ASTVผู้จัดการรายวัน- ครม.ยกเลิกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว เหตุสถานการณ์ปกติแล้ว ต่ออายุให้นำรางวัลเที่ยวในประเทศหักภาษีได้ 2 เท่าของรายจ่ายจริงต่ออีก1ปี พร้อมเปิดทางการยกเว้นวีซ่าจีนแต่ให้กระทรวงฯ-ททท. ไปหารือกับรัฐบาลจีนในรายละเอียดอีกครั้ง
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ครม.มีมติอนุมัติตามข้อเสนอของกระทรวงฯ ในการทบทวนการดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยไม่ขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ตามมติครม.วันที่ 2 มี.ค.2553 ใน 3 เรื่อง คือ 1.ไม่ขยายเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.การลดหย่อนค่าธรรมเนียมการขึ้น-ลงท่าอากาศยานและค่าธรรมเนียมที่เก็บที่ท่าอากาศยาน(Landing & Parking Fee) และ 3.การประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยกรณีเกิดจลาจล ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา เพราะสถานการณ์ท่องเที่ยวกลับสู่ภาวะปกติแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องขยายมาตรการเหล่านี้
โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วง 3 gดือนแรกของปีนี้มีมากถึง 5.3 ล้านคน หรือหากเป็นเช่นนี้อีก 3 ไตรมาส ก็อาจถึง 20 ล้านคน ตลอดทั้งปีจะถึงเป้าหมาย 16 ล้านคน ถ้าไม่มีปัญหาความไม่สงบทางการเมืองเกิดขึ้นอีก
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดโครงการให้นักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนเที่ยวบินในไทย สามารถท่องเที่ยวได้ภายในเวลาที่กำหนด โดยให้เป็นมาตรการถาวร และให้ส่วนราชการจัดอบรมหรือสัมนาในประเทศเป็นการถาวรเช่นกัน พร้อมทั้งต่ออายุมาตรการที่ให้ผู้ประกอบการนำค่าใช้จ่ายที่จัดเป็นรางวัลท่องเที่ยวในประเทศให้พนักงาน มาหักค่าใช้จ่ายได้2เท่าของรายจ่ายจริงต่อไปอีก 1 ปี หรือสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2555
ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนร้องเรียนว่ามีหน่วยงานราชการบางแห่ง จัดทัวร์มาแข่งกับภาคเอกชนนั้น ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงฯประสานกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อไม่ให้จัดทัวร์แข่งขันกับภาคเอกชน
ทั้งนี้ ครม.ยังมอบหมายให้กระทรวงฯและททท.หารือกับรัฐบาลจีนและไต้หวัน ในการยกเลิกการทำวีซ่าระหว่างกัน เพราะที่ผ่านมาพบว่ามาตรการนี้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนและไต้หวันมาเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนคน
“หากทั้งสองประเทศตกลงร่วมกัน ทางรัฐบาลไทยก็จะยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนและไต้หวันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ส่วนข้อเสนอที่ว่าหากครม.ยังไม่เห็นสมควรกับเรื่องนี้ก็ขอให้ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจาก 2 ประเทศนี้ซึ่งหมดเขตไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ครม.ไม่เห็นด้วย”
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอเรื่อง ให้พิจาณาให้การรับการตรวจลงตรา(วีซ่า)ของด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือ Visa on Arrival แก่ชาวตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน เลบานอน จอร์แดน กระทรวงท่องเที่ยวฯขอถอนเรื่องนี้ออกไป เนื่องจากสภาความมั่นคงแห่งชาติทักท้วงว่ากลุ่มประเทศดังกล่าวยังมีปัญหาอยู่ขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบ
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ครม.มีมติอนุมัติตามข้อเสนอของกระทรวงฯ ในการทบทวนการดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยไม่ขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ตามมติครม.วันที่ 2 มี.ค.2553 ใน 3 เรื่อง คือ 1.ไม่ขยายเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.การลดหย่อนค่าธรรมเนียมการขึ้น-ลงท่าอากาศยานและค่าธรรมเนียมที่เก็บที่ท่าอากาศยาน(Landing & Parking Fee) และ 3.การประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยกรณีเกิดจลาจล ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา เพราะสถานการณ์ท่องเที่ยวกลับสู่ภาวะปกติแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องขยายมาตรการเหล่านี้
โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วง 3 gดือนแรกของปีนี้มีมากถึง 5.3 ล้านคน หรือหากเป็นเช่นนี้อีก 3 ไตรมาส ก็อาจถึง 20 ล้านคน ตลอดทั้งปีจะถึงเป้าหมาย 16 ล้านคน ถ้าไม่มีปัญหาความไม่สงบทางการเมืองเกิดขึ้นอีก
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดโครงการให้นักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนเที่ยวบินในไทย สามารถท่องเที่ยวได้ภายในเวลาที่กำหนด โดยให้เป็นมาตรการถาวร และให้ส่วนราชการจัดอบรมหรือสัมนาในประเทศเป็นการถาวรเช่นกัน พร้อมทั้งต่ออายุมาตรการที่ให้ผู้ประกอบการนำค่าใช้จ่ายที่จัดเป็นรางวัลท่องเที่ยวในประเทศให้พนักงาน มาหักค่าใช้จ่ายได้2เท่าของรายจ่ายจริงต่อไปอีก 1 ปี หรือสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2555
ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนร้องเรียนว่ามีหน่วยงานราชการบางแห่ง จัดทัวร์มาแข่งกับภาคเอกชนนั้น ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงฯประสานกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อไม่ให้จัดทัวร์แข่งขันกับภาคเอกชน
ทั้งนี้ ครม.ยังมอบหมายให้กระทรวงฯและททท.หารือกับรัฐบาลจีนและไต้หวัน ในการยกเลิกการทำวีซ่าระหว่างกัน เพราะที่ผ่านมาพบว่ามาตรการนี้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนและไต้หวันมาเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนคน
“หากทั้งสองประเทศตกลงร่วมกัน ทางรัฐบาลไทยก็จะยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนและไต้หวันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ส่วนข้อเสนอที่ว่าหากครม.ยังไม่เห็นสมควรกับเรื่องนี้ก็ขอให้ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจาก 2 ประเทศนี้ซึ่งหมดเขตไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ครม.ไม่เห็นด้วย”
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอเรื่อง ให้พิจาณาให้การรับการตรวจลงตรา(วีซ่า)ของด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือ Visa on Arrival แก่ชาวตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน เลบานอน จอร์แดน กระทรวงท่องเที่ยวฯขอถอนเรื่องนี้ออกไป เนื่องจากสภาความมั่นคงแห่งชาติทักท้วงว่ากลุ่มประเทศดังกล่าวยังมีปัญหาอยู่ขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบ
