**ความสัมพันธ์การเมืองของ เนวิน ชิดชอบ –พรรคภูมิใจไทย กับ สนธยา คุณปลื้ม อดีตเลขาธิการพรรคชาติไทย บุตรชายคนโตของ สมชาย คุณปลื้ม หรือ “กำนันเป๊าะ” เหลือไว้แต่ในอดีตหลังจากที่ตระกูลคุณปลื้มตัดสินใจโบกมือลาภูมิใจไทย แบบไม่มีใครคาดถึง
แต่ก็ทิ้งท้ายว่า เป็นการจากกันด้วยดี ไม่มีด่าไล่หลัง แถมผูกใจบอกวันนี้ไปแล้ว แต่วันหน้าอาจได้ร่วมงานกัน
ครอบครัวอดีตเจ้าพ่อภาคตะวันออก ไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ในชื่อ “พลังชล” โดยส่งคนดอดไปจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา
เหตุผลอย่างเป็นทางการที่ สนธยา คุณปลื้ม อดีต รมว.ท่องเที่ยวฯ บอกถึงการแยกทางกับ เนวิน ก็คือการอ้างว่าที่ต้องออกมาทำพรรคการเมืองเอง เพราะมีเสียงเรียกร้องของชาวชลบุรี ที่ต้องการให้ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ทำพรรคของตัวเอง
แต่เหตุผลที่คนวงในกลุ่มชลบุรี ของสนธยา เล่าให้ฟังก็คือ เพราะในกลุ่มคุณปลื้ม รวมถึงลูกทีมชลบุรี และว่าที่ผู้สมัครส.ส.โซนตะวันออก ที่สนธยารับผิดชอบ เช่น จันทบุรี ระยอง ประเมินกันแล้วเห็นว่า หากใส่เสื้อภูมิใจไทยลงไปดวลกับคู่แข่งขัน ทั้งประชาธิปัตย์ ที่ครองแชมป์พื้นที่นี้อยู่ จากผลเลือกตั้งครั้งที่แล้ว หรือเพื่อไทย และอีกบางพรรคเช่น ชาติไทยพัฒนา
**ขืนดื้อดึงไปโอกาสจะซ้ำรอยพลาดท่าแบบปี 50 แน่ ซึ่งเลือกตั้งครั้งนั้น ขนาด จ.ชลบุรีที่เป็นพื้นที่ของตระกูลคุณปลื้มมาทุกยุคทุกสมัย ยังแพ้ให้ประชาธิปัตย์ยกจังหวัด สิ้นลาย ก็อดฟาเธอร์ ไปเลย
เพราะวันนี้จากการประเมินหยั่งเสียงคนชลบุรีแล้ว กระแสคนในพื้นที่ไม่เอา ยี้ห้อย-เนวิน แน่ เพราะดีแต่งาบ หากใส่เสื้อภูมิใจไทย ซึ่งก็คือการตีตราเป็นลิ่วล้อเนวิน ชิดชอบ นั่นเอง โอกาสจะพลาดท่า แพ้ยกจังหวัดอีกรอบสูงยิ่ง
ขณะเดียวกัน กระแสประชาธิปัตย์ ที่ดีแต่พูดในพื้นที่ชลบุรี แม้ว่าจะลดฮวบจากรอบที่แล้ว แต่เมื่อวัดเรตติ้งกันกับการให้เลือกระหว่างประชาธิปัตย์ หรือภูมิใจไทย ก็พบว่า คะแนนประชาธิปัตย์ ก็ยังกินห่างอยู่ดี
แถมไม่ได้แพ้แค่ประชาธิปัตย์ แต่ยังพบว่าหากยังดันทุรังใส่เสื้อภูมิใจไทย คะแนนอาจมาอันดับโหล่ ตามหลัง เพื่อไทย ที่มีฐานเสียง “แดงชลบุรี” เป็นกำลังหลัก ถือว่าเป็นแดงตะวันออกที่มีกลุ่มแฟนคลับเหนียวแน่นที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงให้กับทีมเพื่อไทยของ ศักดา นพสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และหัวหน้าทีมชลบุรีของเพื่อไทย เต็มร้อย
สำหรับประชาธิปัตย์รอบนี้ เสียงยวบไปมาก ดูท่าจะเหนื่อยไม่ใช่น้อย เพราะฐานเสียงคนเสื้อเหลืองในชลบุรี ที่เคยหนุนประชาธิปัตย์ จนทำให้ “เจ๊หมวย” อดีตแม่ยกพันธมิตรฯ พจนารถ แก้วผลึก นำทีมชลบุรีชนะยกจังหวัด แต่ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ แกนนำพันธมิตรฯ ชูธงทั่วประเทศ “โหวตโน”ทำให้เสียงของประชาธิปัตย์ที่เกินครึ่ง เป็นเสียงเสื้อเหลืองในชลบุรีย่อมลดยวบลงแน่ จึงทำให้โอกาสที่ประชาธิปัตย์จะแพ้เพราะถูกคู่แข่งเบียดขึ้นมา ก็มีสูง
