ASTVผู้จัดการรายวัน- พันธมิตรฯ โวยแหลกตำรวยปล่อยรถไอ้โม่งป่วนที่ชุมนุม "ประพันธ์" ปูดรถวอลโว่นิรนามกบดานใกล้ที่ทำการปชป. หลังก่อเหตุชนพ่อค้าขายเสื้อผ้าในที่ชุมนุมบาดเจ็บ ขณะที่ผู้เสียหายแจ้งความแล้ว เผยขับเข้ามาป่วนในบริเวณที่ชุมนุมถึง 3 รอบ ก่อนเร่งความเร็วตั้งใจพุ่งชนกลุ่มผู้ชุมนุม ด้านครม.ให้ต่อพ.ร.บ.มั่นคงฯ อีก 30 วัน ส่วน "เสธ.หนั่น" บีบตำรวจไล่บี้พันธมิตรฯ ขอคืนพื้นที่อีกรอบ
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ( 22 มี.ค.) ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มี.ค. ที่มีรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีเทาดำ ทะเบียน กก 423 สงขลา บีบแตร และวิ่งด้วยความเร็วจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ เข้ามาบริเวณ ถ.ราชดำเนินนอก ฝั่งกระทรวงศึกษาธิการ เป็นเหตุให้มีการเฉี่ยวชนผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า นายหมี อาชีพพ่อค้า ซึ่งเป็นอดีตการ์ดอาสาพันธมิตรฯ จนได้รับบาดเจ็บที่สะโพกว่า ทราบว่าภายหลังรถเก๋งคันดังกล่าวก่อเหตุเรียบร้อยแล้ว ได้มีการขับรถไปจอดอยู่ภายในร้านสวัสดิการทหารบก จึงได้มีการถ่ายรูปไว้ โดยขณะนี้ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีต่อไป
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า วิธีคิดของรัฐบาลที่จะเปิดเส้นทางการจราจรในพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว ไม่มีเหตุผลที่สมควร และไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรให้ดีขึ้น รวมไปถึงทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ชุมนุมด้วย โดยไม่มั่นใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกหรือไม่ เพราะการกระทำดังกล่าวมาจากผู้ไม่หวังดีต่อพันธมิตรฯ หรืออาจเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะว่าจากการสังเกตพบว่า รถคันดังกล่าวได้วิ่งเข้ามาในพื้นที่นี้หลายครั้งแล้ว
"ขอเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล อยากให้เจ้าหน้าที่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนด้วย ไม่ใช่แต่จะหาทางขับไล่สลายการชุมนุม หรือคุกคามสิทธิของประชาชน เพราะว่าตำรวจอยู่ในฐานะของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" นายประพันธ์กล่าว
ในส่วนกรณีการประกาศขยายการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ อีก 30 วันนั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า ภาคประชาชนขอประณามรัฐบาลที่ยังคงให้มีการประกาศใช้อย่างไม่มีความชอบธรรม แต่ขอยืนยันว่าไม่รู้สึกหวั่นต่อการบังคับใช้กฎหมายแต่อย่างใด และยืนยันจะยังคงชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาปกป้องอธิปไตยอย่างต่อเนื่อง
**แจ้งจับเก๋งวอลโว่ป่วนพันธมิตรฯ
ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่สน.ดุสิต นายทศพล แก้วประชุม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229/155 หมู่ 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม เดินทางเข้าแจ้งความกับร.ต.ท.ขรรค์ชัย เดิมยิริง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ดุสิต ว่า ถูกรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ตั้งใจพุ่งชนขณะกำลังนั่งขายเสื้อ อยู่ในเขตของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา
นายทศพลให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนนั่งขายเสื้ออยู่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาฯ ก็มีรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีดำ รุ่นเก่า หมายเลขทะเบียน กก 423 สงขลา ขับเข้ามาบีบแตรไล่ป่วนในบริเวณที่ชุมนุม ตั้งแต่ช่วงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ไปจนถึงแยกมิสกวัน แล้ววนกลับมาใหม่ถึง 2 รอบ จนกระทั่งรอบที่ 3 รถคันเดิมก็ขับวนกลับมาจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ใหม่อีกรอบ แต่คราวนี้ได้เพิ่มความเร็ว พร้อมทั้งตั้งใจขับพุ่งมายังบริเวณที่กลุ่มผู้ชุมนุมนั่งอยู่ ก่อนจะพุ่งชนรั้วเหล็กจนล้มไป 3 แผง พร้อมทั้งขับลากแผงเหล็กมุ่งหน้าไปกลับรถที่แยกมิสกวัน
จากนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับพุ่งตรงกลับมาที่กลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้ง ซึ่งตนกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามลุกฮือกันเข้าไปหยุดรถเก๋งคันดังกล่าวไว้ จึงทำให้ตนถูกรถคันดังกล่าวชนเข้าที่ขา จนได้รับบาดเจ็บ เป็นรอยถลอกและฟกช้ำ จากนั้นรถคันดังกล่าวได้รีบขับหลบหนีไปทางสะพานมัฆวานฯ อย่างรวดเร็ว ซึ่งตนจำได้ว่าในรถคันดังกล่าวมีผู้ชายนั่งอยู่ 2 คน โดยคนขับอายุ ประมาณ 40 ปี ส่วนคนนั่งข้างนั้น อายุประมาณ 50-60 ปี หลังจากนั้นตนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ก่อนจะตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามจับกุมตัวเจ้าของรถมาดำเนินคดีต่อไป
