ตาก- พม่าปิดด่านยาว 8 เดือน ทำไทยสูญส่งออกกว่า 9,000-10,000 ล้านแล้ว เฉลี่ยลดลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ แถมยังไร้สัญญาณเปิดด่านฯในอนาคตอันใกล้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพม่าปิดพรมแดนด้านเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2553 จนถึงขณะนี้เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 8 เดือน ส่งผลให้การส่งสินค้าข้ามแดนของกลุ่มพ่อค้าและผู้ประกอบการค้าทำได้ยากลำบาก แม้ทางการพม่าจะผ่อนปรนให้สามารถส่งออกตามท่าเรือขนส่งสินค้าริมแม่น้ำเมยในท่าต่างๆได้บ้างก็ตาม
ก่อนหน้านี้แต่ละปีไทยจะมีการส่งออกไปพม่า เป็นจำนวนมาก เช่น ปี 2552 ไทยส่งออกไปพม่ามูลค่ากว่า 22,174 ล้านบาท (สองหมื่นสองพันหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสี่ล้านบาท) ปี 2553 ไทยส่งออกไปพม่ารวม 28,673 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 2,400 ล้านบาท แต่หลังจากพม่าปิดด่านการส่งออกลดลงอย่างเห็นได้ชัด เหลือเดือนละประมาณ 1,200 ล้านบาท คือลดลงกว่าครึ่ง สูญเสียมูลค่าการค้าไปแล้วกว่า 9,000-10,000 ล้านบาท
ส่วนสินค้า 10 อันดับส่งออกสูงสุด ได้แก่ น้ำมันเบนซิน กาแฟผงสำเร็จรูป ผงชูรส น้ำมันดีเซล รถยนต์เก่าใช้แล้ว น้ำมันพืช เบียร์ รถจักรยานยนต์ และยารักษาโรค
สำหรับการนำเข้า ปี 53 มีมูลค่า 1,100 ล้านบาท สินค้านำเข้ายอดฮิต คือ สิ่งประดิษฐ์ที่ทำด้วยไม้ โค-กระบือมีชีวิต แร่ และอาหารทะเล และจากการส่งออกชะลอตัวทำให้สินค้าตกค้างฝั่งไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะอุปกรณ์การก่อสร้าง รวมทั้งรถยนต์ใช้แล้วที่จอดตามคลังสินค้าตามท่าเรือต่างๆนับหมื่นคัน
เรือโทศุภชัย สระสมบูรณ์ ผู้ช่วยนายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าวว่าตั้งแต่พม่าปิดด่านทำให้การนำเข้าส่งออกลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแนวโน้มการเปิดด่านยังไม่มีสัญญาณที่ดีในเวลาอันใกล้ คงเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงและเรื่องระหว่างประเทศ ที่จะดำเนินการเจรจา
“มูลเหตุที่ยังเปิดด่านไม่ได้ อาจจะเกิดจากชนกลุ่มน้อย และทางการพม่ายังมีการสู้รบกันอยู่ตามพื้นที่ชายแดน”