00 นาทีนี้หลังจากวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับก็จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งเต็มรูปแบบ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นก็จะถือว่าเป็นการ “นับถอยหลัง” เลือกตั้ง ส่วนหลังจากนั้นผลจะออกมาแบบไหน ก็สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เพราะนี่คือนาทีทองของพวก “นักลงทุน” ทางการเมือง ที่จะแข่งขันกันโกงหรือเอาเปรียบฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้ตัวเองและพวกของตัวเองได้เข้ามามากที่สุด
00 ประกาศกันอย่างชัดเจนกันตั้งแต่เนิ่นๆก็คือ “ไอ้เหลี่ยมจัด” ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะใช้การเลือกตั้งเที่ยวนี้เป็นไปเบิกทางเพื่อนำไปสู่การ “นิรโทษกรรม” ลบล้างความผิดของตัวเอง ที่เป็นความผิดเกี่ยวกับคดีอาญา คดี “โกง” ทั้งหลายแหล่ ที่ศาลตัดสินจำคุกไปแล้วรวมทั้งที่ยังคาราคาซังอยู่ในศาลอีกเป็นพรวน หมายมั่นปั้นมือว่าถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเที่ยวนี้ตัวเองก็จะพ้นความผิดเสียที “ฝันหวาน” ไว้อย่างนั้น
00 ขณะที่ฟาก “มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็หวังว่าใช้วิธีการ “ยุบสภา” เพื่อหยุดยั้งเสียงโห่เสียงไล่ของพวกเสื้อแดงลูกน้องของ “ไอ้เหลี่ยมจัด” เพราะเชื่อว่าถ้าพอประกาศยุบล่วงหน้าจะทำให้ “เกมเผาเมือง” แบบ “แฮตทริก” สามปีติดต่อกันต้องพับไปชั่วคราว ขณะเดียวกันยัง “ชิ่งหนี” พวก “เสื้อเหลือง” ที่กำลังเอาจริงเอาจังกับการ “เปิดโปง” ความห่วยแตก “ดีแต่พูด” แบบรายวัน จากนั้นก็ใช้วิธีการเลือกตั้งเป็นตัวตัดสิน หวังว่าความเป็น “นักโต้วาที” ตัวฉกาจจะทำให้พาปชป.ชนะเลือกตั้งกลับมาเป็นรัฐบาลอีกรอบ
00 ทั้งสองฝ่ายไม่ว่า “แม้ว” หรือ “มาร์ค” ล้วนตั้งความหวังกับการเลือกตั้งคราวนี้มาก เพราะมีผลต่ออนาคตของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง โดยคนพวกนี้คิดว่าการเลือกตั้งคือ “ทุกสิ่ง” ใช้ฟอกดำให้เป็นขาวได้ คิดว่าถ้าชนะเลือกตั้งแล้วนั่นก็หมายความว่าความผิดจะลบล้างไปได้ คิดว่าใช้หลอก “คนโง่ๆ” ได้บางกลุ่มเท่านั้น เมื่อรูปการณ์จะออกมาอย่างที่เห็นก็อย่าได้แปลกใจที่แนวโน้มกระแส “โนโหวต” หรือ “ไม่เลือกใคร” จึงเริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ
00 ขณะเดียวกันหากมองอีกมุมหนึ่งทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งเที่ยวนี้จะเห็นสัญญาณอันตรายที่กำลังก่อตัว หากโฟกัสเอาเฉพาะ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เพราะถ้าพ่ายแพ้คนพวกนี้ก็เตรียม “ป่วน” เอาไว้แล้ว เพราะมีการวางหมากเอาไว้ล่วงหน้าทั้งการสร้างเรื่องว่า ถูกโกง ถูกเอาเปรียบ หรือมีการใช้อำนาจพิเศษเข้าแทรกแซง ซึ่งจำเลยที่ถูกกล่าวหาตั้งธงเอาไว้ก่อนแล้วก็คือ “อำมาตย์” เจ้าเก่านั่นเอง ซึ่งสัญญาณที่ว่านี้ได้รับการถ่ายทอดมาจาก “ไอ้ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ คาดว่าจะตอกย้ำให้ถี่ขึ้นๆ เพื่อให้สมจริง
00 อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้ทางฟากเพื่อไทยเริ่มโหมโจมตีกองทัพ โดยเฉพาะพุ่งเป้ามาที่กองทัพบกเป็นหลัก เพราะเชื่อว่านี่คือ “การบล็อก” ทหารให้อยู่กับที่ ใช้วิธี “โวยวาย”กลางตลาดเอาไว้ก่อน จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ถึงอย่างไรก็ใช่ว่าจะไม่มีมูลเสียทีเดียว เพราะงานนี้ “เดิมพันสูง” กันทั้งสองฝ่าย เพราะถ้าเพื่อแม้ว “ชนะไม่ขาด” มันก็ “กร่าง” ได้ไม่มาก ซึ่งแนวโน้มจะออกมาแนว “สูสี” เสียด้วย ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้กำลังมีเสียงให้ทำสัตยาบันยอมรับพรรคชนะที่หนึ่งได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล
00 แต่ถึงอย่างไร คนที่ต้องรับงานหนัก ตกเป็นขี้ปากมากหน่อยก็คงหนีไม่พ้น ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่นอน เพราะในความเป็นจริง ไม่ว่าออกหัวหรือก้อยตัวเองก็มี “ความเสี่ยง” ใช่เล่นเหมือนกัน !!
