xs
xsm
sm
md
lg

“ใจ” ฉะ “ทักษิณ” ฝันลอยๆ นโยบาย พท.ไม่มีอะไรใหม่ ยุปฏิวัติล้มอำมาตย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายใจลส์ ใจ อึ๊งภากรณ์ อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
“ใจ อึ๊งภากรณ์” ผิดหวัง “แม้ว” แถลงนโยบายเพื่อไทย จ้อแต่เรื่องตัวเอง ชี้ หมดสภาพผู้นำทางความคิดของเสื้อแดงแล้ว ระบุ ชนะเลือกตั้งไม่พอ เพราะต้องเอาจริงถึงขั้นปฏิวัติล้มอำมาตย์ ขุดรากถอนโคนศาล-ทหาร ยันระยะสั้นยังต้องเลือกเพื่อไทย แต่ฝันระยะยาวต้องสร้างพรรคเสื้อแดงเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ประชาไท ได้ตีพิมพ์บทความของ นายใจลส์ ใจ อึ๊งภากรณ์ อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งหลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอยู่ในต่างประเทศ ในหัวข้อ ทักษิณกับเพื่อไทย “ไปไม่ถึง” ในเรื่องนโยบายสำหรับอนาคต หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายได้วิดีโอลิงก์ระหว่างที่พรรคเพื่อไทย จัดงานแถลงข่าวเตรียมความพร้อมต่อการเลือกตั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2554 ที่ผ่านมา

นายใจ ได้วิพากษ์วิจารณ์การปาฐกถาของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเห็นว่า น่าผิดหวังมาก แต่ก็ไม่เคยตั้งความหวังอะไรอยู่แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เวลาพูดเรื่องความจงรักภักดี และพูดเรื่องตัวเองมากไป ไม่พูดถึงปัญหากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 เหมือนกับว่า รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และวิกฤตการเมืองที่ตามมาไม่ได้เกิดขึ้น กลับพูดว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งจะกลับไปยุคก่อนการรัฐประหารได้ง่าย โดยไม่ต้องแก้ไขโครงสร้างอำนาจนอกระบบ ไม่คำนึงถึงการพัฒนาก้าวหน้าทางการเมืองของคนเสื้อแดง ในขณะที่ทหารและพรรคประชาธิปัตย์ ค่อยๆ โกงการเลือกตั้ง และฝ่ายที่ทำรัฐประหารและทำลายรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ยังอยู่

อดีตนักวิชาการจากจุฬาฯ กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่พูดถึงความจำเป็นที่จะปฏิรูปทหารและระบบศาลอย่างถอนรากถอนโคน โดยปลดนายพล และผู้พิพากษา ที่ไม่ดีออกให้หมด ไม่พูดถึงความจำเป็นที่จะนำ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ.และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.มาลงโทษในเหตุการณ์สลายการชุมนุม ไม่พูดถึงแกนนำเสื้อแดงที่ยังติดคุก หรือได้ประกันแต่ยังติดคดี ประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่ในใจคนเสื้อแดง มีแต่การพูดถึงความฝันลอยๆ ว่า ถ้าชนะการเลือกตั้ง ทุกฝ่ายต้องเคารพเสียงประชาชน ไม่มีการอธิบายว่า ขบวนการเสื้อแดงมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวคู่ขนานนอกรัฐสภา เพื่อผลักดันการปฏิรูปให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยแท้จริงที่มีความเสมอภาค พ.ต.ท.ทักษิณ เกือบจะไม่พูดถึงเลย พูดถึงแต่พรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้ ถ้าขบวนการเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวได้คล่อง ต้องมีเสรีภาพในการรวมตัว และชุมนุม ซึ่งต้องขยายไปสู่เสรีภาพแท้ในการตั้งสหภาพแรงงานและการนัดหยุดงานอีกด้วย เรื่องที่เกี่ยวกับการเพิ่มอำนาจ และพลังให้ประชาชน ทักษิณไม่พูดถึง และต้องถือว่าเป็นจุดอ่อน ที่เป็นรูปธรรมใหม่มีแค่ข้อเสนอ “เมกะโปรเจกต์” เรื่องการทำเขื่อนในทะเลเพื่อปกป้องกรุงเทพฯ และสร้างเมืองใหม่ การพัฒนาลุ่มแม่น้ำต่างๆ การสร้างรถไฟไฟฟ้าและรถไฟสมัยใหม่ การสร้างทางผ่านระหว่างสองฝั่งทะเลภาคใต้ และโครงการพลังงานทางเลือกจากลม