ด้านร.ต.ท.ขรรค์ชัย กล่าวว่า หลังรับแจ้งความ จะทำการตรวจสอบว่า หมายเลขทะเบียนรถ กก 423 สงขลา ที่ผู้เสียหายจดจำได้นั้น ตรงกับรถเก๋งยี่ห้อ วอลโว่ สีดำหรือไม่ ซึ่งถ้าตรงกันจะออกหมายเรียกให้เจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าวมาสอบปากคำว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่ พร้อมทั้งส่งคดีนี้ให้คณะทำงานคดีพิเศษพิจารณาว่า เข้าข่ายความผิดข้อหาใด แต่หากตรวจสอบแล้วหมายเลขทะเบียนดังกล่าว ไม่ตรงกับรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่า รถคันที่ก่อเหตุนั้นหมายเลขทะเบียนอะไร เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
** ต่อพ.ร.บ.มั่นคงอีก 30 วัน
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (22 มี.ค.) ว่า ครม.ได้อนุมัติการขอขยายเวลาพ.ร.บ. รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยจะประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในพื้นที่ 7 เขตของกรุงเทพฯ เหมือนเดิม ประกอบด้วย เขตพระนคร ,วังทองหลาง , ดุสิต ,วัฒนา ,ราชเทวี , ป้อมปราบศัตรูพ่าย และ ปทุมวัน ซึ่งจะประกาศเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-24 เม.ย.2554
** "เสธ.หนั่น"บีบตร.ไล่บี้พันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมครม.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นผู้เสนอเรื่องนี้ขึ้น โดยพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธ์ศรี ผบ.ตร.ได้เป็นผู้ชี้แจงถึงเหตุผล และความจำเป็นในการขอขยายเวลาพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยพล.ต.อ.วิเชียร ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง แต่ตนมองว่าการชุมนุมอาจจะมีความยืดเยื้อ และอาจจะมีผู้ประสงค์ร้าย อาศัยช่วงเวลาในการชุมนุมก่อความไม่สงบ จึงได้เสนอให้ต่อพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ต่อไปอีก
นอกจากนี้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงที่ผ่านมาว่า ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ปัญหาการชุมนุมของม็อบหน้าทำเนียบฯ ที่จะมีผลให้เกิดปัญหาด้านการจราจรในช่วงงานกาชาดได้ จึงขอฝากให้ผบ.ตร. ช่วยไปเจรจา ขอให้เปิดเส้นทางการจราจรด้วย ซึ่งผบ.ตร.ก็รับจะไปดำเนินการ
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ( 22 มี.ค.) ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มี.ค. ที่มีรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีเทาดำ ทะเบียน กก 423 สงขลา บีบแตร และวิ่งด้วยความเร็วจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ เข้ามาบริเวณ ถ.ราชดำเนินนอก ฝั่งกระทรวงศึกษาธิการ เป็นเหตุให้มีการเฉี่ยวชนผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า นายหมี อาชีพพ่อค้า ซึ่งเป็นอดีตการ์ดอาสาพันธมิตรฯ จนได้รับบาดเจ็บที่สะโพกว่า ทราบว่าภายหลังรถเก๋งคันดังกล่าวก่อเหตุเรียบร้อยแล้ว ได้มีการขับรถไปจอดอยู่ภายในร้านสวัสดิการทหารบก จึงได้มีการถ่ายรูปไว้ โดยขณะนี้ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีต่อไป
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า วิธีคิดของรัฐบาลที่จะเปิดเส้นทางการจราจรในพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว ไม่มีเหตุผลที่สมควร และไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรให้ดีขึ้น รวมไปถึงทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ชุมนุมด้วย โดยไม่มั่นใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกหรือไม่ เพราะการกระทำดังกล่าวมาจากผู้ไม่หวังดีต่อพันธมิตรฯ หรืออาจเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะว่าจากการสังเกตพบว่า รถคันดังกล่าวได้วิ่งเข้ามาในพื้นที่นี้หลายครั้งแล้ว
"ขอเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล อยากให้เจ้าหน้าที่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนด้วย ไม่ใช่แต่จะหาทางขับไล่สลายการชุมนุม หรือคุกคามสิทธิของประชาชน เพราะว่าตำรวจอยู่ในฐานะของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" นายประพันธ์กล่าว
ในส่วนกรณีการประกาศขยายการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ อีก 30 วันนั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า ภาคประชาชนขอประณามรัฐบาลที่ยังคงให้มีการประกาศใช้อย่างไม่มีความชอบธรรม แต่ขอยืนยันว่าไม่รู้สึกหวั่นต่อการบังคับใช้กฎหมายแต่อย่างใด และยืนยันจะยังคงชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาปกป้องอธิปไตยอย่างต่อเนื่อง