**ด้วยเหตุเหล่านี้ สนธยา เลยต้องรีบปรับเปลี่ยนแทคติก หาทีมใหม่ลง เพราะรู้ดีว่า หากเลือกตั้งรอบนี้แพ้อีก มีหวังพื้นที่ชลบุรี กลุ่มคุณปลื้ม ฟื้นกลับมายากแล้ว หากแพ้เลือกตั้งสองสมัย เหมือนกับที่ อุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร ที่เมื่อแพ้เลือกตั้งที่ชลบุรี ติดๆ กัน ก็กลับมายากแล้ว จนถึงทุกวันนี้
อีกด้านหนึ่ง สนธยา ก็ห่วงอนาคตการเมืองของน้องชายสองคน ที่ทำการเมืองท้องถิ่นในเวลานี้คือ วิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และ อิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เหตุเพราะหากพื้นที่ชลบุรี ปล่อยให้พรรคอื่น-กลุ่มการเมืองอื่นเข้ามาตีเมืองขึ้นได้เรื่อยๆ อาณาจักรท้องถิ่นที่กลุ่ม คุณปลื้มไปทำไว้ ก็อาจโดนสอยร่วงได้ในวันหน้าเช่นกัน หากการเมืองระดับชาติไม่มีคนของตัวเองนั่งอยู่ในจังหวัดชลบุรี
** จะกลายเป็นว่า อำนาจ-บารมี ของกำนันเป๊าะที่สร้างไว้ทั้งในการเมืองระดับชาติ และท้องถิ่น จะหมดไปในยุคสามพี่น้อง “สนธยา-วิทยา-อิทธิพล”
หากว่าเลือกตั้งรอบนี้ ซุ้มชลบุรี ได้ส.ส.ในกำมือสัก 4-5 เสียง โดยไม่ได้อยู่ในซีกภูมิใจไทย ก็ย่อมมีโอกาสจะได้ร่วมรัฐบาลได้ทั้งกับขั้วเพื่อไทย และประชาธิปัตย์ เพราะถึงอย่างไร ตระกูลคุณปลื้ม ก็ต้องดูแลพื้นที่เลือกตั้งภาคตะวันออกให้ภูมิใจไทยอยู่แล้ว เงินก็ต้องจ่าย ต้องรับผิดชอบเป็นตัวหลัก บนเป้าหมายคือสัก 5 เสียงเป็นอย่างต่ำ
ถ้าเป็นแบบนี้ ทำไมไม่มาทำพรรคขนาดเล็กๆ ขายยี่ห้อคนชลบุรี สู้กับประชาธิปัตย์ กับเพื่อไทยให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย หลังเห็นความสำเร็จของทั้ง วิทยา-อิทธิพล ที่ตอนลงสมัครนายกฯอบจ. กับนายกเมืองพัทยาทั้งสองคนก็ใช้ชื่อ “กลุ่มเรารักชลบุรี” บอกความเป็นตัวตนคนชลบุรี ปรากฏว่า ชนะลอยลำ
แถมทำพรรคแล้วมีพรรคเป็นของตัวเอง คุมทุกอย่างเอง ไม่ต้องไปอยู่ใต้ปีกของ เนวิน ชิดชอบ –อนุทิน ชาญวีรกูล ในภูมิใจไทย แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เป็นศัตรูกัน ยังผูกสัมพันธ์กันเอาไว้ เสมือนหนึ่งเป็นสาขาของภูมิใจไทย ในภาคตะวันออก มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน แต่ที่ต้องจากลาก็ด้วยเหตุผลการเมืองในพื้นที่ซึ่งเรื่องแบบนี้ นักเลงด้วยกัน มองตาก็เข้าใจ ไม่มีถือโทษโกรธกัน เข้าทำนอง แยกกันเดิน ร่วมกันเมื่อเป้าหมายสำเร็จ
** อย่างไรก็ดี การมาทำพรรคของตัวเองแบบนี้ ทำให้สนธยา ปลดพันธนาการทางการเมืองออกไป ไม่ต้องล็อกตายตัวเองติดกับขั้วการเมืองอย่าง ชาติไทยพัฒนา-ภูมิใจไทย เพียงกลุ่มเดียว ชนิดไปไหนต้องไปด้วยกันอีกต่อไป
หากหลังเลือกตั้ง พรรคพลังชล หากทำได้ตามเป้า กลุ่มชลบุรี-สนธยา ก็ย่อมแทรกเข้าเป็นรัฐบาลได้กับเพื่อไทย หรือจะติดสอยห้อยตามลูกพี่เก่า บรรหาร ศิลปอาชา และ เพื่อนเนวิน ชิดชอบ ไปร่วมรัฐบาลกับประชาธิปัตย์ก็ยังไหว
