รัฐบาลโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ได้พูดว่าจะยุบสภาในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม เมื่อประชาชนรู้ข่าวว่าจะมีการยุบสภา และจะมีการเลือกตั้งใหม่ โดยปกติแล้วประชาชนจะรู้ยินดีปรีดา แต่แปลกมากที่ครั้งนี้ประชาชนจำนวนมากต่างก็วิตกกังวลกับการเลือกตั้งที่จะมาถึงและยังกังวลต่อไปอีกว่าจะได้ใครมาเป็นรัฐบาล มีพรรคไหนเป็นแกนนำ
หากว่าได้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ ก็แน่นอนว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่สอง ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่แล้วว่า นายอภิสิทธิ์ บริหารประเทศไม่มีความสามารถ ไม่มีความรู้ แยกแยะไม่เป็น อะไรถูกต้อง อะไรไม่ถูกต้อง เป็นเพียงหุ่นเชิดขึ้นมาเพื่อกันไม่ให้พรรคพวกของทักษิณได้จัดตั้งรัฐบาล ก็ไล่ไปแล้ว ยุบไปแล้วจะมาเป็นรัฐบาลอีกได้อย่างไร ดังนั้นผู้ที่มีอำนาจได้วางแผนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รัฐบาลประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่เขาขอร้องมาให้เป็นรัฐบาล และขณะเดียวกันก็เป็นหุ่นเชิดของกลุ่มคนนอกและในพรรคเพียงหยิบมือเดียว
เมื่อถูกเชิญมา ก็ทำให้พรรคประชาธิปัตย์บริหารประเทศแบบชวนเชื่องช้ารอบสอง ยิ่งกว่านั้นภายใต้การนำของรัฐบาลอภิสิทธิ์ สื่อต่างๆ ทั้งในและนอกต่างก็เชื่อกันว่า เป็นรัฐบาลที่คอร์รัปชันมากที่สุดรัฐบาลหนึ่งพอๆ กับรัฐบาลทักษิณ และกู้เงินมาบริหารประเทศมากที่สุดเป็นหนี้สาธารณะมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ปัญหา 3 จังหวัดก็แก้ไขไม่ได้ ชาวพุทธ เหล่าครูทั้งหลาย จะต้องรับพิษร้ายตายและบาดเจ็บสูญเสียทรัพย์สินอีกเท่าไร
โดยเฉพาะปัญหาเสื้อแดงซึ่งรัฐบาลไม่ได้แก้ไขอะไรเลย แต่เรารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่สามารถแก้ปัญหาเสื้อแดงและปัญหาจาบจ้วงเบื้องสูงได้ ทั้งที่ปัญหาเหล่านี้แก้ไขไม่ยากเลย แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ ไม่คิดแก้ไขหรือแก้ไขไม่ถูกจุด นอกจากนี้ยังหลอกผู้เฒ่าสองคนออกมาดำเนินการเรื่องปฏิรูปประเทศเรื่องปลายเหตุ กินงบประมาณไปเท่าไร และในท้ายที่สุดก็พอๆ กับรัฐบาล จึงเห็นได้ว่า หากว่ารัฐบาลใหม่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอง ประชาชนจะต้องทนทุกข์อีกนานเท่าไร ทั้งปัญหาต่างๆ เพิ่มมากขึ้นๆ รุกเร้าทั้งประชาชนและประเทศชาติ
ประเด็นที่สอง หลังเลือกตั้งแล้วได้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รัฐบาลใหม่พรรคเพื่อไทยก็จะพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และขอคืนทรัพย์สินที่ถูกยึดไป อ้างว่าเพื่อความเป็นธรรม ปัญหาก็จะเกิดขึ้นอีก ประชาชนที่รักความเป็นธรรมเห็นแก่ประโยชน์ชาติไม่พอใจจะออกมาชุมนุมร่วมกับพันธมิตรฯ ขับไล่รัฐบาลอย่างแน่นอน
