วานนี้(11 เม.ย.) ที่อาคารวุฒิสภา 2 ได้มีบรรดาสมาชิกวุฒิสภา และข้าราชการวุฒิสภา ได้นำดอกกุหลาบแดงมามอบให้กำลังใจกับนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่ออำลาตำแหน่ง เนื่องจากนายประสพสุขหมดวาระการเป็นส.ว.สรรหาในวันที่ 12 เม.ย. ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ซึ่งส.ว.ร่วมกันร้องเพลง “ดอกไม้ให้คุณ”ด้วย
จากนั้นนายประสพสุข กล่าวว่า เมื่อกกต.รับรองรายชื่อส.ว.สรรหาใหม่แล้ว ตนก็ต้องพ้นจากหน้าที่ ดังนั้นขอลาสื่อและประชาชนทุกคน ซึ่งคิดว่า 3 ปีเศษที่ทำหน้าที่ประธานวุฒิสภามาอย่างน้อยที่สุดก็ได้เห็นว่าวุฒิสภาเป็นสถาบันที่ยังคงเป็นกลาง และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้
เมื่อถามว่าคิดว่าประธานวุฒิสภาคนใหม่ที่เข้ามาในสถานการณ์อย่างนี้ควรมีคุณสมบัติอย่างไร นายประสพสุข กล่าวว่า คงจะต้องรักษาความเป็นกลาง มีคุณธรรม จริยธรรม และต้องมีความสามารถที่จะประสานประโยชน์ในการดำเนินการให้ประเทศชาติและประชาชน ส่วนตัวบุคคลตนคิดว่าประธานวุฒิสภาคนใหม่น่าจะมาจากส.ว.เลือกตั้ง เพราะอย่างน้อย ส.ว.สรรหาที่กลับมาก็จะมีคนเก่าอยู่ด้วย และมีความสนิทกับส.ว.สายเลือกตั้งอยู่ ส่วนจะเป็นใครที่เหมาะสมเท่าที่ดูการเปิดตัวของ 3 บุคคลคือนายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี และนายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ก็ถือว่าเหมาะสมกันทั้งนั้น
เมื่อถามว่าหลังจากพ้นตำแหน่งแล้วจะไปทำอะไร นายประสพสุข กล่าวว่า จะไปสอนหนังสือ ช่วยเหลืองานสังคม จะไม่ทำงานทางการเมืองแล้ว เพราะทำมาถึง 3 ปีแล้ว
“อยากฝากส.ว.ที่มีอำนาจในการถอดถอนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และนักการเมืองที่มีพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งการทำงานที่ผ่านมาผมไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เพราะคณะกรรมาธิการควรจะต้องไปตรวจสอบแล้วทำเรื่องส่งปปช.แล้วให้รีบส่งกลับมา ซึ่งผมเคยประสานกับป.ป.ช.แล้วว่าถ้ามีเรื่องอย่างนี้ป.ป0ช.ต้องมีช่องทางพิเศษทำให้เสร็จภายใน 60 วัน แล้วส่งกลับมายังวุฒิ เพื่อที่จะได้ถอดถอนนักการเมืองออกจากตำแหน่งได้หากมีมูล ไม่ใช่ปล่อยเวลาให้นานออกไป และผมคิดว่าวุฒิสภาต้องเน้นหนักในเรื่องนี้ด้วยว่าใครทุจริตประพฤติมิชอบต้องถอดถอนและดำเนินคดีอาญาให้เห็นเป็นตัวอย่าง”นายประสพสุข กล่าว
ขณะที่การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือก ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งเป็นร่างกฎหมายสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ
ทั้งนี้ วุฒิสภาได้กำหนดวาระประชุม เพื่อเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ วันศุกร์ที่ 22 เม.ย.นี้ แต่วันที่ 11 เม.ย.นี้ ส.ว.เลือกตั้งนัดหมายคุยนอกรอบ หลังมีกระแสว่า ส.ว.สรรหาขอเข้าชิงตำแหน่งร่วมกับ ส.ว.เลือกตั้ง ซึ่งมีรายชื่อผู้เข้าสู่กระบวนการเลือกในที่ประชุมวุฒิสภา โดยรายชื่อ ส.ว.เลือกตั้งประกอบไปด้วย นายดิเรก ถึงฝั่ว ส.ว.นนทบุรี และนายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา ส่วน ส.ว.สรรหาคือ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะ 1 ใน 6 คณะกรรมการสรรหา ส.ว.กล่าวถึงการประชุมรับรอง ส.ว.สรรหา ว่า ที่ประชุม กกต.จะมีการประชุมเพื่อรับรอง ส.ว.สรรหาในวันที่ 12 เม.ย. เพราะในวันนี้นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ติดภารกิจ ส่วนกระแสข่าวที่มีการจ่ายเงินเพื่อล็อบบี้ในการคัดเลือก ส.ว.สรรหานั้น ตนยืนยันว่าไม่มีการล็อบบี้เกิดขึ้น และตนมั่นใจรายชื่อ ส.ว.73 ชื่อที่คณะกรรมการสรรหาคัดเลือกมาจะเป็นที่ยอมรับของประชาชน