** เข้าตำรา “เป็นหัวหมาดีกว่าเป็นหางราชสีห์”
แต่ก็ทิ้งท้ายว่า เป็นการจากกันด้วยดี ไม่มีด่าไล่หลัง แถมผูกใจบอกวันนี้ไปแล้ว แต่วันหน้าอาจได้ร่วมงานกัน
ครอบครัวอดีตเจ้าพ่อภาคตะวันออก ไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ในชื่อ “พลังชล” โดยส่งคนดอดไปจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา
เหตุผลอย่างเป็นทางการที่ สนธยา คุณปลื้ม อดีต รมว.ท่องเที่ยวฯ บอกถึงการแยกทางกับ เนวิน ก็คือการอ้างว่าที่ต้องออกมาทำพรรคการเมืองเอง เพราะมีเสียงเรียกร้องของชาวชลบุรี ที่ต้องการให้ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ทำพรรคของตัวเอง
แต่เหตุผลที่คนวงในกลุ่มชลบุรี ของสนธยา เล่าให้ฟังก็คือ เพราะในกลุ่มคุณปลื้ม รวมถึงลูกทีมชลบุรี และว่าที่ผู้สมัครส.ส.โซนตะวันออก ที่สนธยารับผิดชอบ เช่น จันทบุรี ระยอง ประเมินกันแล้วเห็นว่า หากใส่เสื้อภูมิใจไทยลงไปดวลกับคู่แข่งขัน ทั้งประชาธิปัตย์ ที่ครองแชมป์พื้นที่นี้อยู่ จากผลเลือกตั้งครั้งที่แล้ว หรือเพื่อไทย และอีกบางพรรคเช่น ชาติไทยพัฒนา
**ขืนดื้อดึงไปโอกาสจะซ้ำรอยพลาดท่าแบบปี 50 แน่ ซึ่งเลือกตั้งครั้งนั้น ขนาด จ.ชลบุรีที่เป็นพื้นที่ของตระกูลคุณปลื้มมาทุกยุคทุกสมัย ยังแพ้ให้ประชาธิปัตย์ยกจังหวัด สิ้นลาย ก็อดฟาเธอร์ ไปเลย
เพราะวันนี้จากการประเมินหยั่งเสียงคนชลบุรีแล้ว กระแสคนในพื้นที่ไม่เอา ยี้ห้อย-เนวิน แน่ เพราะดีแต่งาบ หากใส่เสื้อภูมิใจไทย ซึ่งก็คือการตีตราเป็นลิ่วล้อเนวิน ชิดชอบ นั่นเอง โอกาสจะพลาดท่า แพ้ยกจังหวัดอีกรอบสูงยิ่ง
ขณะเดียวกัน กระแสประชาธิปัตย์ ที่ดีแต่พูดในพื้นที่ชลบุรี แม้ว่าจะลดฮวบจากรอบที่แล้ว แต่เมื่อวัดเรตติ้งกันกับการให้เลือกระหว่างประชาธิปัตย์ หรือภูมิใจไทย ก็พบว่า คะแนนประชาธิปัตย์ ก็ยังกินห่างอยู่ดี
แถมไม่ได้แพ้แค่ประชาธิปัตย์ แต่ยังพบว่าหากยังดันทุรังใส่เสื้อภูมิใจไทย คะแนนอาจมาอันดับโหล่ ตามหลัง เพื่อไทย ที่มีฐานเสียง “แดงชลบุรี” เป็นกำลังหลัก ถือว่าเป็นแดงตะวันออกที่มีกลุ่มแฟนคลับเหนียวแน่นที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงให้กับทีมเพื่อไทยของ ศักดา นพสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และหัวหน้าทีมชลบุรีของเพื่อไทย เต็มร้อย
สำหรับประชาธิปัตย์รอบนี้ เสียงยวบไปมาก ดูท่าจะเหนื่อยไม่ใช่น้อย เพราะฐานเสียงคนเสื้อเหลืองในชลบุรี ที่เคยหนุนประชาธิปัตย์ จนทำให้ “เจ๊หมวย” อดีตแม่ยกพันธมิตรฯ พจนารถ แก้วผลึก นำทีมชลบุรีชนะยกจังหวัด แต่ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ แกนนำพันธมิตรฯ ชูธงทั่วประเทศ “โหวตโน”ทำให้เสียงของประชาธิปัตย์ที่เกินครึ่ง เป็นเสียงเสื้อเหลืองในชลบุรีย่อมลดยวบลงแน่ จึงทำให้โอกาสที่ประชาธิปัตย์จะแพ้เพราะถูกคู่แข่งเบียดขึ้นมา ก็มีสูง