**แจ้งจับเก๋งวอลโว่ป่วนพันธมิตรฯ
ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่สน.ดุสิต นายทศพล แก้วประชุม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229/155 หมู่ 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม เดินทางเข้าแจ้งความกับร.ต.ท.ขรรค์ชัย เดิมยิริง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ดุสิต ว่า ถูกรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ตั้งใจพุ่งชนขณะกำลังนั่งขายเสื้อ อยู่ในเขตของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา
นายทศพลให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนนั่งขายเสื้ออยู่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาฯ ก็มีรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีดำ รุ่นเก่า หมายเลขทะเบียน กก 423 สงขลา ขับเข้ามาบีบแตรไล่ป่วนในบริเวณที่ชุมนุม ตั้งแต่ช่วงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ไปจนถึงแยกมิสกวัน แล้ววนกลับมาใหม่ถึง 2 รอบ จนกระทั่งรอบที่ 3 รถคันเดิมก็ขับวนกลับมาจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ใหม่อีกรอบ แต่คราวนี้ได้เพิ่มความเร็ว พร้อมทั้งตั้งใจขับพุ่งมายังบริเวณที่กลุ่มผู้ชุมนุมนั่งอยู่ ก่อนจะพุ่งชนรั้วเหล็กจนล้มไป 3 แผง พร้อมทั้งขับลากแผงเหล็กมุ่งหน้าไปกลับรถที่แยกมิสกวัน
จากนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับพุ่งตรงกลับมาที่กลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้ง ซึ่งตนกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามลุกฮือกันเข้าไปหยุดรถเก๋งคันดังกล่าวไว้ จึงทำให้ตนถูกรถคันดังกล่าวชนเข้าที่ขา จนได้รับบาดเจ็บ เป็นรอยถลอกและฟกช้ำ จากนั้นรถคันดังกล่าวได้รีบขับหลบหนีไปทางสะพานมัฆวานฯ อย่างรวดเร็ว ซึ่งตนจำได้ว่าในรถคันดังกล่าวมีผู้ชายนั่งอยู่ 2 คน โดยคนขับอายุ ประมาณ 40 ปี ส่วนคนนั่งข้างนั้น อายุประมาณ 50-60 ปี หลังจากนั้นตนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ก่อนจะตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามจับกุมตัวเจ้าของรถมาดำเนินคดีต่อไป
ด้านร.ต.ท.ขรรค์ชัย กล่าวว่า หลังรับแจ้งความ จะทำการตรวจสอบว่า หมายเลขทะเบียนรถ กก 423 สงขลา ที่ผู้เสียหายจดจำได้นั้น ตรงกับรถเก๋งยี่ห้อ วอลโว่ สีดำหรือไม่ ซึ่งถ้าตรงกันจะออกหมายเรียกให้เจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าวมาสอบปากคำว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่ พร้อมทั้งส่งคดีนี้ให้คณะทำงานคดีพิเศษพิจารณาว่า เข้าข่ายความผิดข้อหาใด แต่หากตรวจสอบแล้วหมายเลขทะเบียนดังกล่าว ไม่ตรงกับรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่า รถคันที่ก่อเหตุนั้นหมายเลขทะเบียนอะไร เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
** ต่อพ.ร.บ.มั่นคงอีก 30 วัน
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (22 มี.ค.) ว่า ครม.ได้อนุมัติการขอขยายเวลาพ.ร.บ. รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยจะประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในพื้นที่ 7 เขตของกรุงเทพฯ เหมือนเดิม ประกอบด้วย เขตพระนคร ,วังทองหลาง , ดุสิต ,วัฒนา ,ราชเทวี , ป้อมปราบศัตรูพ่าย และ ปทุมวัน ซึ่งจะประกาศเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-24 เม.ย.2554
** "เสธ.หนั่น"บีบตร.ไล่บี้พันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมครม.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นผู้เสนอเรื่องนี้ขึ้น โดยพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธ์ศรี ผบ.ตร.ได้เป็นผู้ชี้แจงถึงเหตุผล และความจำเป็นในการขอขยายเวลาพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยพล.ต.อ.วิเชียร ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง แต่ตนมองว่าการชุมนุมอาจจะมีความยืดเยื้อ และอาจจะมีผู้ประสงค์ร้าย อาศัยช่วงเวลาในการชุมนุมก่อความไม่สงบ จึงได้เสนอให้ต่อพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ต่อไปอีก
นอกจากนี้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงที่ผ่านมาว่า ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ปัญหาการชุมนุมของม็อบหน้าทำเนียบฯ ที่จะมีผลให้เกิดปัญหาด้านการจราจรในช่วงงานกาชาดได้ จึงขอฝากให้ผบ.ตร. ช่วยไปเจรจา ขอให้เปิดเส้นทางการจราจรด้วย ซึ่งผบ.ตร.ก็รับจะไปดำเนินการ