xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊สด”จิตป่วนปูดข่าวเพี้ยน โกธร “กกต.”ยุทหารปฏิวัติ!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"จากการพูดคุยกับคนอื่นรวมทั้งทหารก็มีการพูดถึงว่าทหารมีตัวแล้วว่าจะเป็นใคร ก็มีความรู้สึกว่าขนาดนี้เชียวเหรอ ไม่อยากพูดนะว่าใครที่เราได้ไปคุยด้วย จะมีรัฐบาลที่ตั้งขึ้นตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญเชียวเหรอ
เราถามว่าถ้าทหารปฏิวัติเสื้อแดงจะหือไหม แน่นอนรบกันเลย ถามว่าใครจะเป็นเหยื่อ เหยื่อก็คือพวกเรา ประชาชนต้องตายกัน มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าใช้ปฏิวัติเงียบก็ต้องใช้อาวุธ ใช้รถถังกัน เชื่อว่าการปฏิวัติครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ข่าวที่ได้ยินมาถึงขนาดมีการวางตัวกันไว้แล้วว่า ใครจะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ กลุ่มที่ได้คุยเป็นทหารก็มีการคุยกันเตือนว่าอย่าทำกันอย่างนี้ เพราะเป็นคนชอบไปนั่งคุย แต่คุยแล้วก็มีข่าวในลักษณะนี้มาตลอด จากที่คุยกับทหารน่าจะเป็นปฏิวัติเงียบ”
ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดข้างต้นจะออกจากปากของคนมีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง แต่พอเห็นชื่อ “สดศรี สัตยธรรม” เป็นคนให้ข่าวก็ไม่แปลกใจ เพราะพฤติกรรมของเธอบิดเบี้ยว ผิดเพี้ยนไม่สมกับการทำหน้าที่ในองค์กรอิสระมาระยะหนึ่งแล้ว
เพราะในขณะที่บ้านเมืองกำลังเดินไปข้างหน้า กองทัพซึ่งถูกวาดภาพให้เป็นจำเลยของประชาธิปไตยมาตลอดประวัติศาสตร์การผลัดแผ่นดิน จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นระบอบประชาธิปไตย ต่างก็ยืนยันหนักแน่นว่าไม่คิดเดินซ้ำรอยกงล้อประวัติศาสตร์ ฉุดกระชากลากถูให้การพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศต้องสะดุดหยุดลง
มีแต่ “สดศรี” ที่ออกมากวนน้ำให้ขุ่น ด้วยการท่องคาถาแบบคนแผ่นเสียงตกร่องว่า “จะมีการทุจริตเลือกตั้ง การเลือกตั้งจะไม่เกิด จะมีการปฏิวัติ”
ตีโพยตีพาย ไม่ต่างไปจากคนจิตหลอน ประสาทผวา หากเป็นอาการของประชาชนธรรมดาก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เมื่อมันถูกแสดงออกโดย กกต. ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการเป็นกลไกหนึ่งที่จะพัฒนาระบอบประชาธิปไตยไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง และยั่งยืน ก็นับเป็นเรื่องที่สมควรประณามอย่างยิ่ง
บ้านเมืองของเราก้าวสู่ปากเหวแห่งความหายนะอย่างในปัจจุบัน ก็เป็นเพราะแต่ละฝ่ายไม่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มกำลัง “สดศรี” เป็นตัวอย่างไม่ดีที่ทำให้สังคมไทยได้รู้เช่นเห็นชาติคนประเภทอยากมีตำแหน่งแต่ไม่พร้อมรับผิดชอบต่อหน้าที่
แถมยังเป็นประเภท “เพื่อนเราเผาเรือน” อีกต่างหาก
เพราะในบทสัมภาษณ์ที่เธอออกมาปูดเรื่องปฏิวัติเงียบนั้น ยังมีหลายถ้อยคำที่สะท้อนสภาพจิตใจที่เธอมีต่อองค์กรที่เธอสังกัดว่าเป็นอย่างไร เพราะบางคำพูดชัดเจนถึงขั้นให้มีการยุบ กกต.ทิ้งเสียหลังการปฏิวัติ นั่นแสดงให้เห็นว่า เธอคงมีปัญหาไม่น้อยในการทำงานร่วมกับ กกต.อีก 4 คน แต่นั่นไม่ได้มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้เธอนำมาเป็นข้ออ้างว่า องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งนี้สมควรถูกยุบ