**ด้วยเหตุเหล่านี้ สนธยา เลยต้องรีบปรับเปลี่ยนแทคติก หาทีมใหม่ลง เพราะรู้ดีว่า หากเลือกตั้งรอบนี้แพ้อีก มีหวังพื้นที่ชลบุรี กลุ่มคุณปลื้ม ฟื้นกลับมายากแล้ว หากแพ้เลือกตั้งสองสมัย เหมือนกับที่ อุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร ที่เมื่อแพ้เลือกตั้งที่ชลบุรี ติดๆ กัน ก็กลับมายากแล้ว จนถึงทุกวันนี้
อีกด้านหนึ่ง สนธยา ก็ห่วงอนาคตการเมืองของน้องชายสองคน ที่ทำการเมืองท้องถิ่นในเวลานี้คือ วิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และ อิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เหตุเพราะหากพื้นที่ชลบุรี ปล่อยให้พรรคอื่น-กลุ่มการเมืองอื่นเข้ามาตีเมืองขึ้นได้เรื่อยๆ อาณาจักรท้องถิ่นที่กลุ่ม คุณปลื้มไปทำไว้ ก็อาจโดนสอยร่วงได้ในวันหน้าเช่นกัน หากการเมืองระดับชาติไม่มีคนของตัวเองนั่งอยู่ในจังหวัดชลบุรี
** จะกลายเป็นว่า อำนาจ-บารมี ของกำนันเป๊าะที่สร้างไว้ทั้งในการเมืองระดับชาติ และท้องถิ่น จะหมดไปในยุคสามพี่น้อง “สนธยา-วิทยา-อิทธิพล”
หากว่าเลือกตั้งรอบนี้ ซุ้มชลบุรี ได้ส.ส.ในกำมือสัก 4-5 เสียง โดยไม่ได้อยู่ในซีกภูมิใจไทย ก็ย่อมมีโอกาสจะได้ร่วมรัฐบาลได้ทั้งกับขั้วเพื่อไทย และประชาธิปัตย์ เพราะถึงอย่างไร ตระกูลคุณปลื้ม ก็ต้องดูแลพื้นที่เลือกตั้งภาคตะวันออกให้ภูมิใจไทยอยู่แล้ว เงินก็ต้องจ่าย ต้องรับผิดชอบเป็นตัวหลัก บนเป้าหมายคือสัก 5 เสียงเป็นอย่างต่ำ
ถ้าเป็นแบบนี้ ทำไมไม่มาทำพรรคขนาดเล็กๆ ขายยี่ห้อคนชลบุรี สู้กับประชาธิปัตย์ กับเพื่อไทยให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย หลังเห็นความสำเร็จของทั้ง วิทยา-อิทธิพล ที่ตอนลงสมัครนายกฯอบจ. กับนายกเมืองพัทยาทั้งสองคนก็ใช้ชื่อ “กลุ่มเรารักชลบุรี” บอกความเป็นตัวตนคนชลบุรี ปรากฏว่า ชนะลอยลำ
แถมทำพรรคแล้วมีพรรคเป็นของตัวเอง คุมทุกอย่างเอง ไม่ต้องไปอยู่ใต้ปีกของ เนวิน ชิดชอบ –อนุทิน ชาญวีรกูล ในภูมิใจไทย แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เป็นศัตรูกัน ยังผูกสัมพันธ์กันเอาไว้ เสมือนหนึ่งเป็นสาขาของภูมิใจไทย ในภาคตะวันออก มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน แต่ที่ต้องจากลาก็ด้วยเหตุผลการเมืองในพื้นที่ซึ่งเรื่องแบบนี้ นักเลงด้วยกัน มองตาก็เข้าใจ ไม่มีถือโทษโกรธกัน เข้าทำนอง แยกกันเดิน ร่วมกันเมื่อเป้าหมายสำเร็จ
** อย่างไรก็ดี การมาทำพรรคของตัวเองแบบนี้ ทำให้สนธยา ปลดพันธนาการทางการเมืองออกไป ไม่ต้องล็อกตายตัวเองติดกับขั้วการเมืองอย่าง ชาติไทยพัฒนา-ภูมิใจไทย เพียงกลุ่มเดียว ชนิดไปไหนต้องไปด้วยกันอีกต่อไป
หากหลังเลือกตั้ง พรรคพลังชล หากทำได้ตามเป้า กลุ่มชลบุรี-สนธยา ก็ย่อมแทรกเข้าเป็นรัฐบาลได้กับเพื่อไทย หรือจะติดสอยห้อยตามลูกพี่เก่า บรรหาร ศิลปอาชา และ เพื่อนเนวิน ชิดชอบ ไปร่วมรัฐบาลกับประชาธิปัตย์ก็ยังไหว
** เข้าตำรา “เป็นหัวหมาดีกว่าเป็นหางราชสีห์”