ASTVผู้จัดการรายวัน-"เพอร์เฟค" มั่นใจไตรมาสแรกทำยอดขายได้ 2,900 ล้านบาท คาดเพิ่มขึ้น 66% พร้อมเดินหน้ารุกตลาดบ้านระดับบน 7-25 ล้านบาท ดันแบรนด์ "เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ" ใน 4 ทำเลศักยภาพสูง เร่งเสริมจุดแข็ง จับมือเอสซีจีเปิดขายบ้านระบบโมดูลาร์เพิ่ม สปีดการขายคอนโด เมโทร พาร์ค ที่สร้างเสร็จพร้อมโอน ด้วยการเปิดคลับเฮ้าส์ริมทะเลสาบในโครงการ
นายชายนิด โง้วศิริมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 ว่า คาดว่าจะมียอดขายที่ 2,900 ล้านบาท ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา ที่ทำได้ 1,750 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 66% ซึ่งถือเป็นระดับที่น่าพอใจ
“ยอดขายบ้านและคอนโดของบริษัทในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้เป็นไปด้วยดี แม้จะยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติม ทั้งนี้ บริษัทยังคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นอีกในไตรมาส 2 โดยมีแผนรุกตลาดบ้านระดับบน ราคาตั้งแต่ 7-25 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ” ใน 4 ทำเล ได้แก่ รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ รังสิต และ รามคำแหง ซึ่งจากตัวเลขจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่าตลาดบ้านหรูโดยเฉพาะในระดับราคา 13-20 ล้านบาท มีการเปิดตัวไม่มากนักในกรุงเทพโซนตะวันตก ส่วนในโซนตะวันออกของกรุงเทพ ที่มีจำนวนเปิดขายมากกว่า ก็มีอัตราการดูดซับของตลาดที่ดีมาก ทำให้เรามีความมั่นใจในการเพิ่มยอดขายจากกลุ่มบ้านระดับบนนี้ ซึ่งยังคงมีความต้องการอยู่ "
สำหรับความร่วมมือกับเอสซีจีนั้น ทางบริษัทฯยังจะทำตลาดคู่ไปกับบ้านระบบโมดูลาร์ของ SCG-HEIM เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมา ได้เปิดตัวในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ พระราม9 ในไตรมาส 2 ปีนี้ จะมีการขยายไปยังโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ รัตนาธิเบศร์ และ รังสิต รวมถึงมีแผนเร่งการขายคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ในโครงการเมโทร พาร์ค สาทร ด้วยการเปิดสโมสรริมทะเลสาบขนาดใหญ่เพิ่มเติม เพื่อให้โครงการมีความสมบูรณ์พร้อมมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2554 พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค วางเป้าขายไว้ที่ 15,000 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 14 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 7 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ โดยโครงการแนวราบคิดเป็นมูลค่า ประมาณ 10,000 ล้านบาท สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม มีแผนจะเปิดอีก 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีหอพักนักศึกษา “ยูนิลอฟท์” ซึ่งจะเปิดตัวใน 2 ทำเลคือ บริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยมหิดล รวมมูลค่าประมาณ 2,060 ล้านบาท เมื่อรวมกับโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน จะทำให้มีโครงการรวมทั้งหมด 37 โครงการ พร้อมปรับสินค้าให้รองรับในทุกระดับราคาและครอบคลุมในทุกตลาด ตั้งแต่ คอนโดมิเนียม ราคา 1-5 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 1.5-5 ล้านบาท และ บ้านเดี่ยว ราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป
นายชายนิด โง้วศิริมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 ว่า คาดว่าจะมียอดขายที่ 2,900 ล้านบาท ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา ที่ทำได้ 1,750 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 66% ซึ่งถือเป็นระดับที่น่าพอใจ
“ยอดขายบ้านและคอนโดของบริษัทในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้เป็นไปด้วยดี แม้จะยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติม ทั้งนี้ บริษัทยังคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นอีกในไตรมาส 2 โดยมีแผนรุกตลาดบ้านระดับบน ราคาตั้งแต่ 7-25 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ” ใน 4 ทำเล ได้แก่ รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ รังสิต และ รามคำแหง ซึ่งจากตัวเลขจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่าตลาดบ้านหรูโดยเฉพาะในระดับราคา 13-20 ล้านบาท มีการเปิดตัวไม่มากนักในกรุงเทพโซนตะวันตก ส่วนในโซนตะวันออกของกรุงเทพ ที่มีจำนวนเปิดขายมากกว่า ก็มีอัตราการดูดซับของตลาดที่ดีมาก ทำให้เรามีความมั่นใจในการเพิ่มยอดขายจากกลุ่มบ้านระดับบนนี้ ซึ่งยังคงมีความต้องการอยู่ "
สำหรับความร่วมมือกับเอสซีจีนั้น ทางบริษัทฯยังจะทำตลาดคู่ไปกับบ้านระบบโมดูลาร์ของ SCG-HEIM เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมา ได้เปิดตัวในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ พระราม9 ในไตรมาส 2 ปีนี้ จะมีการขยายไปยังโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ รัตนาธิเบศร์ และ รังสิต รวมถึงมีแผนเร่งการขายคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ในโครงการเมโทร พาร์ค สาทร ด้วยการเปิดสโมสรริมทะเลสาบขนาดใหญ่เพิ่มเติม เพื่อให้โครงการมีความสมบูรณ์พร้อมมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2554 พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค วางเป้าขายไว้ที่ 15,000 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 14 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 7 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ โดยโครงการแนวราบคิดเป็นมูลค่า ประมาณ 10,000 ล้านบาท สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม มีแผนจะเปิดอีก 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีหอพักนักศึกษา “ยูนิลอฟท์” ซึ่งจะเปิดตัวใน 2 ทำเลคือ บริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยมหิดล รวมมูลค่าประมาณ 2,060 ล้านบาท เมื่อรวมกับโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน จะทำให้มีโครงการรวมทั้งหมด 37 โครงการ พร้อมปรับสินค้าให้รองรับในทุกระดับราคาและครอบคลุมในทุกตลาด ตั้งแต่ คอนโดมิเนียม ราคา 1-5 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 1.5-5 ล้านบาท และ บ้านเดี่ยว ราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป
