xs
xsm
sm
md
lg

สร้างเสน่ห์-ประคองความสัมพันธ์ และทำอย่างไรเมื่อรักนั้นไปไม่รอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เดลิเมล์ – ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาแนะหากอยากให้อะไรๆ เป็นไปอย่างที่หวัง ต้องรู้จักวางเกมให้เป็น
ในหนังสือ ‘เก็ต ดิ เอดจ์’ นักจิตวิทยา เจฟฟ์ บีตตี้ จากสถานีทีวีช่อง 4 ของอังกฤษ ได้ร่ายเรียงกลวิธีอันแยบยลเพื่อความสำเร็จในด้านความสัมพันธ์และครอบครัว ดังยกตัวอย่างมาแสดงต่อไปนี้
**หลอกล่อแฟนเก็บกวาดบ้าน**
ทำให้บ้านอบอวลด้วยกลิ่นมะนาว เนื่องจากการศึกษาในเนเธอร์แลนด์พบว่า กลิ่นสามารถชักนำทั้งความคิดและพฤติกรรมของคนเรา โดยเมื่อนั่งในห้องเล็กๆ ที่มีกลิ่นมะนาวอ่อนๆ นักศึกษามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 3 เท่าที่จะใส่การทำความสะอาดในรายการภารกิจที่มีแผนจะทำ มากกว่านักศึกษาที่นั่งในห้องเล็กๆ ที่ไม่มีกลิ่นมะนาว
และเมื่อนักศึกษากลุ่มเดียวกันถูกพาไปยังอีกห้องและได้รับแจกคุกกี้ที่แตกง่าย คนที่ได้กลิ่นน้ำยาทำความสะอาดมีแนวโน้มมากกว่าที่จะเก็บเศษคุกกี้ที่ร่วงจากโต๊ะ
**ดูฉลาดโดยไม่ต้องอ้าปากพูด**
หากคุณต้องการดูฉลาดเฉลียวเมื่อพบคนแปลกหน้าครั้งแรก จงยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
เรามักให้คะแนนคนที่ยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติว่ามีเสน่ห์ เข้ากับคนง่ายและฉลาดกว่าคนที่ยิ้มแบบเสแสร้ง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเห็นคนยิ้มให้ เรามักอดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มตอบ
การยิ้มทำให้เรารู้สึกดีจึงกลายเป็นการสะท้อนบุคลิกที่ดีในสายตาคนอื่น
เรื่องนี้ค้นพบเป็นครั้งแรกโดยดูแชนน์ เดอ บูโลญจ์ นักกายวิภาคศาสตร์ชาวฝรั่งเศส กระทั่งมีคนเรียกรอยยิ้มจริงใจว่า ‘รอยยิ้มดูแชนน์’
ดูแชนน์สังเกตว่ารอยยิ้มจริงใจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณแก้มยกขึ้นและดึงผิวหนังเข้าหาดวงตา ทำให้ตาเล็กลงและมีรอยตีนกาปรากฏขึ้นที่หางตา
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาอีกหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าเราสามารถยกระดับไอคิวอย่างรวดเร็วด้วยการฟังเพลงของโมสาร์ต ซึ่งกระตุ้นระดับความตื่นตัวและทำให้อารมณ์ดี
**ปั้นลูกให้เรียนเก่ง**
ไม่ใช่ด้วยการสนับสนุนให้ลูกโชว์เดี่ยว แต่ควรทำงานเป็นกลุ่มร่วมกับเพื่อน
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า การทำงานเป็นกลุ่มช่วยให้เด็กพัฒนาวิชาความรู้จากการพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อน สร้างความไว้วางใจในผู้อื่น ที่ส่งผลบวกในด้านอารมณ์ระหว่างการทำงานร่วมกัน
**รู้ได้อย่างไรว่าใครโกหก**
คนพูดปดอาจเกาจมูก เนื่องจากขณะที่เราปั้นน้ำเป็นตัว สารเคมีที่ชื่อว่า catecholamines จะหลั่งออกมาในสมอง ทำให้เนื้อเยื่อภายในจมูกโป่งพองและความดันโลหิตสูงขึ้น จมูกจึงบานขึ้นเล็กน้อย และทำให้เกิดความรู้สึกแปลบปลาบที่ปลายประสาทในอวัยวะรับกลิ่นนี้ เราจึงต้องแตะหรือลูบจมูก