ประเด็นต่อมา แม้ว่าพวกเขาจะอวดโม้ว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมและแก้ปัญหาเศรษฐกิจซึ่งเป็นปัญหาปลายเหตุจากระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลไหนๆ ภายใต้ระบอบนี้ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งหากพิจารณาแล้วนโยบายเพื่อไทย ก็ไม่ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็คือประชานิยมเหมือนกัน คือเอาเงินภาษีของประชาชนไปซื้อเสียงในรูปแบบใหม่ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค หรือไม่ก็รักษาฟรี เป็นต้น
สรุปสั้นๆ ว่า ทั้งสองพรรค ทั้งสองฝ่ายที่จะมีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่สามารถแก้ไขเหตุวิกฤตชาติให้ผ่านพ้นไปได้ เพราะพรรคเหล่านี้ ล้วนเป็นพรรคที่อยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ยิ่งบริหารประเทศ ประเทศและประชาชนยิ่งย่ำแย่ เสื่อมถอยลงๆ ทั้งนี้เพราะพรรคเหล่านั้นล้วนเป็นพรรคการเมืองในลัทธิรัฐธรรมนูญ แต่หลอกประชาชนว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ผู้รู้ ผู้รู้เท่าทันและผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งหลายย่อมคัดค้าน และชี้ทาง นำทางที่ถูกต้องมาให้กับประเทศ และไม่ยินยอมให้พวกไม่รู้หาประโยชน์จากอำนาจทางการเมืองมาเป็นของตนและพวกพ้อง ท่านทั้งหลายต่างก็เห็นชัดว่าประเทศเรามีแต่เสื่อมลงๆ และเสื่อมลงถึงที่สุดแล้ว
เหตุแห่งความเสื่อมทั้งหลายคืออะไร ตอบว่า เพราะเราไม่ได้สถาปนาระบอบหรือหลักการปกครองแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง เอาแต่ร่างรัฐธรรมนูญร่างแล้วร่างเล่า รัฐประหารแล้วรัฐประหารเล่า มันเป็นผลประจักษ์อยู่แล้วของผู้มีปัญญาทางการเมืองหรือผู้ที่ติดตามการเมือง
เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วก็เข้าใจผิดว่านี่คือระบอบประชาธิปไตย ครั้งเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ๆ คณะราษฎร ไม่ได้เรียกว่าระบอบประชาธิปไตย แต่เรียกว่า “การปกครองโดยรัฐธรรมนูญ” ดังความมุ่งมาดปรารถนาอันสูงสุดของคณะราษฎรคือ “รัฐธรรมนูญการปกครอง” ซึ่งรัฐธรรมนูญมีอยู่ทุกประเทศ ส่วนระบอบนั้นก็แตกต่างกันไป ระบอบหรือหลักการปกครองโดยธรรมในทางที่ถูกต้องสูงสุดนั้น จะต้องมาก่อนรัฐธรรมนูญ มีประเทศไทยประเทศเดียวที่สร้างรัฐธรรมนูญแล้วเรียกว่าระบอบประชาธิปไตย แล้วก็สอนกันผิดๆ แต่งตำรากันผิด โฆษณาชวนเชื่อกันผิดๆ ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ประเทศจึงได้ตกต่ำย่ำแย่จนถึงทุกวันนี้
ในเมื่อความเป็นจริงประเทศไทยตกอยู่สภาพการณ์การเมืองที่เป็นเผด็จการมายาวนาน 79 ปี หรือพูดง่ายๆ ตกอยู่สภาวะ กลัว โลภ โกรธ หลง หรือกำลังตกอยู่ในนรกแล้วก็ตกนรกทางการเมืองกันทั้งแผ่นดินยาวนานเช่นนี้ เราควรจะทำอย่างไรกันดี
1. จะพึ่งรัฐบาล พึ่งผู้ปกครอง เขาก็มองไม่เห็นเหตุวิกฤตชาติต่างก็ดันทุรังว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย มันดีอยู่แล้วแต่ก็นอนก่ายหน้าผากทุกคืน
2. จะหยุดยั้งการเลือกตั้งแบบเผด็จการ แล้วขอพระราชทานสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย ปฏิรูปประเทศใหม่ก็ยังทำไม่ได้