นายใจ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาความยากจน มีแต่การเสนอนโยบายเก่าๆ เรื่องกองทุนหมู่บ้าน โดยเพิ่มทุน การพักหนี้ การพัฒนาคุณภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค การพัฒนา OTOP แต่ไม่มีข้อเสนออะไรใหม่ แบบคิดใหม่ทำใหม่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เช่น การพัฒนาไปสู่รัฐสวัสดิการเต็มรูปแบบ ไม่มีการเสนอการเก็บภาษีก้าวหน้าจากคนรวยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างงบประมาณของรัฐ และข้อเสนอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต้องให้ถึง 400 บาทต่อวัน ถึงจะพอเหมาะ

“แต่ปัญหาใหญ่ คือ การพัฒนาเศรษฐกิจไทยเพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ จะทำไม่ได้ภายใต้โครงสร้างการเมืองที่อำมาตย์คุมสังคม เราต้องปฏิวัติโครงสร้างอำนาจนี้ และต้องสร้างบรรยากาศเสรีภาพ ประชาธิปไตย และความเท่าเทียม แค่ชนะการเลือกตั้งในสภาจะไม่พอ ที่แย่คือ ไม่มีการเรียนรู้ทบทวนนโยบายผิดๆ เกี่ยวกับยาเสพติด ที่ไม่เคยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่เน้นนโยบายเก่าๆ ที่ใช้ความรุนแรง และการฆ่าวิสามัญโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งพวกนี้ก็เคยฆ่าประชาชนเสื้อแดงมือเปล่าอีกด้วย ในกรณีสงครามในภาคใต้ อย่างน้อยมีการยอมรับข้อผิดพลาดว่าเดิมเคยแรงไปหน่อย แต่เราต้องดูว่ามีรายละเอียดรูปธรรมอะไรเพื่อสร้างความเคารพต่อวิถีชีวิตของคนในพื้นที่” นายใจ ระบุ

ในตอนท้าย นายใจ กล่าวว่า ในความเห็นของตน พ.ต.ท.ทักษิณ หมดสภาพในการเป็นผู้นำทางความคิดสำหรับคนเสื้อแดง และในรอบสี่กว่าปีที่ผ่านมา คนเสื้อแดงพัฒนาความคิดของตนเองไปไกล ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่มีนโยบายใหม่พอที่จะครองใจประชาชนเสื้อแดง และประชาชนคนอื่นอย่างจริงจัง แต่พรรคประชาธิปัตย์ และเหล่าพรรคงูเห่าทั้งหลายยิ่งเลวกว่าอย่างมหาศาล

“คนเสื้อแดงคงต้องกัดฟันเลือกพรรคเพื่อไทยในปีนี้ แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องคิดหนักต่อไปว่า เราจะพัฒนาการเคลื่อนไหวของขบวนการเสื้อแดงอย่างไร ในรูปแบบที่อิสระจากพรรคเพื่อไทย และเราจะต้องคิดต่อว่าเราจะสร้างพรรคการเมืองของคนเสื้อแดงเองอย่างไรอีกด้วย ที่สำคัญเราจะต้องไม่ลืมว่า ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่สิ่งอัตโนมัติ เราต้องมีข้อเรียกร้องที่ชัดเจนและมีความหมาย เพื่อข้ามพ้นแค่ขั้นตอนการเลือกตั้ง ไม่ว่าฝ่ายอำมาตย์จะโกงได้หรือไม่” นายใจ ระบุ
บทความ “ทักษิณกับเพื่อไทย “ไปไม่ถึง” ในเรื่องนโยบายสำหรับอนาคต” ในเว็บไซต์ประชาไท
กำลังโหลดความคิดเห็น