ASTVผู้จัดการรายวัน - “อ.ส.ค.” ออกโรงชี้แจงกรณีศาลพิพากษาให้ “บริษัท นมไทย-เดนมาร์ค จำกัด” ชี้ชัดเป็นลูกหนี้ อสค. และอดีตบริษัทร่วมทุนจัดจำหน่าย ย้ำนมไทย-เดนมาร์คยังอยู่ ลั่นปีนี้ขอโตอีก 10%
นายนพดล ตันวิเชียร ผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) ผู้ผลิตนมไทย-เดนมาร์คหรือนมตราวัวแดง เปิดเผยว่า จากกรณีวันที่ 10 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมาราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำพิพากษาให้บริษัท นมไทย-เดนมาร์ค จำกัดล้มละลาย ส่งผลให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปเกิดความเข้าใจผิดอย่างกว้างขวางว่าจะไม่มีผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คในท้องตลาดอีกต่อไปแล้วถือเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก
เนื่องจากข้อเท็จจริงนั้น บริษัท นมไทย-เดนมาร์คจำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ผู้ถือหุ้นกลุ่ม ก ซึ่งได้แก่ ชุมนุมสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมแห่งประเทศไทย กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อ.ส.ค. กลุ่มพนักงาน อ.ส.ค. ธกส.และอตก.กับผู้ถือหุ้นกลุ่ม ข คือ บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล โปรดักส์ จำกัด โดยบริษัทจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดจำหน่ายนมไทย-เดนมาร์คในช่วงปี 2537-2539 เท่านั้น
บริษัทดังกล่าวมีผลการดำเนินงานปี 2537 ตามเป้าหมายของสัญญา แต่ปี 2538-2539 บริษัทไทย-เดนมาร์คฯเริ่มมีปัญหาไม่สามารถชำระหนี้ อ.ส.ค. ได้ตามกำหนด ทำให้ อ.ส.ค. ยกเลิกสัญญาซื้อขายระหว่าง อ.ส.ค. กับบริษัทนมไทย-เดนมาร์คในปี 2539 และได้มีการดำเนินคดีมาสิ้นสุดจนเป็นข่าวดังกล่าว ดังนั้นในปัจจุบันบริษัทนมไทย-เดนมาร์คจำกัดจึงอยู่ในสถานะลูกหนี้ของ อ.ส.ค.เท่านั้น
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวปัจจุบันอ.ส.ค. ได้ดำเนินการทางการตลาดด้วยตัวเองมาโดยตลอด โดยรอบ 5 ปีที่ผ่านมาในปี 2549 มียอดจำหน่าย 3,400 ล้านบาท ปี 2550 มียอดจำหน่าย 3,460 ล้านบาท ปี 2551 มียอดจำหน่าย 4,120 ล้านบาท ปี 2552 มียอดจำหน่าย 5,640 ล้านบาท ปี 2553 มียอดจำหน่าย 6,000 ล้านบาท
ส่วนปีนี้ อ.ส.ค.มีแผนจะออกแคมเปญโฆษณา จัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดปูพรมทั่วประเทศ จัดอีเวนต์ตามโมเดิร์นเทรด เดินหน้าสร้างแบรนดให้แข็งแกร่ง พัฒนาผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มใหม่ๆ ดังนั้นขอให้บริโภคจงมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ไทย-เดนมาร์คหรือนมวัวแดงจะยังคงอยู่คู่คนไทยตลอดไป หลังจากอยุ่มาแล้ว 50 ปี
ปัจจุบันนมไทยเดนมาร์คมีส่วนแบ่งตลาด 34.3% เติบโต 3.8% ในขณะที่ตลาดนมโดยรวมของประเทศเติบโตเพียง 1.3% และวางเป้าหมายปีนี้ต้อง 5-10%
นายนพดล ตันวิเชียร ผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) ผู้ผลิตนมไทย-เดนมาร์คหรือนมตราวัวแดง เปิดเผยว่า จากกรณีวันที่ 10 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมาราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำพิพากษาให้บริษัท นมไทย-เดนมาร์ค จำกัดล้มละลาย ส่งผลให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปเกิดความเข้าใจผิดอย่างกว้างขวางว่าจะไม่มีผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คในท้องตลาดอีกต่อไปแล้วถือเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก
เนื่องจากข้อเท็จจริงนั้น บริษัท นมไทย-เดนมาร์คจำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ผู้ถือหุ้นกลุ่ม ก ซึ่งได้แก่ ชุมนุมสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมแห่งประเทศไทย กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อ.ส.ค. กลุ่มพนักงาน อ.ส.ค. ธกส.และอตก.กับผู้ถือหุ้นกลุ่ม ข คือ บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล โปรดักส์ จำกัด โดยบริษัทจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดจำหน่ายนมไทย-เดนมาร์คในช่วงปี 2537-2539 เท่านั้น
บริษัทดังกล่าวมีผลการดำเนินงานปี 2537 ตามเป้าหมายของสัญญา แต่ปี 2538-2539 บริษัทไทย-เดนมาร์คฯเริ่มมีปัญหาไม่สามารถชำระหนี้ อ.ส.ค. ได้ตามกำหนด ทำให้ อ.ส.ค. ยกเลิกสัญญาซื้อขายระหว่าง อ.ส.ค. กับบริษัทนมไทย-เดนมาร์คในปี 2539 และได้มีการดำเนินคดีมาสิ้นสุดจนเป็นข่าวดังกล่าว ดังนั้นในปัจจุบันบริษัทนมไทย-เดนมาร์คจำกัดจึงอยู่ในสถานะลูกหนี้ของ อ.ส.ค.เท่านั้น
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวปัจจุบันอ.ส.ค. ได้ดำเนินการทางการตลาดด้วยตัวเองมาโดยตลอด โดยรอบ 5 ปีที่ผ่านมาในปี 2549 มียอดจำหน่าย 3,400 ล้านบาท ปี 2550 มียอดจำหน่าย 3,460 ล้านบาท ปี 2551 มียอดจำหน่าย 4,120 ล้านบาท ปี 2552 มียอดจำหน่าย 5,640 ล้านบาท ปี 2553 มียอดจำหน่าย 6,000 ล้านบาท
ส่วนปีนี้ อ.ส.ค.มีแผนจะออกแคมเปญโฆษณา จัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดปูพรมทั่วประเทศ จัดอีเวนต์ตามโมเดิร์นเทรด เดินหน้าสร้างแบรนดให้แข็งแกร่ง พัฒนาผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มใหม่ๆ ดังนั้นขอให้บริโภคจงมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ไทย-เดนมาร์คหรือนมวัวแดงจะยังคงอยู่คู่คนไทยตลอดไป หลังจากอยุ่มาแล้ว 50 ปี
ปัจจุบันนมไทยเดนมาร์คมีส่วนแบ่งตลาด 34.3% เติบโต 3.8% ในขณะที่ตลาดนมโดยรวมของประเทศเติบโตเพียง 1.3% และวางเป้าหมายปีนี้ต้อง 5-10%