เพราะสำหรับคนที่มีหน้าที่ใต้ร่มเงา “สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง” จะต้องทำทุกวิถีทางที่จะพัฒนาองค์กรของตัวเองให้ปฏิบัติภารกิจตอบสนองให้ตรงตามเจตนารมย์แห่งรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่พอเข้าไปทำแล้วไม่ได้ดั่งใจก็ยุบมันทิ้งเสีย ทั้งๆ ที่หลักการที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้กำเนิดองค์กรนี้ขึ้นมาก็เพื่อทำหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งให้เกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรม
หากคนที่เข้าไปรับผิดชอบทำไม่สำเร็จ ก็ไม่ได้เป็นความผิดขององค์กร แต่เป็นสิ่งที่บุคลากรในองค์กรนั้นต้องร่วมกันทบทวนถึงสาเหตุที่ทำให้งานไม่สัมฤทธิ์ผล และเร่งรัดแก้ไขเพื่อให้การทำงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ใช่ออกมาตีอกชกหัวตัวเองอย่างที่ “สดศรี” กำลังทำอยู่
พฤติกรรมของ “สดศรี” ที่ถูกเปรียบเทียบว่าไม่อยู่กับร่องกับรอย เสมือนหญิงวัยทองนั้น ดูจะน้อยเกินไป เพราะมันได้ก้าวข้ามความเป็นหญิงวัยทองไปจนใกล้เคียง คนจิตบกพร่อง เข้าไปทุกขณะ
ถ้าการเป็น กกต. มันทำให้ไร้สุข เป็นทุกข์ เพราะกะเพาะปัสสาวะอักเสบตามที่ “สดศรี” ออกมาครวญคราง ก็ขอแนะนำว่า ไม่เพียงแต่เธอต้องลาออกจากการเป็น กกต. ทันที โดยไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปเสนอหน้าสมัครขอทำหน้าที่ในองค์กรอิสระแห่งอื่น
แต่สิ่งที่เธอควรทำคือ เดินทางไปตรวจสุขภาพจิตของตัวเอง ขอยาระงับประสาทจากแพทย์กิน จะได้หยุดป่วนชาติ หยุดความขลาดในการทำหน้าที่ หยุดการกระทำที่ไร้วุฒิภาวะต่างๆ แล้วเดินรี่เข้าโรงพยาบาล หาหมอที่ถูกกับโรคเยียวยา น่าจะเป็นช่องทางที่เหมาะสมสำหรับ “สดศรี”
ขอยกตัวอย่างจากเรื่องจริงในวงการตุลาการ ที่เล่าต่อกันมาว่า ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เพียงตัวเองจะเป็นผู้พิพากษา แต่คู่ชีวิตก็มีตำแหน่งอันทรงเกียรติเป็นถึงผู้พิพากษาด้วยเช่นเดียวกัน วันดีคืนดี เมียเกิดโกรธจัด หยุดยั้งอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ในขณะที่ฝ่ายสามีกำลังต้องขึ้นนั่งบัลลังก์พิจารณาอรรถคดี
ใครจะเชื่อว่า เมียที่เป็นผู้พิพากษาเหมือนกันจะใช้วิธีขโมยชุดครุยที่สามีต้องสวมใส่ออกทำหน้าที่ไปซ่อน จนเป็นที่ฮือฮาในแวดวงตุลาการมาแล้ว
น่าห่วงว่า พฤติกรรมไร้วุฒิภาวะเยี่ยงนี้ เมื่อเคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนก็สามารถเกิดซ้ำได้ไม่ยากนัก เพียงแต่จะถูกแสดงออกในรูปแบบไหนเท่านั้น
ถ้าอยากรู้ว่าชุดครุยถูกนำไปซุกไว้ที่ไหน ก็ลองถาม “สดศรี” ดู ไม่แน่เธออาจจะพอจำได้ เพราะอยู่ในแวดวงตุลาการมาก่อน น่าจะรู้เรื่องฮ็อตหลังบัลลังก์นี้เป็นอย่างดี!
ส่วนจะเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระที่กำลังมาเกิดซ้ำหรือไม่ คงต้องติดตาม เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ล้มหายตายจากไปตามวาระ แต่กำลังฮ็อตอยู่ในหน่วยงานของรัฐขณะนี้ วันดีคืนดีความบ้ามาเยือนหนักๆ ก็อาจจะทำเรื่องเพี้ยนๆ ขึ้นมาอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น