให้ธุรกรรมเติบดตอย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งลดข้อจำกัดในการประกอบธุรกิจ โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)และรับฟังความเห็นจากที่ประชุมสมาชิกแล้ว