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาส.ว. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวรายชื่อส.ว.สรรหาหลุดออกมานั้นว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่ตรงกับหลายรายชื่อ ขอให้อดใจรอ และยังคงยืนยันว่าคณะกรรมการสรรหาส.ว.นั้นสรรหาจากประวัติการทำงานและประสบการณ์ที่มีความหลากหลาย รวมถึงมีสัดส่วนผู้หญิงและผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการมากกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่จะพึงพอใจหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคน โดยในวันที่12 เม.ย. เวลา10.00 น. ก็จะนำรายชื่อส.ว. ที่ได้รับการสรรหาเข้าที่ประชุมกกต.เพื่อรับรอง หลังจากนั้นก็จะเปิดเผยรายชื่อในช่วงบ่าย พร้อมทั้งให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อมารับใบรับรองเพื่อนำไปแสดงต่อประธานวุฒิสภาต่อไป
สำหรับเรื่องการวิ่งเต้นล็อบบี้รายชื่อส.ว. นั้นจากการที่ตนได้เข้าร่วมประชุมทุกครั้งยืนยันว่าคณะกรรมการทุกคนดำเนินการตามขั้นตอนที่มีระบบ รวมถึงมีการตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่างๆขึ้นมา ซึ่งไม่มีใครสามารถมาสั่งได้ เพราะขั้นตอนทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย
“ข่าววิ่งเต้นมีทุกครั้งในทุกวงการที่มีการเสนอชื่อคนมากกว่าจำนวนตำแหน่งที่ต้องการ หากรายชื่ออกมาแล้วมีผู้ที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม กฎหมายก็เปิดช่องร้องเรียนไว้ หากกกต.พิจารณาแล้วมีข้อเท็จจริงที่ส่อให้เห็นว่าการสรรหาส.ว.ครั้งนี้ไม่เป็นธรรมก็จะดำเนินการตามขั้นตอน ทางกกต.ก็จะนำคำร้องดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาต่อไป”
จากนั้นนายประสพสุข กล่าวว่า เมื่อกกต.รับรองรายชื่อส.ว.สรรหาใหม่แล้ว ตนก็ต้องพ้นจากหน้าที่ ดังนั้นขอลาสื่อและประชาชนทุกคน ซึ่งคิดว่า 3 ปีเศษที่ทำหน้าที่ประธานวุฒิสภามาอย่างน้อยที่สุดก็ได้เห็นว่าวุฒิสภาเป็นสถาบันที่ยังคงเป็นกลาง และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้
เมื่อถามว่าคิดว่าประธานวุฒิสภาคนใหม่ที่เข้ามาในสถานการณ์อย่างนี้ควรมีคุณสมบัติอย่างไร นายประสพสุข กล่าวว่า คงจะต้องรักษาความเป็นกลาง มีคุณธรรม จริยธรรม และต้องมีความสามารถที่จะประสานประโยชน์ในการดำเนินการให้ประเทศชาติและประชาชน ส่วนตัวบุคคลตนคิดว่าประธานวุฒิสภาคนใหม่น่าจะมาจากส.ว.เลือกตั้ง เพราะอย่างน้อย ส.ว.สรรหาที่กลับมาก็จะมีคนเก่าอยู่ด้วย และมีความสนิทกับส.ว.สายเลือกตั้งอยู่ ส่วนจะเป็นใครที่เหมาะสมเท่าที่ดูการเปิดตัวของ 3 บุคคลคือนายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี และนายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ก็ถือว่าเหมาะสมกันทั้งนั้น
เมื่อถามว่าหลังจากพ้นตำแหน่งแล้วจะไปทำอะไร นายประสพสุข กล่าวว่า จะไปสอนหนังสือ ช่วยเหลืองานสังคม จะไม่ทำงานทางการเมืองแล้ว เพราะทำมาถึง 3 ปีแล้ว