3. เมื่อการเลือกตั้งของระบอบเผด็จการปล้นชาติ ยังคงดำเนินไป ก็มีทางเดียวคือ โหวตโน ลองตรองดูอย่างแยบยลเถิดครับท่านพี่น้อง
หากว่าได้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ ก็แน่นอนว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่สอง ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่แล้วว่า นายอภิสิทธิ์ บริหารประเทศไม่มีความสามารถ ไม่มีความรู้ แยกแยะไม่เป็น อะไรถูกต้อง อะไรไม่ถูกต้อง เป็นเพียงหุ่นเชิดขึ้นมาเพื่อกันไม่ให้พรรคพวกของทักษิณได้จัดตั้งรัฐบาล ก็ไล่ไปแล้ว ยุบไปแล้วจะมาเป็นรัฐบาลอีกได้อย่างไร ดังนั้นผู้ที่มีอำนาจได้วางแผนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รัฐบาลประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่เขาขอร้องมาให้เป็นรัฐบาล และขณะเดียวกันก็เป็นหุ่นเชิดของกลุ่มคนนอกและในพรรคเพียงหยิบมือเดียว
เมื่อถูกเชิญมา ก็ทำให้พรรคประชาธิปัตย์บริหารประเทศแบบชวนเชื่องช้ารอบสอง ยิ่งกว่านั้นภายใต้การนำของรัฐบาลอภิสิทธิ์ สื่อต่างๆ ทั้งในและนอกต่างก็เชื่อกันว่า เป็นรัฐบาลที่คอร์รัปชันมากที่สุดรัฐบาลหนึ่งพอๆ กับรัฐบาลทักษิณ และกู้เงินมาบริหารประเทศมากที่สุดเป็นหนี้สาธารณะมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ปัญหา 3 จังหวัดก็แก้ไขไม่ได้ ชาวพุทธ เหล่าครูทั้งหลาย จะต้องรับพิษร้ายตายและบาดเจ็บสูญเสียทรัพย์สินอีกเท่าไร
โดยเฉพาะปัญหาเสื้อแดงซึ่งรัฐบาลไม่ได้แก้ไขอะไรเลย แต่เรารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่สามารถแก้ปัญหาเสื้อแดงและปัญหาจาบจ้วงเบื้องสูงได้ ทั้งที่ปัญหาเหล่านี้แก้ไขไม่ยากเลย แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ ไม่คิดแก้ไขหรือแก้ไขไม่ถูกจุด นอกจากนี้ยังหลอกผู้เฒ่าสองคนออกมาดำเนินการเรื่องปฏิรูปประเทศเรื่องปลายเหตุ กินงบประมาณไปเท่าไร และในท้ายที่สุดก็พอๆ กับรัฐบาล จึงเห็นได้ว่า หากว่ารัฐบาลใหม่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอง ประชาชนจะต้องทนทุกข์อีกนานเท่าไร ทั้งปัญหาต่างๆ เพิ่มมากขึ้นๆ รุกเร้าทั้งประชาชนและประเทศชาติ
ประเด็นที่สอง หลังเลือกตั้งแล้วได้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รัฐบาลใหม่พรรคเพื่อไทยก็จะพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และขอคืนทรัพย์สินที่ถูกยึดไป อ้างว่าเพื่อความเป็นธรรม ปัญหาก็จะเกิดขึ้นอีก ประชาชนที่รักความเป็นธรรมเห็นแก่ประโยชน์ชาติไม่พอใจจะออกมาชุมนุมร่วมกับพันธมิตรฯ ขับไล่รัฐบาลอย่างแน่นอน
ประเด็นต่อมา แม้ว่าพวกเขาจะอวดโม้ว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมและแก้ปัญหาเศรษฐกิจซึ่งเป็นปัญหาปลายเหตุจากระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลไหนๆ ภายใต้ระบอบนี้ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งหากพิจารณาแล้วนโยบายเพื่อไทย ก็ไม่ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็คือประชานิยมเหมือนกัน คือเอาเงินภาษีของประชาชนไปซื้อเสียงในรูปแบบใหม่ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค หรือไม่ก็รักษาฟรี เป็นต้น
