ASTVผู้จัดการรายวัน-ITD คว้าก่อสร้างสะพานนนท์ฯ 1 เสนอราคาต่ำสุด 4,500 ล้านบาทขณะที่ ซิโน-ไทยเสนอ 4,800 ล้านบาท “ทช.”เผยเอกชนเสนอสูงกว่าราคากลางกว่า 500 ล้านบาทอ้างต้นทุนค่าก่อสร้างปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน เตรียมเรียกต่อรองตามก่อน ระบุหากเอกชนไม่ลดราคา ต้องเสนอไจก้าและครม.ตัดสินใจเดินหน้าโครงการหรือไม่
นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานนนทบุรี 1 ระยะทาง 4.3 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 3,496 ล้านบาท ว่า หลังจากที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ได้เห็นชอบผลการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคของบริษัทเอกชนยื่นข้อเสนอ 2 ราย คือ กิจการร่วมค้า ST (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บจ.ไทเซอิ คอร์ปอเรชั่น) และ กิจการร่วมค้า ITD-SMCC (บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และ บจ.สุมิโตโม มิตซุย คอนสตรัคชั่น) แล้ว เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2554 ที่ผ่านมากรมฯ ได้เปิดซองข้อเสนอด้านราคาปรากฎว่า กิจการร่วมค้า ITD-SMCC เสนอราคาต่ำสุดวงเงิน 4,500 ล้านบาท บาท ขณะที่กิจการร่วมค้า ST เสนอราคาวงเงิน 4,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรณีที่กลุ่มกิตาเลียนไทยฯ เสนอราคาสูงกว่าราคากลางที่กำหนด ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ คณะกรรมการประกวดราคาฯจะเรียกกิจการร่วมค้า ITD-SMCC มาเจรจาต่อรองราคา โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปรายงานกระทรวงคมนาคม และไจก้า เพื่อพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า
“กลุ่มของอิตาเลียนไทยฯ เสนอราคาสูงกว่าราคากลาง กว่า 500 ล้านบาท โดยทางบริษัท ให้เหตุผลว่าเป็นผลมาจาก ปัจจุบันราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก จึงส่งผลกระทบต่อราคาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างที่มีการปรับขึ้นราคาตามไปด้วย”นายวิชาญกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายวิชาญกล่าวยอมรับว่า วงเงินค่าก่อสร้างที่กลุ่มอิตาเลียนไทยฯ เสนอมานั้นสูงกว่าราคากลางค่อนข้างมาก ซึ่งหากเอกชนไม่ยอมปรับลดราคาลง จะมีการยกเลิกการประกวดราคาหรือจะเดินหน้าโครงการต่อนั้น ต้องขึ้นกับการพิจารณาและตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะเลือกแนวทางใดในการดำเนินโครงการ เนื่องจาก ขณะนี้ กรมฯได้ทำการเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จครบ 100 % วงเงินค่าเวนคืนประมาณ 2,000 ล้านบาท และเป็นโครงการที่ใช้เงินกู้จากไจก้า 70% ใช้งบประมาณ 30%
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานนนทบุรี 1 วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้างประมาณ 3,796 ล้านบาท ค่าเวนคืนประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยตากขั้นตอนหลังเสนอผลด้านราคาให้ไจก้าพิจารณาอนุมัติแล้ว จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติเพื่อขออนุมัติลงนามในสัญญาก่อสร้างต่อไป คาดว่าจะลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างประมาณกลางปี 2554 ใช้เวลาก่อสร้าง 30 เดือนแล้วเสร็จ ปี 2556
โดยจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่ถนนนนทบุรี 1 ใกล้โรงเรียนศรีบุณยานนท์ แนวเส้นทางในช่วงต้นอยู่ในพื้นที่ด้านใต้ของท่าน้ำพิบูลสงคราม 4 และชุมชนตลาดขวัญ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปขึ้นฝั่งด้านตะวันตกบริเวณพื้นที่ฝั่งใต้ของคลองอ้อมนนท์ โดยแนวเส้นทางจะอยู่ในพื้นที่ระหว่างศาลหลักเมืองซึ่งอยู่ทางด้านเหนือ และอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษกที่อยู่ทางด้านใต้ ของแนวตามลำดับ เมื่อแนวเส้นทางผ่านอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษกแล้วแนวจะเบนไปทางทิศตะวันตก ตัดผ่านถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่า น้ำนนทบุรี ประมาณที่ กม.1 + 300 จากนั้น แนวจะวางตัวขนานไปทางด้านใต้ของแนวถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรี ผ่านพื้นที่ว่างเปล่าและสวน และจะบรรจบซ้อนทับกับถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรี ที่ประมาณ กม.2+600ไปจนถึงจุดสิ้นสุดโครงการที่ถนนราชพฤกษ์
นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานนนทบุรี 1 ระยะทาง 4.3 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 3,496 ล้านบาท ว่า หลังจากที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ได้เห็นชอบผลการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคของบริษัทเอกชนยื่นข้อเสนอ 2 ราย คือ กิจการร่วมค้า ST (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บจ.ไทเซอิ คอร์ปอเรชั่น) และ กิจการร่วมค้า ITD-SMCC (บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และ บจ.สุมิโตโม มิตซุย คอนสตรัคชั่น) แล้ว เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2554 ที่ผ่านมากรมฯ ได้เปิดซองข้อเสนอด้านราคาปรากฎว่า กิจการร่วมค้า ITD-SMCC เสนอราคาต่ำสุดวงเงิน 4,500 ล้านบาท บาท ขณะที่กิจการร่วมค้า ST เสนอราคาวงเงิน 4,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรณีที่กลุ่มกิตาเลียนไทยฯ เสนอราคาสูงกว่าราคากลางที่กำหนด ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ คณะกรรมการประกวดราคาฯจะเรียกกิจการร่วมค้า ITD-SMCC มาเจรจาต่อรองราคา โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปรายงานกระทรวงคมนาคม และไจก้า เพื่อพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า
“กลุ่มของอิตาเลียนไทยฯ เสนอราคาสูงกว่าราคากลาง กว่า 500 ล้านบาท โดยทางบริษัท ให้เหตุผลว่าเป็นผลมาจาก ปัจจุบันราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก จึงส่งผลกระทบต่อราคาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างที่มีการปรับขึ้นราคาตามไปด้วย”นายวิชาญกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายวิชาญกล่าวยอมรับว่า วงเงินค่าก่อสร้างที่กลุ่มอิตาเลียนไทยฯ เสนอมานั้นสูงกว่าราคากลางค่อนข้างมาก ซึ่งหากเอกชนไม่ยอมปรับลดราคาลง จะมีการยกเลิกการประกวดราคาหรือจะเดินหน้าโครงการต่อนั้น ต้องขึ้นกับการพิจารณาและตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะเลือกแนวทางใดในการดำเนินโครงการ เนื่องจาก ขณะนี้ กรมฯได้ทำการเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จครบ 100 % วงเงินค่าเวนคืนประมาณ 2,000 ล้านบาท และเป็นโครงการที่ใช้เงินกู้จากไจก้า 70% ใช้งบประมาณ 30%
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานนนทบุรี 1 วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้างประมาณ 3,796 ล้านบาท ค่าเวนคืนประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยตากขั้นตอนหลังเสนอผลด้านราคาให้ไจก้าพิจารณาอนุมัติแล้ว จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติเพื่อขออนุมัติลงนามในสัญญาก่อสร้างต่อไป คาดว่าจะลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างประมาณกลางปี 2554 ใช้เวลาก่อสร้าง 30 เดือนแล้วเสร็จ ปี 2556
โดยจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่ถนนนนทบุรี 1 ใกล้โรงเรียนศรีบุณยานนท์ แนวเส้นทางในช่วงต้นอยู่ในพื้นที่ด้านใต้ของท่าน้ำพิบูลสงคราม 4 และชุมชนตลาดขวัญ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปขึ้นฝั่งด้านตะวันตกบริเวณพื้นที่ฝั่งใต้ของคลองอ้อมนนท์ โดยแนวเส้นทางจะอยู่ในพื้นที่ระหว่างศาลหลักเมืองซึ่งอยู่ทางด้านเหนือ และอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษกที่อยู่ทางด้านใต้ ของแนวตามลำดับ เมื่อแนวเส้นทางผ่านอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษกแล้วแนวจะเบนไปทางทิศตะวันตก ตัดผ่านถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่า น้ำนนทบุรี ประมาณที่ กม.1 + 300 จากนั้น แนวจะวางตัวขนานไปทางด้านใต้ของแนวถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรี ผ่านพื้นที่ว่างเปล่าและสวน และจะบรรจบซ้อนทับกับถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรี ที่ประมาณ กม.2+600ไปจนถึงจุดสิ้นสุดโครงการที่ถนนราชพฤกษ์