“อยากฝากส.ว.ที่มีอำนาจในการถอดถอนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และนักการเมืองที่มีพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งการทำงานที่ผ่านมาผมไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เพราะคณะกรรมาธิการควรจะต้องไปตรวจสอบแล้วทำเรื่องส่งปปช.แล้วให้รีบส่งกลับมา ซึ่งผมเคยประสานกับป.ป.ช.แล้วว่าถ้ามีเรื่องอย่างนี้ป.ป0ช.ต้องมีช่องทางพิเศษทำให้เสร็จภายใน 60 วัน แล้วส่งกลับมายังวุฒิ เพื่อที่จะได้ถอดถอนนักการเมืองออกจากตำแหน่งได้หากมีมูล ไม่ใช่ปล่อยเวลาให้นานออกไป และผมคิดว่าวุฒิสภาต้องเน้นหนักในเรื่องนี้ด้วยว่าใครทุจริตประพฤติมิชอบต้องถอดถอนและดำเนินคดีอาญาให้เห็นเป็นตัวอย่าง”นายประสพสุข กล่าว
ขณะที่การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือก ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งเป็นร่างกฎหมายสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ
ทั้งนี้ วุฒิสภาได้กำหนดวาระประชุม เพื่อเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ วันศุกร์ที่ 22 เม.ย.นี้ แต่วันที่ 11 เม.ย.นี้ ส.ว.เลือกตั้งนัดหมายคุยนอกรอบ หลังมีกระแสว่า ส.ว.สรรหาขอเข้าชิงตำแหน่งร่วมกับ ส.ว.เลือกตั้ง ซึ่งมีรายชื่อผู้เข้าสู่กระบวนการเลือกในที่ประชุมวุฒิสภา โดยรายชื่อ ส.ว.เลือกตั้งประกอบไปด้วย นายดิเรก ถึงฝั่ว ส.ว.นนทบุรี และนายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา ส่วน ส.ว.สรรหาคือ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะ 1 ใน 6 คณะกรรมการสรรหา ส.ว.กล่าวถึงการประชุมรับรอง ส.ว.สรรหา ว่า ที่ประชุม กกต.จะมีการประชุมเพื่อรับรอง ส.ว.สรรหาในวันที่ 12 เม.ย. เพราะในวันนี้นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ติดภารกิจ ส่วนกระแสข่าวที่มีการจ่ายเงินเพื่อล็อบบี้ในการคัดเลือก ส.ว.สรรหานั้น ตนยืนยันว่าไม่มีการล็อบบี้เกิดขึ้น และตนมั่นใจรายชื่อ ส.ว.73 ชื่อที่คณะกรรมการสรรหาคัดเลือกมาจะเป็นที่ยอมรับของประชาชน
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาส.ว. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวรายชื่อส.ว.สรรหาหลุดออกมานั้นว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่ตรงกับหลายรายชื่อ ขอให้อดใจรอ และยังคงยืนยันว่าคณะกรรมการสรรหาส.ว.นั้นสรรหาจากประวัติการทำงานและประสบการณ์ที่มีความหลากหลาย รวมถึงมีสัดส่วนผู้หญิงและผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการมากกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่จะพึงพอใจหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคน โดยในวันที่12 เม.ย. เวลา10.00 น. ก็จะนำรายชื่อส.ว. ที่ได้รับการสรรหาเข้าที่ประชุมกกต.เพื่อรับรอง หลังจากนั้นก็จะเปิดเผยรายชื่อในช่วงบ่าย พร้อมทั้งให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อมารับใบรับรองเพื่อนำไปแสดงต่อประธานวุฒิสภาต่อไป
สำหรับเรื่องการวิ่งเต้นล็อบบี้รายชื่อส.ว. นั้นจากการที่ตนได้เข้าร่วมประชุมทุกครั้งยืนยันว่าคณะกรรมการทุกคนดำเนินการตามขั้นตอนที่มีระบบ รวมถึงมีการตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่างๆขึ้นมา ซึ่งไม่มีใครสามารถมาสั่งได้ เพราะขั้นตอนทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย
“ข่าววิ่งเต้นมีทุกครั้งในทุกวงการที่มีการเสนอชื่อคนมากกว่าจำนวนตำแหน่งที่ต้องการ หากรายชื่ออกมาแล้วมีผู้ที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม กฎหมายก็เปิดช่องร้องเรียนไว้ หากกกต.พิจารณาแล้วมีข้อเท็จจริงที่ส่อให้เห็นว่าการสรรหาส.ว.ครั้งนี้ไม่เป็นธรรมก็จะดำเนินการตามขั้นตอน ทางกกต.ก็จะนำคำร้องดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาต่อไป”