“ชุมพล”จัดเต็ม เสนอ ครม. หนุน ท่องเที่ยวต่อเนื่อง ชงยกเลิกวีซ่านักท่องเที่ยวจีนอย่างถาวร และขอนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางทำวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ อ้างเป็นตลาดใหญ่ที่ควรสนับสนุนเพิ่ม
รายงานข่าวจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันนี้ (20 เม.ย.54) นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยจะเสนอ ให้ยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและไต้หวันเป็นการถาวร เช่นเดียวกับที่ยกเลิกให้กับหลายๆประเทศ เช่น เกาหลีใต้ บราซิล และเปรู
เหตุผลของการนำเสนอครั้งนี้เพราะว่า จีนเป็นตลาดใหญ่ มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยจำนวนมาก จึงเห็นควรว่าจะให้ตลาดนี้เข้ามาสนับสนุนการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทยได้มากขึ้น แต่หากครม. ยังไม่เห็นสมควร ก็ขอให้พิจารณาขยายระยะเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราประเภทการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน ไต้หวัน ออกไปอีก 1 ปี หรือถึง 31 มี.ค.55 รวมถึงเพิ่มระยะเวลาพำนักในประเทศไทยเป็น 90 วัน
ขณะเดียวกันมีแนวคิดว่า จะมีมาตรการเพิ่มเติม เสนอต่อ ครม. คือ ให้พิจารณาให้การรับการตรวจลงตรา(วีซ่า)ของด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือ Visa on Arrival แก่ชาวต่างชาติประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน เลบานอน จอร์แดน เป็นต้น เพราะเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยจำนวนมาก โดยปี 2553 มีชาวอิหร่าน 178,291 คน เลบานอน 13,866 คน และจอร์แดน 9,175 คน และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เช่นเดียวกับที่ครม.เคยมีมติเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2553 ให้บุคคลสัญชาติโรมาเนีย บัลกาเรีย มอลตา อันดอร์รา และซานมาริโน รวม 5 ประเทศ รับการตรวจลงตราเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเพื่อการท่องเที่ยว ไม่เกิน 15 วัน ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองได้
นอกจากนั้นยังเสนอขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวตามมติครม.เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2553 ออกไปอีก 1 ปี จนถึง 31 มี.ค.2555 ได้แก่ การลดหย่อนค่าประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม การให้ผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายการจัดประชุม สัมมนา อบรม และการจัดการท่องเที่ยวเป็นรางวัลในประเทศแก่พนักงานมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 2เท่า ของที่จ่ายจริง
การปรับปรุงบริการการตรวจลงตรา ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น กำชับกระทรวงมหาดไทย สนับสนุนให้สถานประกอบการโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และให้หน่วยงานรัฐที่จัดสัมมนา ใช้บริการสถานประกอบการที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ขณะที่หน่วยงานภาครัฐไม่ควรจัดบริการนำเที่ยวแข่งขันกับภาคเอกชน และให้ขยายระยะเวลา โครงการ Transfer Passenger เพราะเป็นอีกช่องทางที่สร้างรายได้เข้าประเทศ
รายงานข่าวจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันนี้ (20 เม.ย.54) นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยจะเสนอ ให้ยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและไต้หวันเป็นการถาวร เช่นเดียวกับที่ยกเลิกให้กับหลายๆประเทศ เช่น เกาหลีใต้ บราซิล และเปรู
เหตุผลของการนำเสนอครั้งนี้เพราะว่า จีนเป็นตลาดใหญ่ มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยจำนวนมาก จึงเห็นควรว่าจะให้ตลาดนี้เข้ามาสนับสนุนการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทยได้มากขึ้น แต่หากครม. ยังไม่เห็นสมควร ก็ขอให้พิจารณาขยายระยะเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราประเภทการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน ไต้หวัน ออกไปอีก 1 ปี หรือถึง 31 มี.ค.55 รวมถึงเพิ่มระยะเวลาพำนักในประเทศไทยเป็น 90 วัน
ขณะเดียวกันมีแนวคิดว่า จะมีมาตรการเพิ่มเติม เสนอต่อ ครม. คือ ให้พิจารณาให้การรับการตรวจลงตรา(วีซ่า)ของด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือ Visa on Arrival แก่ชาวต่างชาติประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน เลบานอน จอร์แดน เป็นต้น เพราะเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยจำนวนมาก โดยปี 2553 มีชาวอิหร่าน 178,291 คน เลบานอน 13,866 คน และจอร์แดน 9,175 คน และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เช่นเดียวกับที่ครม.เคยมีมติเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2553 ให้บุคคลสัญชาติโรมาเนีย บัลกาเรีย มอลตา อันดอร์รา และซานมาริโน รวม 5 ประเทศ รับการตรวจลงตราเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเพื่อการท่องเที่ยว ไม่เกิน 15 วัน ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองได้
นอกจากนั้นยังเสนอขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวตามมติครม.เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2553 ออกไปอีก 1 ปี จนถึง 31 มี.ค.2555 ได้แก่ การลดหย่อนค่าประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม การให้ผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายการจัดประชุม สัมมนา อบรม และการจัดการท่องเที่ยวเป็นรางวัลในประเทศแก่พนักงานมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 2เท่า ของที่จ่ายจริง
การปรับปรุงบริการการตรวจลงตรา ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น กำชับกระทรวงมหาดไทย สนับสนุนให้สถานประกอบการโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และให้หน่วยงานรัฐที่จัดสัมมนา ใช้บริการสถานประกอบการที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ขณะที่หน่วยงานภาครัฐไม่ควรจัดบริการนำเที่ยวแข่งขันกับภาคเอกชน และให้ขยายระยะเวลา โครงการ Transfer Passenger เพราะเป็นอีกช่องทางที่สร้างรายได้เข้าประเทศ