**สู้ตายแม้เจอปัญหาหนัก**
นักวิจัยพบว่า การกอดอกเชื่อมโยงกับทัศนคติในการมุ่งมั่น
เพียงกอดอกเมื่อต้องแก้ปัญหายาก เพียงเท่านี้จะทำให้คุณมีแนวโน้มกระตือรือร้นที่จะปฏิบัติภารกิจต่อไปจนกว่าจะลุล่วง
**ทำให้คนอื่นชอบโดยไม่เฉลียวใจ**
ใช้กลิ่นน้ำหอมบางๆ ที่คนอื่นอาจสูดดมกลิ่นโดยไม่รู้สึกตัว เพราะอย่างที่บอกไว้ว่ากลิ่นสามารถชักนำความคิดและพฤติกรรมได้
กลิ่นหอมบางๆ ทำให้คนอื่นตอบสนองเราในแง่บวก ระบบการรับรู้กลิ่นจะประมวลผลใกล้เคียงกับบริเวณที่ทำหน้าที่ประมวลผลอารมณ์ในสมอง (โดยที่คนๆ นั้นไม่รู้สึก)
**สร้างเสน่ห์มัดใจชาย**
การศึกษาหลายชิ้นระบุว่าการมองสีแดงเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ สามารถโน้มน้าวการให้คะแนนความมีเสน่ห์โดยที่คนๆ นั้นไม่รู้สึกตัว
ในโลกของลิง ร่างกายส่วนที่มีสีแดงของตัวเมียเป็นการส่งสัญญาณทางเพศอย่างชัดเจนที่ดึงดูดตัวผู้ และการศึกษามากมายได้ผลลัพธ์ในทำนองเดียวกันในมนุษย์
เพราะฉะนั้น อย่าลังเลที่จะหยิบรองเท้าหรือผ้าพันคอสีแดงมาแต่งแต้มเพิ่มสีสันและเสน่ห์บนตัวคุณ
**ไหวตัวทันเมื่อรักเริ่มร้าว**
ขอให้แฟนพูดถึงวันแรกรัก พวกคุณพบกันอย่างไร เดทแรกเป็นอย่างไร และงานแต่งงาน ถ้าเขา/เธอใช้คำว่า ‘เรา’ แสดงว่าชีวิตคู่ยังราบรื่นดีอยู่ แต่ถ้าเมื่อใดที่ใช้คำว่า ‘คุณ’ และ ‘ของคุณ’ แปลว่าลางร้ายเริ่มมาเยือน
การศึกษาของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ ระบุว่าคำว่า ‘คุณ’ และ ‘ของคุณ’ จะถูกใช้บ่อยๆ เพื่ออธิบายความสัมพันธ์เมื่อโฟกัสอยู่ที่การสร้างระยะห่างทางกายภาพต่ออีกฝ่าย แต่คู่ที่ยังผูกพันจะใช้คำว่า ‘เรา’ มากกว่า
**ประคองรักให้ยืนยาว**
ระวังตัวบ่อนทำลายความสัมพันธ์ ได้แก่ การวิจารณ์ การตั้งป้อม การหยามน้ำใจและการต้านทาน
เพื่อให้มั่นใจว่ารักครั้งนี้จะยืนยาว คุณจำเป็นต้องวิจารณ์และตั้งป้อมให้น้อยลง และหลีกเลี่ยงการดูหมิ่นดูแคลนอีกฝ่ายโดยเด็ดขาด
ถ้าเมื่อใดที่คิดว่าสงบปากไม่วิจารณ์ไม่ได้ ควรเติมอารมณ์ขันลงไปเพื่อให้คำวิจารณ์นั้นเบาลง
**อกหักไม่ยักกะตาย**
การร้องไห้น้ำตาแตกหลังความรักจบลงไม่ใช่วิธีเยียวยาอาการอกหักที่ได้ผล
แต่วิธีที่ดีกว่านั้นก็คือ เขียนถึงความสัมพันธ์และความหมายของความสัมพันธ์นั้นที่มีต่อคุณ
ในวันแรกให้เน้นช่วงเวลาก่อนแยกทาง ส่วนวันที่ 2 เขียนถึงช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์เริ่มมีปัญหา และวันสุดท้ายโฟกัสที่เหตุการณ์หลังรักล่มและความรู้สึกที่เกิดขึ้น
การเขียนความรู้สึกแบบนี้จะทำให้คุณได้ระบายออก ทำให้ความคิดที่เจ็บปวดบรรเทาลง
ทั้งนี้ มีหลักฐานชัดเจนว่าการเขียนความคิดในใจดีทั้งต่อร่างกายและจิตใจ เพราะกระตุ้นให้สมองหลั่งฮอร์โมนระงับความเครียดออกมา
กำลังโหลดความคิดเห็น