นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) เปิดเผยว่า ผลจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ทั้งแผ่นดินไหวในภาคเหนือ และ น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับแผนเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทาง โดยปรับเส้นทางเลี่ยงพื้นที่ที่ประสบภัย เช่น เส้นทาง ชุมพร พัทลุง นครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบ ก็นำเสนอเส้นทาง ระนอง พังงา และ ภูเก็ต ทดแทน เพื่อไม่ให้เกิดการยดเลิกการเดินทาง เบื้องต้น นักท่องเที่ยวก็เข้าใจและยินยอม
ทั้งนี้แม้ไม่มียอดการยกเลิก แต่ ก็ไม่มียอดบุ๊กกิ้งใหม่ๆเข้ามาเลยในช่วงนี้ ซึ่งเป็นผลทางด้านจิตวิทยา จากข่าวภัยธรรมชาติที่เกิดในหลายพื้นที่ทำ ให้นักท่องเที่ยวชะลอแผนการเดินทางท่องเที่ยวไว้ก่อน ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ คาดว่าจะกระทบสถานการณ์ท่องเที่ยวเดือนเม.ย. โดยเฉพาะในช่วง เทศกาลสงกรานต์ ทำให้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจองเดินทางเฉพาะที่เดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวสูงสุดเพียง 60-70% ของจำนวนแพเกจทัวร์ที่สามารถรองรับได้ ลดลง 20-30% จากเดิมที่ประเมินว่าจะได้ 80-90% เพราะปีนี้สถานการณ์การเมืองในประเทศสู่ภาวะปกติ แต่ก็ต้องมาเจอกับปัญหาภัยธรรมชาติ ซึ่งผู้ประกบอการก็รู้สึกเห็นใจประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่
ดังนั้นเมื่อหลังน้ำลด จะหารือผู้ประกอบการท้องถิ่น จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม เตรียมเสนอในที่ประชุมแผนของ ททท.ภูมิภาค ภาคใต้ด้วยว่า ในฐานะหน่วยงานรัฐ ขอให้ช่วยประชาสมัพันธ์ข่าวการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวภายหลังน้ำลดด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวรับทราบและกลับไปท่องเที่ยวตามปกติได้รวดเร็ว เพื่อเยียวยาพื้นที่ที่ประสบภัย
จากปัจจัยลบที่มาจากหลายด้าน มีผลต่อจิตวิทยานักท่องเที่ยว ทำให้ใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวอย่างระมัดระวังมากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของคนไทย ลดลงเกือบ 40% เช่น ถ้าค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 10,000 บาทต่อคนต่อทริป ก็ลดเหลือ 6,000 บาทต่อคนต่อทริป
**ททท.ยอมรับน้ำท่วมฉุดท่องเที่ยว**
นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้าตลาดในประเทศ ททท.กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคใต้ มีผลกระทบให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจจะต้องชะลอแผนการท่องเที่ยวในช่วงนี้ เพราะมีอุปสรรเรื่องการเดินทาง มีรายงานว่า นักท่องเที่ยวเดินป่าที่นครศรีธรรมราช ยกเลิกการเดินทางหมดแล้ว ซึ่งททท. อยู่ในช่วงเฝ้าระวังและติดตามความเคลื่อนไหวในแต่ละพื้นที่ เพื่อเตรียมหาแนวทางรับมือต่อไป
ทั้งนี้แม้ไม่มียอดการยกเลิก แต่ ก็ไม่มียอดบุ๊กกิ้งใหม่ๆเข้ามาเลยในช่วงนี้ ซึ่งเป็นผลทางด้านจิตวิทยา จากข่าวภัยธรรมชาติที่เกิดในหลายพื้นที่ทำ ให้นักท่องเที่ยวชะลอแผนการเดินทางท่องเที่ยวไว้ก่อน ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ คาดว่าจะกระทบสถานการณ์ท่องเที่ยวเดือนเม.ย. โดยเฉพาะในช่วง เทศกาลสงกรานต์ ทำให้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจองเดินทางเฉพาะที่เดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวสูงสุดเพียง 60-70% ของจำนวนแพเกจทัวร์ที่สามารถรองรับได้ ลดลง 20-30% จากเดิมที่ประเมินว่าจะได้ 80-90% เพราะปีนี้สถานการณ์การเมืองในประเทศสู่ภาวะปกติ แต่ก็ต้องมาเจอกับปัญหาภัยธรรมชาติ ซึ่งผู้ประกบอการก็รู้สึกเห็นใจประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่
ดังนั้นเมื่อหลังน้ำลด จะหารือผู้ประกอบการท้องถิ่น จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม เตรียมเสนอในที่ประชุมแผนของ ททท.ภูมิภาค ภาคใต้ด้วยว่า ในฐานะหน่วยงานรัฐ ขอให้ช่วยประชาสมัพันธ์ข่าวการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวภายหลังน้ำลดด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวรับทราบและกลับไปท่องเที่ยวตามปกติได้รวดเร็ว เพื่อเยียวยาพื้นที่ที่ประสบภัย
จากปัจจัยลบที่มาจากหลายด้าน มีผลต่อจิตวิทยานักท่องเที่ยว ทำให้ใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวอย่างระมัดระวังมากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของคนไทย ลดลงเกือบ 40% เช่น ถ้าค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 10,000 บาทต่อคนต่อทริป ก็ลดเหลือ 6,000 บาทต่อคนต่อทริป
**ททท.ยอมรับน้ำท่วมฉุดท่องเที่ยว**
นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้าตลาดในประเทศ ททท.กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคใต้ มีผลกระทบให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจจะต้องชะลอแผนการท่องเที่ยวในช่วงนี้ เพราะมีอุปสรรเรื่องการเดินทาง มีรายงานว่า นักท่องเที่ยวเดินป่าที่นครศรีธรรมราช ยกเลิกการเดินทางหมดแล้ว ซึ่งททท. อยู่ในช่วงเฝ้าระวังและติดตามความเคลื่อนไหวในแต่ละพื้นที่ เพื่อเตรียมหาแนวทางรับมือต่อไป