00 ประกาศกันอย่างชัดเจนกันตั้งแต่เนิ่นๆก็คือ “ไอ้เหลี่ยมจัด” ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะใช้การเลือกตั้งเที่ยวนี้เป็นไปเบิกทางเพื่อนำไปสู่การ “นิรโทษกรรม” ลบล้างความผิดของตัวเอง ที่เป็นความผิดเกี่ยวกับคดีอาญา คดี “โกง” ทั้งหลายแหล่ ที่ศาลตัดสินจำคุกไปแล้วรวมทั้งที่ยังคาราคาซังอยู่ในศาลอีกเป็นพรวน หมายมั่นปั้นมือว่าถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเที่ยวนี้ตัวเองก็จะพ้นความผิดเสียที “ฝันหวาน” ไว้อย่างนั้น
00 ขณะที่ฟาก “มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็หวังว่าใช้วิธีการ “ยุบสภา” เพื่อหยุดยั้งเสียงโห่เสียงไล่ของพวกเสื้อแดงลูกน้องของ “ไอ้เหลี่ยมจัด” เพราะเชื่อว่าถ้าพอประกาศยุบล่วงหน้าจะทำให้ “เกมเผาเมือง” แบบ “แฮตทริก” สามปีติดต่อกันต้องพับไปชั่วคราว ขณะเดียวกันยัง “ชิ่งหนี” พวก “เสื้อเหลือง” ที่กำลังเอาจริงเอาจังกับการ “เปิดโปง” ความห่วยแตก “ดีแต่พูด” แบบรายวัน จากนั้นก็ใช้วิธีการเลือกตั้งเป็นตัวตัดสิน หวังว่าความเป็น “นักโต้วาที” ตัวฉกาจจะทำให้พาปชป.ชนะเลือกตั้งกลับมาเป็นรัฐบาลอีกรอบ
00 ทั้งสองฝ่ายไม่ว่า “แม้ว” หรือ “มาร์ค” ล้วนตั้งความหวังกับการเลือกตั้งคราวนี้มาก เพราะมีผลต่ออนาคตของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง โดยคนพวกนี้คิดว่าการเลือกตั้งคือ “ทุกสิ่ง” ใช้ฟอกดำให้เป็นขาวได้ คิดว่าถ้าชนะเลือกตั้งแล้วนั่นก็หมายความว่าความผิดจะลบล้างไปได้ คิดว่าใช้หลอก “คนโง่ๆ” ได้บางกลุ่มเท่านั้น เมื่อรูปการณ์จะออกมาอย่างที่เห็นก็อย่าได้แปลกใจที่แนวโน้มกระแส “โนโหวต” หรือ “ไม่เลือกใคร” จึงเริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ
00 ขณะเดียวกันหากมองอีกมุมหนึ่งทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งเที่ยวนี้จะเห็นสัญญาณอันตรายที่กำลังก่อตัว หากโฟกัสเอาเฉพาะ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เพราะถ้าพ่ายแพ้คนพวกนี้ก็เตรียม “ป่วน” เอาไว้แล้ว เพราะมีการวางหมากเอาไว้ล่วงหน้าทั้งการสร้างเรื่องว่า ถูกโกง ถูกเอาเปรียบ หรือมีการใช้อำนาจพิเศษเข้าแทรกแซง ซึ่งจำเลยที่ถูกกล่าวหาตั้งธงเอาไว้ก่อนแล้วก็คือ “อำมาตย์” เจ้าเก่านั่นเอง ซึ่งสัญญาณที่ว่านี้ได้รับการถ่ายทอดมาจาก “ไอ้ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ คาดว่าจะตอกย้ำให้ถี่ขึ้นๆ เพื่อให้สมจริง
00 อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้ทางฟากเพื่อไทยเริ่มโหมโจมตีกองทัพ โดยเฉพาะพุ่งเป้ามาที่กองทัพบกเป็นหลัก เพราะเชื่อว่านี่คือ “การบล็อก” ทหารให้อยู่กับที่ ใช้วิธี “โวยวาย”กลางตลาดเอาไว้ก่อน จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ถึงอย่างไรก็ใช่ว่าจะไม่มีมูลเสียทีเดียว เพราะงานนี้ “เดิมพันสูง” กันทั้งสองฝ่าย เพราะถ้าเพื่อแม้ว “ชนะไม่ขาด” มันก็ “กร่าง” ได้ไม่มาก ซึ่งแนวโน้มจะออกมาแนว “สูสี” เสียด้วย ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้กำลังมีเสียงให้ทำสัตยาบันยอมรับพรรคชนะที่หนึ่งได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล
00 แต่ถึงอย่างไร คนที่ต้องรับงานหนัก ตกเป็นขี้ปากมากหน่อยก็คงหนีไม่พ้น ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่นอน เพราะในความเป็นจริง ไม่ว่าออกหัวหรือก้อยตัวเองก็มี “ความเสี่ยง” ใช่เล่นเหมือนกัน !!
