วานนี้ ( 5 เม.ย.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต.ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.สรรหา) กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหาส.ว.ที่คณะกรรมการฯเริ่มทำการสรรหาแล้วเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ประธานคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ได้นำเสนอข้อมูลที่ได้มีการตรวจสอบอย่างครบถ้วนให้กับคณะกรรมการสรรหา และทางคณะกรรมการสรรหาได้มีการพิจารณา ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจาคภาควิชาการเป็นลำดับแรกตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งได้มีการลงมติไปแล้ว โดยจะมีการสรรหาภาครัฐต่อในวันนี้ และคาดว่าจะสามารถสรรหาครบทุกภาคได้แล้วเสร็จ 10 เม.ย. นี้ จากนั้นจะส่งรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาให้กับกกต. พิจารณารับทราบก่อนดำเนินการตามกระบวนการ พร้อมกับจะประกาศให้สาธารณชนทราบก่อนวันที่ 13 เม.ย.
ทั้งนี้สัดส่วนของการสรรหาส.ว.ภาครัฐและภาควิชาการ คณะกรรมการสรรหาจะสรรหาภาคละ 14 คน เนื่องจากเป็น 2 ภาคที่มีผู้ถูกเสนอชื่อน้อยกว่า 3 ภาค คือภาคเอกชน ภาควิชาชีพ และภาคอื่น ที่คณะกรรมการสรรหาจะสรรหาภาคละ 15 คน รวมจะมีส.ว.สรรหา 73 คน
นายสุทธิพล กล่าวยืนยันถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาส.ว.ว่า เป็นไปด้วยความโปร่งใส ซึ่งทุกคนเป็นประมุขขององค์กร มีการคานอำนาจกันอยู่แล้ว และต้องมีความระมัดระวังในการทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซง หรือมีมือที่มองไม่เห็นมาล็อบบี้ อย่างที่มีการตั้งข้อสังเกต ส่วนถ้าเห็นใครมีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง หรือมองว่ากระบวนการไม่ชอบก็สามารถร้องเข้ามาที่กกต.ได้ โดยกกต.สามารถพิจารณาเรื่องกระบวนการได้ แต่พิจารณาเรื่องดุลยพินิจไม่ได้
“ขณะนี้มีการแข็งขันกันสูง รวมทั้งยังมีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ขนาดระมัดระวังอย่างมากก็ยังมีข่าวลือออกมาว่ามีการล็อกสเป็ก ผมยืนยันว่าคณะกรรมการสรรหาส.ว.ได้มีการพิจารณากันอย่างรอบคอบ โปร่งใส และคำนึงถึงความเหมาะสม ของความรู้ ความสามารถ สัดส่วนความเท่าเทียมกัน ทั้งในสัดส่วนของผู้หญิง ผู้ชาย ผู้ด้วยโอกาสทางสังคม และความหลากหลายทางอาชีพ”
ทั้งนี้สัดส่วนของการสรรหาส.ว.ภาครัฐและภาควิชาการ คณะกรรมการสรรหาจะสรรหาภาคละ 14 คน เนื่องจากเป็น 2 ภาคที่มีผู้ถูกเสนอชื่อน้อยกว่า 3 ภาค คือภาคเอกชน ภาควิชาชีพ และภาคอื่น ที่คณะกรรมการสรรหาจะสรรหาภาคละ 15 คน รวมจะมีส.ว.สรรหา 73 คน
นายสุทธิพล กล่าวยืนยันถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาส.ว.ว่า เป็นไปด้วยความโปร่งใส ซึ่งทุกคนเป็นประมุขขององค์กร มีการคานอำนาจกันอยู่แล้ว และต้องมีความระมัดระวังในการทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซง หรือมีมือที่มองไม่เห็นมาล็อบบี้ อย่างที่มีการตั้งข้อสังเกต ส่วนถ้าเห็นใครมีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง หรือมองว่ากระบวนการไม่ชอบก็สามารถร้องเข้ามาที่กกต.ได้ โดยกกต.สามารถพิจารณาเรื่องกระบวนการได้ แต่พิจารณาเรื่องดุลยพินิจไม่ได้
“ขณะนี้มีการแข็งขันกันสูง รวมทั้งยังมีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ขนาดระมัดระวังอย่างมากก็ยังมีข่าวลือออกมาว่ามีการล็อกสเป็ก ผมยืนยันว่าคณะกรรมการสรรหาส.ว.ได้มีการพิจารณากันอย่างรอบคอบ โปร่งใส และคำนึงถึงความเหมาะสม ของความรู้ ความสามารถ สัดส่วนความเท่าเทียมกัน ทั้งในสัดส่วนของผู้หญิง ผู้ชาย ผู้ด้วยโอกาสทางสังคม และความหลากหลายทางอาชีพ”