สรุปสั้นๆ ว่า ทั้งสองพรรค ทั้งสองฝ่ายที่จะมีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่สามารถแก้ไขเหตุวิกฤตชาติให้ผ่านพ้นไปได้ เพราะพรรคเหล่านี้ ล้วนเป็นพรรคที่อยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ยิ่งบริหารประเทศ ประเทศและประชาชนยิ่งย่ำแย่ เสื่อมถอยลงๆ ทั้งนี้เพราะพรรคเหล่านั้นล้วนเป็นพรรคการเมืองในลัทธิรัฐธรรมนูญ แต่หลอกประชาชนว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ผู้รู้ ผู้รู้เท่าทันและผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งหลายย่อมคัดค้าน และชี้ทาง นำทางที่ถูกต้องมาให้กับประเทศ และไม่ยินยอมให้พวกไม่รู้หาประโยชน์จากอำนาจทางการเมืองมาเป็นของตนและพวกพ้อง ท่านทั้งหลายต่างก็เห็นชัดว่าประเทศเรามีแต่เสื่อมลงๆ และเสื่อมลงถึงที่สุดแล้ว
เหตุแห่งความเสื่อมทั้งหลายคืออะไร ตอบว่า เพราะเราไม่ได้สถาปนาระบอบหรือหลักการปกครองแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง เอาแต่ร่างรัฐธรรมนูญร่างแล้วร่างเล่า รัฐประหารแล้วรัฐประหารเล่า มันเป็นผลประจักษ์อยู่แล้วของผู้มีปัญญาทางการเมืองหรือผู้ที่ติดตามการเมือง
เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วก็เข้าใจผิดว่านี่คือระบอบประชาธิปไตย ครั้งเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ๆ คณะราษฎร ไม่ได้เรียกว่าระบอบประชาธิปไตย แต่เรียกว่า “การปกครองโดยรัฐธรรมนูญ” ดังความมุ่งมาดปรารถนาอันสูงสุดของคณะราษฎรคือ “รัฐธรรมนูญการปกครอง” ซึ่งรัฐธรรมนูญมีอยู่ทุกประเทศ ส่วนระบอบนั้นก็แตกต่างกันไป ระบอบหรือหลักการปกครองโดยธรรมในทางที่ถูกต้องสูงสุดนั้น จะต้องมาก่อนรัฐธรรมนูญ มีประเทศไทยประเทศเดียวที่สร้างรัฐธรรมนูญแล้วเรียกว่าระบอบประชาธิปไตย แล้วก็สอนกันผิดๆ แต่งตำรากันผิด โฆษณาชวนเชื่อกันผิดๆ ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ประเทศจึงได้ตกต่ำย่ำแย่จนถึงทุกวันนี้
ในเมื่อความเป็นจริงประเทศไทยตกอยู่สภาพการณ์การเมืองที่เป็นเผด็จการมายาวนาน 79 ปี หรือพูดง่ายๆ ตกอยู่สภาวะ กลัว โลภ โกรธ หลง หรือกำลังตกอยู่ในนรกแล้วก็ตกนรกทางการเมืองกันทั้งแผ่นดินยาวนานเช่นนี้ เราควรจะทำอย่างไรกันดี
1. จะพึ่งรัฐบาล พึ่งผู้ปกครอง เขาก็มองไม่เห็นเหตุวิกฤตชาติต่างก็ดันทุรังว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย มันดีอยู่แล้วแต่ก็นอนก่ายหน้าผากทุกคืน
2. จะหยุดยั้งการเลือกตั้งแบบเผด็จการ แล้วขอพระราชทานสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย ปฏิรูปประเทศใหม่ก็ยังทำไม่ได้
3. เมื่อการเลือกตั้งของระบอบเผด็จการปล้นชาติ ยังคงดำเนินไป ก็มีทางเดียวคือ โหวตโน ลองตรองดูอย่างแยบยลเถิดครับท่านพี่น้อง